วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559

(MIE-Fanfiction)The Last Masquerade-1

เอนทรี่นี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของ 
 
New banner 
และ
 
New banner 
 
//////////////////////////////////////////////////

 
ดองมานานเพิ่งจะได้อัพ
//////////////////////////////////////////////////
The Last Masquerade-1
หนึ่งวันก่อนงานการกุศล "Whitmore's Masquerad Ball"
...............................................................
ซิลเวียนหลุบมองวัตถุชิ้นหนึ่งที่ทอดกายนิ่งบนโต๊ะทำงาน หน้ากากโลหะ สีสันบ่งบอกความเก่าแก่ของมัน ที่เดินทางมาไกลผ่านยุคและไกลผ่านอีกฟากทะเล ถึงเขาจะเป็นคนฝรั่งเศสที่จู้จี้กับงานศิลปะแต่ก็ยอมรับว่างานศิลป์ของญี่ปุ่นอันไกลโพ้นชิ้นนี้สวยจับตา
ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ของหน้ากาก "ยักษ์" ที่น่าเกรงขามนี้แต่เป็นความรู้สึกที่เขาได้เห็นมัน...รู้สึกเหมือนมองตัวเองในกระจก

"...ปิศาจเหมือนกัน..ว่างั้น?"

รอยยิ้มพรายที่มุมปาก มือกร้านหยิบหน้ากากมาลองสวมทับใบหน้า เตรียมพร้อมเพื่อวันพรุ่งนี้ งานการกุศลจัดโดยมูลนิธิวิทมอร์ ที่ไม่ต้องประกาศบอกองค์กรที่ตามกลิ่นเขาและชาร์ลอยู่ก็คงจะมาเพ่นพ่านอยู่เต็มงาน พวกนั้นระแคะระคายความสัมพันธ์ระหว่างMISและวิทมอร์อยู่เต็มทีจากเรื่องวุ่นวายที่มีเอเจนต์ของฝั่งนั้นมาเกี่ยว...
จากความผิดพลาดของเอซออฟไดมอนด์ยังผลให้เขาต้องเสียเพชรน้ำงามอย่างมีอาไป เขารู้ว่าชาร์ลคงไม่พอใจที่จะเสี่ยงให้ความลับในโลกมืดของตัวเองต้องเปิดเผย 
แต่ซิลเวียนไม่แคร์แล้ว
หมากเกมนี้ดำเนินมาจนใกล้จุดจบ เขาเสี่ยงเพื่อจะแลกกับศึกสุดท้ายนี้
ซึ่งผลมีเพียงแต่เขากับอีกคนเดียวเท่านั้นที่จะรู้ผลได้

ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องมาใช่ไหม...มิสเตอร์เอ็ม

เสียงเคาะแผ่วเบาดังขึ้นที่หน้าประตูห้องทำงานก่อนประตูเปิดแง้ม ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะคนที่เข้ามาภายในห้องนี้ได้มีเพียงมิสเตอร์เอส หัวหน้าผู้ก่อการร้ายกับมือขวาคนสนิทของเขาเท่านั้น

"...ไคล์?"

ชายสูงวัยกว่าเอ่ยทักชายหนุ่มร่างเพรียวผู้เดินเข้ามาในห้องพร้อมกล่องของในมือ ชายหนุ่มมองเขาด้วยสายตาพิศวงปนขบขัน ก่อนขยับเข้ามายืนเคียงข้างแล้วลูบสัมผัสผิวหน้ากากแผ่วเบา

"คุณอัลหน้าตาเปลี่ยนไปนะครับ.."

ซิลเวียนยิ้มบางใต้หน้ากาก รั้งเอวอีกคนเข้ามาแนบกาย พูดด้วยน้ำเสียงคล้ายหยอกล้อ

"ตอนนี้ชั้นคือปิศาจร้ายต่างหาก.."

เรียกเสียงหัวเราะขบขัน ไคล์ หรือโจกเกอร์ หรือเพชฌฆาตส่วนตัวของเขาถอดหน้ากากออกให้แล้ววางไว้บนโต๊ะ ดวงตาสีฟ้าสบมองเขาวูบหนึ่งเร็วจนไม่ทันเห็นความเศร้าหม่นในดวงตา

"ทุกอย่างสำหรับพรุ่งนี้พร้อมแล้วครับ..คุณอัล..."

ชายหนุ่มผละออกจากอ้อมกอดอย่างนุ่มนวลแล้วถอยมายืนเคียงข้าง คอยรับคำสั่งจากเขาแล้วทำตามเหมือนที่เคยทำมาทั้งชีวิต
แม้สิ่งที่ซิลเวียนต้องการจะเป็นการคร่าชีวิตตนเองก็ตาม

"ครั้งนี้.."

ชายสูงวัยหลับตาลง นึกถึงคนบางคนที่แผดเผาจิตใจเขาให้ร้อนรนตลอดมา

"ชั้นจะจบเรื่องกับไมลส์ซะที.."
...............................................................
เขาลืมตาขึ้นมา
ภาพที่เห็นตรงหน้า..ราวกับนรก...แบบที่เคยเห็นเป็นประจำ
เสียงระเบิด ควันไฟและเถ้าคละคลุ้งคาวกลิ่นเลือดในบรรยากาศทำเอาหายใจลำบาก
ไม่รวมกับความรู้สึกที่เหมือนโดนกระชากหัวใจออกไปทั้งเป็น
ซิลเวียนยืนหลบในมุมมืดของสิ่งหักพัง สายตาพร่าพรางเพราะพิษบาดแผลที่เสียเลือดมากจากการต่อสู้ สอดส่ายมองหาคนที่ต้องการเห็นตอนนี้
หนึ่งคือลูกน้องคนสนิทของเขาที่คิดว่าคงยังปลอดภัย..ไคล์ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง
เสียงลั่นกระสุนดังไม่ห่างนักมาจากห้องโถงที่เมื่อครู่ยังเป็นฟลอร์หรูให้แขกที่มางานเต้นรำได้สนุกสนาน บัดนี้มันกลายเป็นเพียงซากที่ถูกระเบิดจนพังยับเยิน
หางตาเห็นกลุ่มลูกน้องระดับล่างของชาร์ลยิงคุ้มกันคนของตนออกไป
ส่วนเอซออฟคลับส์และฮาร์ทน่าจะหลบไปได้... ไรอันเก่งในการเอาตัวรอดอยู่แล้ว
มิสเตอรเอสนิ่งคิด
ไม่ใช่ฝีมือเขา
ซิลเวียนแน่ใจ MISและชาร์ลไม่มีทางเสี่ยงปะทะตรงๆในงานที่เต็มไปด้วยสายตาของคนภายนอกแบบนี้ บางทีอาจเป็นฝีมือของคนฝั่งเอเจนต์MIE...ไม่ก็มือที่สาม
ชายสูงวัยขยับตัวอย่างยากลำบากจากบาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกาย ยังดีที่ในสภาพนี้เขารอดการจับกุมจากเอเจนต์ระดับสูงหลายคนมาได้
แม้จะต้องปะทะกันถึงเลือดเนื้อจนมีคนตายคามือเขาไปคนนึง
ซิลเวียนแค่นยิ้มกับโชคชะตาที่หมุนมาเอาคืนเขาเหมือนโรคร้าย
เอเจนต์006...ที่รัก..หรือเกือบเป็นที่รักของมิสเตอร์เอ็มผู้หมายจะจับตัวเขาแบบไม่ต้องจับตาย ซึ่งยังผลให้ตัวร้ายแบบเขาชนะไปด้วยความเป็นพระเอก
โง่ๆแบบนั้น
ทั้งที่อีกฝ่ายฝีมือพอกัน..พอที่จะฆ่าอีกฝ่ายได้ด้วยความเคียดแค้น...ความเกลียดชังที่ซิลเวียนมีต่อคนที่"อาจจะเป็นคนรัก"ของไมลส์
แต่เซอร์กานไม่ใช่คนแบบเขา
ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายที่ฆ่าคนได้โดยไม่ต้องไตร่ตรอง แต่เป็นเจ้าหน้าที่MI6ที่ต้องการควบคุมตัวคนร้ายไปเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย
แม้จะมีอะไรหลายอย่างที่ดำมืดภายในคล้ายๆกับซิลเวียนที่บางที..ในอดีต..หากก้าวพลาดเซอร์กานอาจมาเป็นคนในเงามืดแบบเขาก็ได้
และตอนนั้นหากประมือกันอาจเป็นเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายพ่าย
แต่ก็อย่างที่ว่า
ฝ่ายที่ต้องการจะฆ่า...กับฝ่ายที่พยายามจะไม่ฆ่า ฝ่ายหลังคงลงมือยากกว่าอย่างช่วยไม่ได้
สุดท้าย...
มีดในมือของซิลเวียนก็เสียดตรงเข้าปลิดชีพเอเจนต์หนุ่มผู้ซื่อตรง...กว่าเขา
...............................................................
หัวหน้าผู้ก่อการร้ายหลบมาอีกทางด้วยขาข้างที่ยังพอใช้งานได้ เขาถูกยิงสกัดไว้หลายนัดที่อาจเจาะเข้าไปจนขาไร้ความรู้สึก
แต่ยังรับไหว.....
เขายังต้องมองหาชายอีกคนหนึ่งอยู่
ผู้ที่เมื่อครู่มองร่างของ006ไม่วางตาด้วยสายตาเหมือนโลกทั้งโลกจะพังทลาย สายตาอันอ่อนโยน ที่มองคนที่รักของตนหมดลมหายใจไปในอ้อมกอด 
นายคงเจ็บปวดมากใช่ไหม...
ซิลเวียนก็เจ็บปวด
ที่สายตาแบบนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อเขาอีกแล้ว

กลุ่มควันหนาทึบบดบังสายตา
รอบข้างยังมีการยิงสวนปะทะกันระหว่างฝ่ายเอเจนต์และผู้ก่อการร้าย กระสุนปืนในมือซิลเวียนถูกใช้ยิงโต้ตอบฝั่งตรงข้ามหลายคนจนใกล้จะหมดไป
เหมือนตัวเขาที่ใกล้จะหมดแรงเข้าทุกที
อยู่ที่ไหน....
ในช่วงตอนสุดท้ายของสติที่ใกล้จะริบหรี่
ซิลเวียนไม่รู้ว่าสายตาที่มองผ่านม่านควันนี้ต้องการใครกันแน่
คนที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ในสภาพนี้
หรือคนที่จะมาช่วยเขาไปจากที่นี่กันแน่...
ไมลส์.......
ไคล์.........
...............................................................
ชายผู้คลั่งแค้นจนแผดเผาทุกสิ่งในชีวิตเพื่อมาอยู่ตรงนี้คงไม่ตายเพราะแค่โดนยิงไม่กี่แผล
ดวงตาสีเทากวาดหาเส้นทางที่น่าจะหลบไปได้ ทางซ้ายมีปืนของใคร..หรือศพไหนซักศพตกอยู่
ซิลเวียนกัดฟัน ลุกขึ้นอีกครั้งแล้วขยับออกไปคว้า
สายตากลับมองเห็นเงาร่างเคยคุ้นของเพื่อนเก่าอยู่ไม่ไกล

ไมลส์...

เสียงเรียกชื่อขาดห้วงไปในลำคอ ก่อนตะโกนชื่อใหม่

"มิสเตอร์เอ็ม!"

เสียงแหบห้าวดังก้องหมายให้คนผู้นั้นหันกลับมา
เพื่อจะดวลกันตัวต่อตัว
แต่......
เสียงที่ตอบรับกลับมากลับเป็นห่ากระสุนที่ยิงมาจากที่ไหนซักแห่ง
เขาเดินหมากพลาด...ที่คิดว่าตรงนี้มีแค่มิสเตอร์เอสกับมิสเตอร์เอ็ม
และเป็นร่างของเขาเองที่ล้มลงจมกองเลือดตัวเอง
กับขาสองข้างที่หมดสิ้นเรี่ยวแรงจะลุกขึ้น

TBC
 /////////////////////////////////////////////////

น่าจะ TBC ในวันใดวันหนึ่งนะ... /คิดว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น