วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

(Skyfall+RPS)A Beautiful Lie+เมาไม่ขับจับเปิดห้อง(Silva/Bond,Craig/Badem)

แสปมแดรบเบิ้ลสองเรื่องรวดล่ะวันนี้


ช่วงนี้ไปสิงอยู่ใน twitter แล้วพบปะผู้ร่วมเรือซิลบอนด์มากมาย #ซาบซึ้งน้ำตาไหลลล ไปเขียนแสปมทวิตฟิกในนั้นไว้ซะบาน

เลยหยิบเอามาเรียงให้คนในเอกทีนอ่านกันบ้างเพื่อเผยแพร่ลัทธิให้ทั่วถึง  555

ปอลอ เนื่องจากในทวิตมันจำกัดให้ลงได้ทีละ140ตัวอักษรเลยเป็นการจำกัดให้เขียนประโยคให้สั้นไปกลายๆ ยังไงก็ลองอ่านลองวิจารณ์ดูน้อ

/////////////////////////////////////////////////////////////

RPS(Real Person Slash) จากโลกสีรุ้งแห่งความฝันจขบ.ก็ลามปามถึงขั้นไปจิ้นตัวแสดงจริงซะแล้ว//facepalm daniel craig/javier bardemนะจ๊ะ

ชื่อเรื่อง...........ไม่มี เพราะสั้นมาก


1."เธอถามคุณว่าต้นขาผมเฟิร์มขนาดไหนเหรอ" ดาเนียล เครกวางแก้วเบียร์ใบโตลงบนเคาน์เตอร์บาร์ด้วยท่าทางที่แสร้งทำเป็นตกใจ "แล้วคุณตอบว่าไง บาเด็ม?"

2.บุรุษผมสีเข้มหัวเราะเบาๆอย่างเขินอาย "ก็.....ใช่ มันก็ดูเหมือนคุณจะฟิตกล้ามเนื้อมาดีล่ะนะ " ฮาเวียร์ บาเด็มยกแก้วของตนขึ้นจิบแก้เก้อ

3.ดวงตาสีฟ้าสดส่อแววระยับแฝงความขี้เล่น เครกกล่าวคำถามต่อ "ฮืมม์ จะว่าไปแล้วเธอไม่ถามเรื่องว่าต้นคอผมเนียนแค่ไหนบ้างหรือ"

4.ก่อนชายหนุ่มเจ้าของมันจะเอนตัวเข้ามากระซิบเบาที่ข้างแก้มอีกฝ่ายที่ขึ้นสีเรื่อๆ "เพราะผมเห็นคุณดูจะเคลิ้มไปหน่อยๆตอนถ่ายซีนนั้น"

5.ไม่ว่าเปล่ามือซุกซนก็ไล้เล่นกับกรอบหน้าคมสันราวรูปปั้นกรีกเรื่อยไปถึงข้างลำคออย่างยั่วล้อ

6.บาเด็มนิ่งค้างราวเผลอไปกับสัมผัสนั้นชั่วครู่ก่อนผงะตัวถอยหลัง "ผมว่าคุณเมาแล้วนะ เครก" ชายผมบลอนด์ชูแก้วเบียร์แก้วที่เจ็ดของคืนนี้ขึ้นมามอง

7."บางที....แล้วอย่างงั้นชั้นจะขับรถกลับยังไงดี? " บาเด็มกล่าวอย่างประหม่า"ผมขับรถไม่เป็น"

8.ชายชาวอังกฤษยกยิ้มมุมปาก........ดวงตาสีฟ้าแฝงแววเจ้าเล่ห์ราวผู้ล่าที่จับจ้องเหยื่อ"So,why don't we get a room?

/////////////////////////////////////////////////////////////

มาจากความโมเอ้ของลุงบาเด็มล้วนๆ และคำถามที่มีคนสัมภาษณ์ลุงแกนิดหน่อย



น.......น่ารักกกก แถมยังขับรถไม่เป็นซะอีก เมาไม่ขับลุงเค้กเลยต้องจับเปิดห้องค้าง แอร๊ยยยยย

เรื่องที่สอง อยู่ๆก็ผุดขึ้นมาจากการได้ฟังเพลงนี้จากการไปเดินเล่นบล็อคคนอื่น

(จริงๆเนื้อเพลงมันไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย แต่อารมณ์เพลงเพลงท่อนฮุคมันให้ความรู้สึกเหมือนตอนที Passion มันกำลังก่อตัวดี//อะไร?)

แล้วคิดว่าเรื่องจะจบยังไง ถ้าลุงบอนด์แกลองใช้เสน่ห์เข้าSeduceเพื่อเข้าาจับ(?)ซิลวา

A Beautiful Lie


1.คิดว่าคุณสมบัติสำคัญที่สุดของสายลับคืออะไร ยิงปืนแม่น? สมองไว? ใช้เครื่องมือไฮเทคเก่ง? มันไม่ซับซ้อนขนาดนั้นหรอก

2.แค่ "การโกหก"แค่นั้นน่ะล่ะ มันก็เหมือนกับเกมหรือการเล่นไพ่ จะหลอก หรือถูกหลอก........ จะกิน......หรือถูกกิน...............

3."อะไรทำให้นายคิดว่านี่คือครั้งแรก?" บอนด์กล่าวเรียบง่าย ท้ายเสียงแฝงความหมายยั่วเย้า

4.ดึงแววตาของอีกฝ่ายที่สัมผัสผิวกายเขาอย่างลืมตัวให้กลับมาจับจ้อง

5."Ouhh.......มิสเตอร์บอนด์.........." ชายหนุ่มผมบลอนด์ส่งเสียงในคออย่างขัดเคืองราวเด็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะจากการเล่น

6.ซิลวาคงคิดว่าการลวนลามจาบจ้วงแบบนี้คงมีผลหยามหลู่ให้เขาเคียดแค้นและอับอาย

7.แต่แววความวูบไหวในดวงตาสีเข้มนั้นทำให้เขาแน่ใจว่าเป้าหมายในการสัมผัสกายเขาเปลี่ยนไป.........จากแค่การทำตามแผนที่คำนวณไว้

8.กลายเป็นความต้องการพื้นฐาน.....ที่ดิบเถื่อนตามสัญชาตญาณกว่านั้น

9.มีคนบอกว่าเขามีเสน่ห์เย้ายวนอารมณ์เกินไป........และมันอาจไม่ได้หมายความแค่กับเพศตรงข้าม

10.มือของซิลวายังแตะแผ่วอยู่ที่ข้างลำคอ บอนด์เคลื่อนกายเข้าหาสัมผัสนั้นอย่างเชื่องช้า แนบใบหน้าลงบนมือหนาของชายผู้เป็นอาชญากร

11.ลมหายใจร้อนรดแผ่วที่ปลายนิ้ว บอนด์หรี่ดวงตาสีฟ้าขึ้นมองอย่างยั่วล้อ ทำให้การสูดลมหายใจเข้าของซิลวาติดขัด

12."นายบอกเองไม่ใช่หรือว่า.......เราสองคนอาจกัดกินกันเอง.........หรืออาจจะได้ร่วมกันกัดกินหนูตัวอื่น"

13.สายลับหนุ่มขบริมฝีปากลงบนปลายนิ้วสั่นไหวของซิลวาในขณะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้..............

14.ริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บดเบียดอย่างหิวกระหายนั้นคล้ายเป็นสัญญาณของการเริ่มเกม

15.หลอก หรือถูกหลอก........กิน หรือถูกกิน...............ในตอนสุดท้าย อยู่ที่ว่าใครโกหกเก่งกว่ากัน


เหมือนไอ้คำที่ว่าบอนด์เนี่ยมีเสน่ห์ร้ายเหลือและใช้ประโยชน์มันในการทำงานอย่างคุ้มค่านี่จำได้ลางๆจากในหนังภาคCasino Royal แล้วก็เห็นว่าในฉากนี้ลุงซิลแกหลงเสน่ห์ไปเต็มๆ ฮาาาาาาา


คิดต่อจากฉากนี้ถ้าลุงบอนด์แกทำแบบฟิกข้างบนซะหน่อยล่ะก็.....จบเรื่องง่ายๆแบบสาวบอนด์ไม่ต้องม่องไปแล้ว 5555


เนื้อเรื่องSkyfallจบลงตรงนั้น แล้ว Let's porn begins//ผิดส์



(Skyfall SM?)A Lingering Sweetness(Silva/James Bond)

เข้าเรื่องๆ

อูอา วันนี้SM ซิลวา/บอนด์(หรือซัมวัน/ซิลวา)ล่ะเบบี๋ย์


อ่่านโต้งๆกันไปก่อนเพราะแต่งสดไว้ร้อนๆจนยังไม่ได้อีดิตอะไรเบยยยย//แต่ว
*มาeditเพิ่มเอาตอนเช้า

WARNING NC17+ ความรุนแรง เลือด และการใช้ยาเสพติดนะจ๊ะเบเบ๋ย์


Title : A Lingering Sweetness

Rate : NC17

Genre : Sad/Angst/Dark/SM.....maybe blood

Pairing: Raoul Silva/James Bond,OC/Raoul Silva

Vers: 007 Skyfall Movie vers. with a bit of AU

Warning : Non-con, BDSM, Blood&Gore, Use of drug,Breath play

//////////////////////////////////////////////

A Lingering Sweetness

ร่างล่ำสันที่เคลือบคลาไปด้วยเงาน้ำฉ่ำบางๆสะท้อนแสงเดียวจากโคมไฟอ่อนแรงในห้องสลัว แสงสีอุ่นที่จับต้องขับเน้นให้กล้ามเนื้อทั่วกายเปลือยเปล่ายิ่งดูงดงามราวงานประติมากรรม

ราอูล ซิลวาจ้องมองบุคคลเบื้องหน้าด้วยแววตาพึงพอใจ พลางวางมือลงสัมผัสผิวอุ่นจัด เขาไล้ปลายนิ้วไปตามแนวลำคออย่างแผ่วเบา นุ่มนวล เนิบช้า แล้วหลับตาลงราวเพลิดเพลินยิ่งกับความเรียบลื่นของผิวสีน้ำผึ้งนั้น

"มีคนเคยบอกไหมว่าผิวของคุณให้รสสัมผัสที่ดีมาก......" ดวงตาสีเข้มลึกสบมองดวงตาสีฟ้ากร้าวที่จ้องตอบอย่างโกรธแค้น "มิสเตอร์บอนด์"

ชายหนุ่มตอบโต้ด้วยการพยายามขยับร่างขัดขืนกลับไปด้วยแรงโทสะ แต่ด้วยโซ่หนาที่ผูกรัดข้อมือและสายหนังที่ปิดกั้นปากไว้ทำให้เขาทำไม่ได้แม้จะพูดตอบโต้

ซิลวาหัวเราะลึกในลำคอเมื่ออีกฝ่ายกล่าวสบถใส่เขาด้วยแววตาที่ราวจะแผดเผา ก่อนจะย่างเท้าเข้าประชิดร่างเปลือยของสายลับหนุ่มพลางแนบต้นขาภายใต้กางเกงสีเข้มกับจุดอ่อนไหวที่เปิดโล่ง

"ฮืม........คุณไม่ตอบ...." เขายิ้มบางก่อนเคลื่อนตัวสร้างแรงเสียดสีจนบอนด์สะดุ้งตัวขึ้นหอบหายใจ แต่การพยายามสูดลมผ่านที่ปิดปากทำได้ยากเมื่อถูกปลายนิ้วแข็งแรงของซิลวากดแนบไว้รอบลำคอ "ความเงียบคือผู้ฟังที่ดี"

"บางทีผมก็อยากจะเล่าเรื่อง.....อืม........เล่านิยายให้เป็นของขวัญเด็กดีบ้าง" ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีบลอนต์สว่างแปลกตาทิ้งท้ายก่อนเริ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย......

.............................................

สเตชั่นเอซ............เอเจนต์00X........ราอูล ซิลวา

สายลับอัจฉริยะมือหนึ่งฝีมือเฉียบคม อนาคตไกล มือขวาสุดโปรดของเลดี้ M แห่ง MI6..............

มันคงเป็นแค่อดีตสินะ.........ตอนนี้เหลือเพียงสายลับผู้เคยรุ่งโรจน์ที่ลงท้ายด้วยการถูกล่ามแขนขาไว้ในห้องขังมืดทึบอับชื้นนี้ สามเดือน.....ไม่สิ อาจจะสี่เดือนแล้วเท่าที่เขาพอนึกออก

ซิลวารำพึงด้วยห้วงความคิดพร่ามัวจากออกซิเจนในเลือดต่ำ ความร้อนชื้นที่มีอากาศเพียงเบาบางรวมกับร่องรอยฟกช้ำและบาดแผลทั่วร่างกายที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้สมองเขาไม่แล่นเท่าไหร่

เงาร่างคนพาดผ่านช่องประตูที่มีแสงลอดมาเล็กน้อยทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ภึงเวลา "ให้อาหาร" ของเขาอีกครั้ง แม้จะถูกทรมานทรกรรมแค่ไหนแต่มาเฟียจีนพวกนั้นก็ยังไม่ปล่อยให้เขาอดตาย

แม้ว่าอาหารนั้นมันจะไม่ต่างจากเศษอาหารซักนิดแต่เขาก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้มันมาช่วยยืดชีวิตเขาได้ไปอีกวัน

คำว่าทุกอย่าง.....หมายถึงทุกอย่างจริงๆ ยกเว้นไว้เพียงการปริปากบอกความลับของ M และ MI6 เพียงเท่านั้น

เขายอมทำทุกสิ่งเพื่อจะมีชีวิตอยู่จนจบสิ้นภารกิจหนักหนาครั้งนี้ แล้วกลับไปพบเธอ.....กลับไปพบ M อีกครั้งให้ได้.......แม้ความเชื่อมั่นของเขาจะเริ่มริบหรี่เจียนวูบหายแล้วก็ตาม

ซิลวาขยับร่างบอบช้ำขึ้นพิงผนังพลางสำรวจร่างกายตนเอง....โอเค วันนี้เขายังมีแรงพอยืนไหว และปากเขาก็ยังอ้ากว้างได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดนัก

แม้จะต้องกลายเป็นไอ้หนู.......ไม่สิ อีหนูโสโครกของพวกมันก็ตาม เขาต้องรอดออกไปให้ได้......ชายหนุ่มคิดอย่างอ่อนล้าเมื่อมองเห็นชายร่างใหญ่สามคนเดินเข้ามาให้ห้องขัง

ก่อนที่เขาจะเริ่มใช้ปาก......อาวุธเดียวที่หลงเหลือ.....ในด้านการเจรจาต่อรองก็รู้สึกว่าโลกมืดมิดลงกว่าเดิมเมื่อถูกคลุมใบหน้าด้วยถุงกระสอบหนาทึบ

และโลกก็ดับมืดเมื่อกำปั้นหนักหน่วงของหนึ่งในกลุ่มชาวจีนนั้นพุ่งตรงเข้ามากระทบช่องท้องของเขาอย่างแรงจนหมดสติไป

.............................................

กลิ่นหอมพุ้งของดอกไม้หรือสมุนไพรอะไรซักอย่างที่เขาไม่แน่ใจลอยมากระทบจมูก ซิลวานอนเหยียดยาวในแนวราบแบบที่เขาไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานนัก แผ่นหลังสัมผัสถึงความนวลเนียนของผ้านุ่มที่รองรับอยู่อย่างแสนสบาย

เขาลืมตาขึ้นมองห้องไม่ใหญ่นักตกแต่งแบบจีนประยุกต์เรียบง่าย เตียงหนานุ่มที่เขาหยัดกายลุกขึ้นถูกตั้งไว้ตรงกลางห้อง ชายหนุ่มมองไปรอบกายด้วยแววตาสงสัย

ที่นี่ที่ไหน.....ตอนนี้เวลาเท่าไหร่..........และเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ซิลวาคิดอย่างงุนงงเมื่อก้มลงมองบาดแผลตามตัวที่ได้รับการชำระล้างและทำแผลไว้อย่างเรียบร้อย

บางทีสิ่งนี้อาจทำให้เขาสบายตัวจนไม่ค่อยรู้สึกถึงรอยแผลเท่าไหร่....แต่การไม่มีความเจ็บปวดที่คุ้นเคยคอยดึงเขาสู่ความจริงทำให้ไม่แน่ใจว่าตัวเขาอยู่ตรงนี้จริงหรือเปล่า

เขาตายแล้ว.......และนี่คือสวรรค์......หรือสมองเขาแค่จินตนาการภาพหลอนไปจากการขาดอากาศหายใจ?

ก่อนที่ซิลวาจะครุ่นคิดคำตอบได้ ประตูไม้สลักบานใหญ่ก็เปิดขึ้นอย่างนุ่มนวล

ชายชาวเอเซียผอมสูงในชุดยาวสีเข้มเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยท่าทางพลิ้วไหวเหมือนท่วงท่าของสัตว์ร้าย ที่เมื่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ทำให้ซิลวานิ่งค้างราวเหยื่อที่ถูกผู้ล่าจับจ้อง

ใบหน้าขาวเผือดที่ไม่บ่งบอกอายุแย้มเรียวปากยิ้มทักทายเขาอย่างงดงาม ซึ่งประกอบกับดวงตาสีดำล้ำลึกนั้นยิ่งทำให้มันยิ่งดูมีเสน่ห์.......แต่ทว่าน่าหวั่นเกรง

"มิสเตอร์.........ซิลวา" ชายหนุ่มกล่าวเสียงนุ่มด้วยภาษาอังกฤษไพเราะหู พลางโบกมือเรียกคนรับใช้ที่ยกสำรับเข้ามาวางก่อนจากไปอย่างเงียบเชียบ "ขออภัยสำหรับการต้อนรับที่อาจกระด้างไปเล็กน้อย"

ร่างเพรียวเลื่อนมือมาหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะแล้วก้าวเท้ามานั่งลงบนขอบเตียง การเคลื่อนกายที่เลื่อนไหลคล้ายกับงูนั่นทำให้ซิลวาขยับตัวหนีจากอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว

"หากคุณร่างกายแข็งแรงขึ้นผมอยากจะพาคุณไปเดินชมเกาะของผมสักหน่อย.....แม้มันจะพลุกพล่านไปนิดแต่ก็มีสีสันน่าสนุก" ชายหนุ่มตรงหน้ายกแก้วขึ้นชิดริมฝีปากเขาอย่างแผ่วเบา

ซิลวาไม่รู้ว่าความสับสนหรือลำคอที่แห้งผากกันแน่ทำให้เขาจิบของเหลวนั่นลงไปอย่างช้าๆ ผู้มาเยือนแปลกหน้ายิ้มบางแล้วกล่าวต่อ "ผม ชาง เซิน* (Zhang Sen) ความหมายว่าป่ากว้างที่แผ่ขยาย"

ซิลวาเพิ่งมองเห็นความแวววามของดวงตาดำสนิทนั้นได้ในระยะใกล้เช่นนี้ แววตาที่มืดมิดไร้ก้นบึ้งที่สะกดเขาจนขยับไม่ได้ "ความหมายคล้ายๆนามอันอุโฆษของคุณอยู่นะมิสเตอร์ซิลวา.....ไม่ใช่สิ ซินญอร์ ติอาโก โรดริเกซ"

สายลับหนุ่มรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่แผ่ผ่านกระดูกสันหลัง เมื่อชางเอ่ยชื่อที่เป็นข้อมูลปกปิดระดับสูงของ MI6 ที่แม้แต่กลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวจีนที่จับเขามาจากฮ่องกงยังไม่ทราบ ซิลวาพยายามขยับตัวเลื่อนหนีจากบุคคลลึกลับเมื่อสัญญาณอันตรายส่งเสียงเตือนในหัว

แต่ร่างของเขาเริ่มไม่ทำตามสั่งของผู้เป็นนาย แขนขาอันอ่อนแรงนั้นทำไม่ได้แม้แต่จะขยับหนี ชายชาวจีนที่เคลื่อนตัวเข้ามาทาบทับตัวเขาไว้อย่างเนิบนาบ....แต่คุกคามนั้นขยับปากยิ้มอ่อนหวาน

ก่อนปลดกระดุมเสื้อตัวยาวที่เขาสวมอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นผ้าพันแผลรอบอกที่ซึมเลือดเล็กน้อย "ผมเป็นเพียงหัวหน้ากลุ่มZhang....ที่คุณอาจเคยได้ยินชื่อมาบ้าง.....เป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้พบคุณ" ชางวางนิ้วเรียวลงบนผิวผ้าฉาบสีเรื่อนั้นก่อนบดขยี้ปลายนิ้วจนเลือดแดงสดซึมขึ้นมาอย่างเพลิดเพลิน

ความเจ็บปวดที่สัมผัสไม่ได้ยิ่งทำให้เขาหวาดผวา รอยแผลบาดลึกที่หน้าอกกลับไม่ทำให้รู้สึกเท่ากับความร้อนรุ่มที่เผาไหม้ช้าๆในช่องท้อง ซิลวาจ้องมองใบหน้าชางที่เริ่มพร่าเบลออย่างสับสน

ควันบางเบาที่ส่งกลิ่นอบอวลในห้องคล้ายจะซาบซึมเข้าไปในสมองเขาจนมืดมัวราวหมอกทึบ ห้วงความคิดว่ากลิ่นหอมคุ้นเคย.......ที่บางทีอาจจะเป็นฝิ่น............ผุดขึ้นมา เสียงนุ่มของชางกระซิบแผ่วที่ข้างหูพร้อมปลายนิ้วที่ปลุกความร้อนให้แผ่ไปทั่วร่าง

"และยินดีอย่างยิ่งที่ได้คุณมาครอบครองด้วย ติอาโก"

.............................................

วันเวลาจากนั้นของซิลวาที่แทบนับไม่ได้ว่ามันผ่านมาแล้วกี่วันคืน เขาจมอยู่กับหมอกมัวภายในห้องขังที่ดูจะเอื้ออำนวยให้เขาอยู่ได้อย่างสุขสบายกว่าเคย.......แต่สถานะของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนจากตอนอยู่ในคุกมืดนั่น

เสียงนุ่มนวลแผ่วลึกที่ดังจากเบื้องหลังเขาที่ทรุดตัวคว่ำหน้าอยู่บนเตียงนอน ควันขาวลอยต่ำลงจับบนผิวผ้าแพรสีขาวนวลที่ชุ่มไปด้วยสีแดงฉาน ชางแตะปลายนิ้วลงบนริ้วแผลกรีดกลางหลังซิลวาเพียงแผ่วเบา

"Ling Chi**........หากกล่าวในภาษาของคุณน่าจะเป็นคำว่า การสังหารอย่างอ้อยสร้อย......ดูเป็นคำที่งดงามดีไหม"

ซิลวาหายใจเข้ายาวก่อนกดใบหน้าลงบนหมอนเมื่อปลายมีดแหลมเรียวกรีดลึกลงบนผิวเขาอย่างเรื่อยช้า "งดงามเหมือนคุณ.....ติอาโก "

บุรุษผมยาวดำขลับมองผลงานของตนอย่างพินิจพิจารณาก่อนครางในคออย่างพึงใจ มือกร้านพลิกกายคนเบื้องล่างที่แม้จะพยายามขัดขืนแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา เขาไล่มือไปตามกรอบหน้าคมเข้มของซิลวาอย่างหลงใหล

"ผลงานศิลปะที่ผ่านการสลักเสลาของกาลเวลา ราวกับรูปปั้นกรีกล้ำค่าที่ถูกขึ้นรูปโดยศิลปินชั้นเอก"


ชายชาวจีนว่าพลางไล้สันมีดวาววับไปตามแนวลำคอ"และผมอยากเกลาแต่งมันเพิ่มเพื่อให้เป็นของผมคนเดียว"

ปลายนิ้วแห้งผากที่เย็นเยียบของชางลูบไล้บนเรือนผมหยักศกสีเข้มของซิลวา สัมผัสที่คล้ายผิวสัตว์เลื้อยคลานนั้นทำให้เขารู้สึกขยะแขยง ดวงตาสีเข้มไร้แววนั้นทำให้เขาอยากเบือนหน้าหนี แต่ความเจ็บแปลบบนแผ่นอกที่ถูกกดกรีดนั่นเตือนว่าเขาทำได้เพียงกลั้นหายใจ

ความร้อนรุ่มที่รุกไล่เข้ามาเบื้องล่างระหว่างที่ลำคอถูกโอบรอบด้วยมือแกร่ง ปิศาจร้ายที่กลืนกินเขายิ้มร่าก่อนโน้มตัวลงลิ้มรสเลือดจากตัวเขาราวกับมันช่างหอมหวาน ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนฤทธิ์ยาและแรงถาโถมของกามารมณ์

กลิ่นยาฝิ่นที่เผาไหม้ กลิ่นคาวกายและกลิ่นเลือดของเขาที่คละคลุ้งผสมผสานกันในบรรยากาศจนหายใจไม่ออก ซิลวากรีดร้องภายในใจอย่างบ้าคลั่ง แม้เจ็บปวดจนแทบแหลกร้าวแต่เขาต้องผ่านทุกอย่างไปให้ได้

ผ่านพ้นมันไปเพื่อรับความช่วยเหลือจากคนที่เขารอคอย แม้ความหวังนั้นมันจะเหลือน้อยนิดจนเขาเจ็บปวดก็ตาม

.............................................

ซิลวารอคอยอย่างใจเย็น แม้จะเจ็บปวด สิ้นหวัง และถูกเหยียดหยาม แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาก็แข็งแรงขึ้นมาบ้าง เพราะช่วงหลังนี้ชางดูจะพึงพอใจเต็มที่กับผลงานแกะสลักของตัวเองแล้ว

อีกอย่าง......เขาทำให้ชางเชื่อว่าเขาเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีปัญญาขัดขืน หนูในกรงเชื่องๆที่พึงพอใจกับอาหารที่เจ้านายป้อนให้ ทำให้การควบคุมหละหลวมกว่าที่เคยเป็นจนเขารู้ว่าการจบสิ้นของนรกนี้คงอีกไม่นาน

อย่างที่ภาษิตจีนเคยว่าไว้ แก้แค้นสิบปียังไม่สาย การหลบหนีที่คงต้องรอไปอีกไม่นานนี้ถือว่าเป็นส่วนน้อยนิดของการรอคอยนั้น

.............................................

ปืนในมือสั่นระรึกของเขาเหลือกระสุนเพียงนัดเดียวก่อนที่มันจะหมดค่า ซิลวาหายใจหอบพร่าด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับบอดี้การ์ดหลายคนของชาง

อย่างที่คิดไว้......ระบบความปลอดภัยในคฤหาสน์จีนหลังใหญ่ของชางที่แม้จะเข้มงวดแต่ก็ไม่ได้ครรณามือของชายผู้เป็นยอดแฮคเกอร์อย่างราอูล ซิลวา เขาหลบหลีกเหล่าผู้คุมมาได้อย่างไม่ลำบากเท่าไหร่นักเว้นแต่ว่าหาอาวุธต่อสู้ได้ยากซักหน่อย

เขาแย่งปืนจากการ์ดมาได้แล้วใช้มันกรุยทางจนมาถึงห้องควบคุมระบบ หากเป็นไปตามแผน หลังจากติดต่อผ่านระบบนี้และหลุดรอดออกจากตึกนี้ไปได้ เขาจะหลบแฝงตัวไปกับฝูงชนอันวุ่นวายบนเกาะนี้แค่ชั่วคราวก่อนที่MI6จะส่งคนมารับเขาได้แบบไม่ยาก

แผนที่สมบูรณ์แบบ....และง่ายดายอย่างน่าสงสัยจนประสบการณ์สายลับของเขาส่งเสียงเตือน.....แต่ความคิดที่จะได้พบเธอ.....ได้พบเอ็มม่าอีกครั้งก็ลบเลือนความเคลือบแคลงนั้นไปจนหมด

ซิลวาแปลงสัญญาณวิทยุเป็นรหัสลับส่งไปสู่สเตชั่นHที่ฮ่องกงหลายครั้ง.....และหลายครั้ง จนกระทั่งเสียงไกปืนที่ปลายกระบอกของมันถูกกดไว้ที่ท้ายทอยดังมากระทบหู ก็ยังไม่มีการตอบรับจากหน่วยงานของเขา

"ติอาโก......ติอาโกของผม" ชางก้าวเข้ามาท่ามกลางดงปืนที่การ์ดอีกหลายคนของเขาเล็งมาที่ซิลวา ชายผมยาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า "คุณพยายามจะทำอะไร หืมม์"

ร่างสูงเพรียวเคลื่อนกายพลิ้วมาโอบร่างเขาไว้อย่างหลวมๆ ซิลวาจ้องมองใบหน้าขาวเผือดประดับยิ้มเยือกเย็นนั้นอย่างเงียบเชียบ ชางกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหูเขาเหมือนพยายามปลอบโยน

"ไม่มีประโยชน์หรอก.....ติอาโก" ดวงตาสีดำลึกส่อแววระริกราวขบขัน "ผมเจรจาธุรกิจกับมาดาม M ปล่อยตัวประกันงี่เง่าหกคนอย่างสันติเพื่อให้ได้ตัวคุณมานะ....เป็นการแลกเปลี่ยนที่ผมคิดว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มทีเดียว"

ซิลวาแทบไม่ได้ยินคำอธิบายของชางที่กล่าวกลั้วเสียงหัวเราะ เสียงของมันลอยผ่านเขาไปราวกับหมอกควัน เขาไม่สัมผัสรับรู้สิ่งใดเมื่อทั้งโลกพังทลาย  พื้นดินใต้ตัวเขาสั่นไหวจนแทบยืนไม่ไหว

หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายZhangประคองเขาไว้อย่างทนุถนอมก่อนกล่าว "รู้อะไรมั้ย.......ก่อนที่งูจะกินเหยื่อที่ถูกใส่มาในกรงมันจะทำอะไรก่อน" ชางทอดตามองดวงตาสีน้ำตาลของซิลวาที่ส่อความแตกร้าวออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

"มันไม่ทำอะไรเลย....แค่เพียงเฝ้าดูหนูตัวน้อยดิ้นรนจนเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า.........." ปลายนิ้วเย็นชืดของชางไล้ไปตามใบหน้าของเขาอย่างเชื่องช้า "แล้วค่อยกลืนกินเจ้าหนูตัวนั้นที่หมดแรงขัดขืนอย่างง่ายดาย"

ชายผมดำยิ้มเยาะ "คุณก็เป็นแค่หนูตัวนั้นล่ะ.....ติอาโก" เขากล่าวก่อนวางมือสองข้างรอบลำคอของอีกคนตรงหน้า กดปลายนิ้วลงแนบแน่นเพื่อเพลิดเพลินกับจังหวะชีพจรอีกฝ่ายที่เต้นถี่

ซิลวาสบตาไร้แววนั้นแล้วหลับตาลง กดมือทับลงบนนิ้วยาวเรียวของชางราวกับวอนขอให้อีกฝ่ายปลิดชีพตน....ชีวิตที่ไร้ค่าไม่มีความหมายใดหลงเหลือให้มีตัวตนอยู่บนโลกนี้แล้ว

ชางผุดยิ้มบางเบา เกร็งมือแน่นเข้าจนซิลวาหายใจขัด ความมืดดำที่ปรากฎใต้เปลือกตาขยายกว้างขึ้นซึ่งซิลวาหวังว่าห้วงมรณาคงจะอ้าแขนรับเขาไว้.....ในไม่อีกกี่ลมหายใจ

ใกล้จนเขาจะหล่นร่วงลงไปได้....ก็เป็นเวลาเดียวกับที่ชางคลายมือออกจากลำคอของเขา..........

กลไกป้องกันตัวตามธรรมชาติสั่งให้เขาหอบหายใจ ซิลวาทรุดกายลงที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ร่างกายสูดลมเข้าอีกหลายครั้งอย่างแรงจนสำลัก เขาจ้องมองชางด้วยแววตาโกรธแค้นผ่านม่านน้ำตาอย่างเดือดดาล

บุรุษร่างผมยิ้มหวานก่อนกล่าวเสียงใส "ยังก่อน.....ติอาโก...........มันยังไม่ถึงเวลา" ชางก้มลงพยุงตัวซิลวาไว้ในอ้อมแขน "ผมยังสนุกกับคุณไม่เต็มที่" แล้วเคลื่อนตัวพาเขาออกจากห้องพลางโบกมือให้บอดี้การ์ดเก็บอาวุธ

ชั่ววินาทีที่ทุกคนเผลอ ซิลวายกปลายปืนของตนขึ้นเล็งที่ใบหน้าของชาง

"หืมม์.......ยังจะขัดขืนอีกหรือ.....ติอาโก" ชายชาวจีนกล่าวเสียงนุ่มก่อนย่างเท้าเข้าใกล้ "คุณก็รู้ว่าทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์"

แววตาของงูร้ายที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของชางทำให้มืออ่อนแรงของเขาสั่นไหว ซิลวาถามบางสิ่งไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ชาง.......ชั้นชื่ออะไร"

ชางยิ้มมุมปากอย่างเยาะหยันก่อนกล่าวตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะคล้ายขำขัน "ติอาโกไง......ติอาโก โรดริเกซ"

อา.......ชื่อที่ติดตัวเขามาตอนเกิด......แม้จะไม่ค่อยได้ใช้มันมากนักตอนมีชีวิตแต่อย่างน้อยก็ได้ใช้มันก่อนที่จะตาย.............

ซิลวาไล่ปลายลิ้นไปบนฟันกรามเพื่อให้แน่ใจว่าแผนสำรองยังปลอดภัยอยู่ตรงนั้น เขายิ้มอ่อนแรงก่อนกดนิ้วมือลงบนไกปืน

"ไม่.......จากนี้ไปชั้นคือ ราอูล ซิลวา"

เสียงดินปืนระเบิดดังขึ้นก่อนเลือดและมันสมองของชางจะสาดกระจายตรงหน้า และซิลวาตัดสินใจว่า คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะมีชีวิตอยู่

.............................................

"อา..............ทั้งๆที่คิดจะตายแล้วแท้ๆ.......แต่ชีวิตกลับเกาะติดผมแน่นราวกับโรคร้าย" ซิลวาส่ายหัวจนเส้นผมสีบลอนด์อ่อนของเขาสั่นไหว สีทองอร่ามที่เขาใช้เพื่อลบล้างสีผมที่ชายผู้นั้นชื่นชอบ

ภาพเบื้องหน้าของบอนด์มืดดำลงจนแทบไม่รับรู้เสียงจากชายเบื้องหน้า ซิลวาคลายมืออกจากลำคอเขาก่อนแสร้งทำหน้าตกใจ "โอ้.....มิสเตอร์บอนด์ ผมคงเล่าเพลินไปหน่อย"

ชายผมสั้นถอนหายใจยาวเมื่อซิลวาเอื้อมมือไปปลดสายหนังรัดปากเขาออกเพื่อให้หายใจได้ เขาสูดลมหายใจเข้าหนักหน่วงจนแผ่นอกสั่นไหว ซิลวามองกล้ามเนื้อที่ขยับตามจังหวะหายใจนั้นด้วยแววตาวาววาม

"ใจเย็นๆ เจมส์...........รีแล็กซ์ไว้..............ผมไม่ค่อยพลาดอย่างนี้บ่อยหรอกนะ........แบบว่าค่อนข้างจะรู้ลิมิตของเรื่องนี้อย่างซาบซึ้งทีเดียวล่ะ " บุรุษผมทองกล่าวน้ำเสียงขบขันก่อนว่าต่อ

 "เหตุการณ์หลังจากนั้นก็อย่างที่คุณรู้ล่ะ ผมเกือบตายแต่ก็รอดมาได้.....ผมตามไปหาแม่แต่คุณมาขวางไว้.......ทำให้ผมตามแม่ไปไม่ทัน" ซิลวากล่าวเสียงเบาก่อนสบสายตาฟ้าจัดนั้นอย่างตัดพ้อ "แถมยังฆ่าผมไม่สำเร็จอีกต่างหาก"

ซิลวาเคลื่อนกายเข้าหาร่างเปลือยเปล่าอีกคราเมื่อเห็นอีกผ่ายเริ่มหายใจได้ เขาลากปลายนิ้วมือไปบนผิวเนียนลื่นที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อของบอนด์พลางรำพึง "คุณทำผมเสียแผนสิบปีไปเปล่าๆปลี้ๆเลยน้า.............แต่ก็เอาเถอะ"

มือแกร่งไล้เรื่อยลงตำสู่จุดอ่อนไหวที่ตื่นตัวอยู่ก่อนหน้า....ซิลวาโอบปลายนิ้วลงรอบฐานของมันแน่นจนบอนด์บิดตัวเร่าอย่างทรมาน ก่อนที่มืออีกข้างจะแยกเรียวขาของอีกฝ่ายออกกว้างระหว่างดันตัวชายหนุ่มเข้าชิดผนัง

"การได้คุณมาแทนก็ถือว่าคุ้มค่า...........รู้มั้ย มีสุภาษิตที่ว่า.....การแก้แค้นคือของหวาน?" ซิลวากล่าวเสียงต่ำเมื่อสอดปลายนิ้วเข้าตระเตรียมช่องทาง สายลับเลข007สะกดกั้นเสียงครางด้วยการกัดริมฝีปากจนเลือดไหล

ชายผมทองจุ๊ปากอย่างขัดใจ "โน โน โน เจมส์ ไม่......ผมไม่ต้องการให้คุณทำเสียรสชาติ" เขากล่าวก่อนลากลิ้นลงบนริมฝีปากบางเพื่อชิมรส

"ฮืมม์...........รสเลือด? คงไม่น่าอภิรมณ์เท่าไหร่ ผมอยากได้ความหอมหวานจากคุณมากกว่า"

ชั้นไม่ใช่ชายผู้นั้นที่ชอบสลักชื่อบนของเล่นให้เป็นรอยหรอกน่า..............เขาไล่สายตาบนรูปหน้า เรือนร่าง ผิวกายสีแทนสวยที่สะท้อนแสงจางๆจากในห้อง........ความงดงามที่สมบูรณ์ที่เขาอาจปั้นแต่งอีกเล็กน้อย

"เอาล่ะ.....เจมส์.....เจมส์ที่น่ารัก คุณยังจำเซฟเวิร์ด***ที่ผมสอนไว้ได้ไหม......"

ซิลวาคิดก่อนเคลื่อนมือโอบรอบคอบอนด์อีกครา แล้วดิ่งลึกลงสู่ความมืดมิดของห้วงปรารถนาอันหอมหวานที่ชายเบื้องหน้ามอบให้ ใบหูเงี่ยฟังเสียงหอบหายใจของอีกฝ่ายอย่างคาดหวังจะได้ยินเรียวปากสั่นไหวของเจมส์เอ่ยนามชายผู้หนึ่ง

ติอาโก...........ชายผู้ซึ่งตายจากไปเนิ่นนาน.......และซิลวาต้องการให้แค่บางคนที่สำคัญเรียกชื่อเขาด้วยคำนั้น

//////////////////////////////////////////////

เกร็ดไร้สาระ

*ชาง เซิน (Zhang Sen)หรือมิสเตอร์(จืด)จางเป็นตัวละครOCที่เราแต่งเพื่อมาสนองนี้ดตัวเอง ชายชาวจีนรูปร่างหน้าตาดีมีความรู้ที่ฉากหน้าเป็นเจ้าของเกาะเหมืองแร่เล็กๆใกล้กับมาเก๊า แต่จริงๆแล้วเขาเป็นหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย Zhang ที่ทำธุรกิจมืดบนจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งค้าอาวุธสงคราม ของเถื่อน ฝิ่น รวมไปถึงค้ามนุษย์

ถ้าจะให้พูด....รูปร่างหน้าตาของคุณจืดจางในฟิกเราขอให้นึกถึงโลกิในดิอเวนเจอร์

โดนถรีบ โลกิหน้าตี๋ตรงหนายยยยย//ก็บุคลิกมันให้อ้ะ เอาไปจินฯต่อว่าพี่ทอมมีตาสีดำเหล่าเต๊งเดียวละกัน ฮาาาาา

และคำว่า Silva ในชื่อ Raoul Silva มีความหมายว่าป่า...ซึ่งคล้ายกับคำว่าเซิ่นในชื่อของชางที่แปลว่าป่าเช้นกัน//ไอ้ตรงนี้คุ้ยหาในอากู่อยู่ซะนานแน่ะ ฮาาาา

**Ling Chi ภาษาอังกฤษแปลว่า slow process, the lingering death, or death by a thousand cuts เป็นวิธีทรมานในแบบจีนโบราณที่จะค่อยๆฝานเนื้อของนักโทษออกมาทีละเล็กละน้อยอย่างช้าๆ โดยบางทีอาจมีการยืดเวลาตายหรือป้องกันการสลบไปจากความเจ็บปวดด้วยการให้นักโทษสูบยาฝิ่นเข้าไปก่อน
บทลงโทษสมัยก่อนนี่มันโหดร้ายแท้น้อ....ก่อนดูรูปโปรดทำใจแข็งๆ

***save word คือคีย์เวิร์ดหรือคำที่คู่รักSub/domใช้เพื่อให้หยุดภารกิจ?ที่กำลังทำอยู่ตอนนั้น....แต่ของคุณซิลวาน่าจะเป็นมุกตลกร้ายเพื่อหลอกให้บอนด์เรียกชื่อจริงตัวเองมากกว่ามั้ง//ถึงพูดก็ไม่หยุดและอาจจะทำแรงกว่าเดิมก็เป็นได้ กรี๊สสสสส

//////////////////////////////////////////////////////////////

เค้ารักคุณซิลวานะจ๊ะ.....ด้วยรักจึงอยากทรมานให้สาแก่ใจย์ย์


โดนป๋าซิลวายิงกลางแสกหน้า

เนื่องจากการตามไปสโตรคแฟนอาร์ตซิลบอนด์จากในบล็อคทัมของคุณคนนี้(เตือน NSFWมากกกก) เลยได้ไอเดียมาว่าตอนที่ลุงซิลแกโดนจับไปทรมานที่จีนมันน่าจะมีอะไรๆที่ก๊าวใจมากกว่าการโดนล่ามขังซ้อมปั่กๆ

และที่ยิ่งกว่านั้นคืออยากลองเขียนลุงซิลโดนกระทำบ้างอะไรบ้าง//โทษความโมเอ้ของคุณบาเด็ม//แต่ก็ปลอบใจให้ตอนท้ายแล้วน้าาาาา

และคนที่อยากเห็นภาพชัดๆว่าตอนต้นๆของฟิก ลุงซิลแกทำหน้าประมาณไหน

"ราอูล ซิลวาจ้องมองบุคคลเบื้องหน้าด้วยแววตาพึงพอใจ พลางวางมือลงสัมผัสผิวอุ่นจัด เขาไล้ปลายนิ้วไปตามแนวลำคออย่างแผ่วเบา นุ่มนวล เนิบช้า แล้วหลับตาลงราวเพลิดเพลินยิ่งกับความเรียบลื่นของผิวสีน้ำผึ้งนั้น"


เคลิ้มมากจ้ะ ลุง เคลิ้มมากกกกกกกก

//////////////////////////////////////////////////////////////

(Skyfall PWP)Bond is for Bondage(X/James Bond)

เอิ่ม.................วันนี้เรามาพร้อมกับ อ่า.......ฟิกหื่น Plot(or Porn) what Plot ล่ะจ๊ะเบบี๋ย์


ป๋า//ฟิก ชั้น ล่ะ เว้ยยยยยยยยยยยย

me//รอก่อนนะคะป๋าขาาาาา ตอนนี้จขบ.ตกเรือซิลบอนด์จนโงหัวไม่ขึ้น ฮาาาาาา

ฟิกอันนี้ผุดขึ้นมาตอนบ่ายสองตอนนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิส.........และปั่นเกือบเสร็จภายในสองชั่วโมงงงง//แต่เอากลับมาเกลาต่อที่บ้านนะ ไม่กล้าอ่านทวน 555

มันมาจากความสงสัยที่ว่าทำมั้ยทำไมลุงเค้ก (Daniel Craig) แกชอบเล่นบทโดนมัดจัง


รูปต้นแบบมาจากทั้ง007กะ the girl with the dragon tattoo............

เป็นชายหนุ่มที่ฮอทเวลาโดนมัดจริงๆเหอะ

หรือว่า...............


Bond is for Bondage?

เลยมาเป็นพล็อตหื่นสิ้นคิดของฟิกสั้นจุ๊ดนี่ล่ะ ฮรี่

ปอลอ ไม่ได้บอกชัดเจนว่าเมะเรื่องนี้คือใคร.....เดากันไปละกันนะ ฮาาาาาาาาาา

ปอลู NC 17 นะจ๊ะ เชิญทัศนาาาาาา

///////////////////////////////////////////////////////////////

Title : Bond is for Bondage

Rate : NC17

Genre : ฮาเฮ,หื่น,PWP

Pairing: X/James Bond

Vers: 007 Skyfall Movie vers.(อาจมีอิงๆ Casino Royale นิดหน่อย)

//////////////////////////////////////////////

Bond is for Bondage


แกร๊ง..............

เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากเสียงโซ่กระทบกันดังเข้าหู แต่ทำไมมันยังมืดเหมือนเขาไม่ได้ลืมตาล่ะนี่

อ้อ.....เขาถูกปิดตาอยู่............แถมพอพยายามลุกขึ้นถึงรู้ว่าเขานอนอยู่ในท่านั่ง...........

แถมยังขยับมือไม่ได้เพราะมีอะไรซักอย่างยึดแขนไพล่หลังไว้ซะด้วย

"อีกแล้วเหรอวะเนี่ย" เจมส์ บอนด์ คิดอย่างหัวเสีย

อันที่จริงก็ใช่ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์นี้ จะว่าไปเขาโดนรัดด้วยโซ่ไว้กับเก้าอี้บ่อยกว่ารัดเข็มขัดเซฟตี้เบลท์ซะอีก

มีไอ้บ้าคนหนึ่งเคยบอกว่า B in Bond is for Bondage

งั้นเขาควรจะเปลี่ยนชื่อมั้ย ผม บอนเดจ......เจมส์ บอนเดจ...........

ฟังดูไม่เข้าท่า............พอเถอะ

บอนด์เริ่มคิดคำนวณถึงความเป็นไปได้ก่อนหน้าการเกิดสถานการณ์นี้

เหมือนว่าเขาจะอยู่ในคลับแห่งหนึ่ง คล้ายๆว่าเขาจะซดวอดก้ามาตินี่...เขย่าไม่คน....เป็นแก้วที่ห้าและกำลังจ้องตาสาวงามในชุดเปลือยหลังสีแดงเลือดนกอยู่

ประมาณนั้น แล้วไงต่อ......................

หลังจากลองขยับตัวดูเขาก็พบว่านอกจากมือที่โดนรั้งไว้ด้วยปลอกมือหนัง(น่าจะสีดำมันวาว)และโซ่ที่ยาวพอประมาณกับถูกผูกตาไว้แล้ว อย่างอื่นก็ยังดูปกติ ไม่รู้สึกว่าโดนกระสุนทะลุไหล่ มีดจิ้มพุงหรือซี่โครงหักเป็นซี่ๆตรงไหน

และเขายังสวมเสื้อผ้าอยู่......แถมเก้าอี้ก็ไม่ใช่เก้าอี้ไม่มีพื้น.....ถือว่ายังโอเค

บอนด์ลองตรวจสอบสภาพแวดล้อมเท่าที่ทำได้ เงี่ยหูฟังก็ไม่มีเสียงเครื่องจักรประหลาดๆหรือเสียงปืนอยู่ เท่าที่รู้สึกในห้องก็ไม่ได้ร้อนอับหรือไม่มีอากาศหายใจแต่อย่างใด ตรงกันข้ามออกจะเย็นสบายแบบห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำซะอีก

คำนวณผลว่าเขาไม่น่าจะถูกแก๊งหรือองค์กรลับอะไรซักอย่างลักพาตัวมาทรมานเกี่ยวกับเรื่องงานแต่อย่างใด....คิดได้อีกอย่างว่าที่เขามาอยู่ตรงนี้ได้อาจเป็นการเล่นแผลงๆของไอ้หมอนั่น

และอย่างที่เขาเรียกว่า.....พูดถึงโจโฉ.....โจโฉก็มา.........

เสียงเปิดประตูแง้มออกอย่างเบาๆแล้วปิดอย่างนุ่มนวลตามด้วยเสียงฝีเท้าที่ก้าวลงบนพื้น.....เขาคาดว่าน่าจะเป็นหินอ่อนขัดมันที่ถูกกระทบด้วยรองเท้าหนังลูกวัวคัสตอมเมดเรียบหรู สาวเท้าเข้ามาช้าๆอย่างมั่นใจ

มีเสียงลากเก้าอี้มาจากด้านซ้ายและเงียบหยุดลง ทำให้เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่

"สายันต์สวัสดิ์ มิสเตอร์บอนด์" เสียงทุ้มที่โคตรจะคุ้นเคยดังขึ้นทักทายที่ข้างหู ใกล้จนตกใจ ไม่ต้องให้ทายก็รู้ว่าใคร

และยังไม่ทันจะอ้าปากทาย บอนด์ก็รู้สึกได้ว่ากระดุมเชิ้ตของเขากำลังถูกแกะอย่างช้าๆ ทีละเม็ดๆ

"นี่ไม่คิดจะพูดคุยเจรจากันหน่อยเลยรึไง" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนหน่อยๆ เมื่อรู้สึกว่ามือของผู้มาเยือนไต่มาถึงต้นขา

"อยากได้ดอกไม้กับดินเนอร์ก่อนเหรอ......มิสเตอร์บอนด์.......ชั้นไม่ชอบทำอะไรฟุ่มเฟือยเสียเวลาน่า"


ชายอีกคนกล่าวด้วยเสียงยั่วล้อ สายลับหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อกระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดแล้วดึงสาบเสื้อให้เปิดออกกว้าง

นิ้วมือเย็นเยียบแข็งแกร่งลูบบางจากแนวต้นคอเรื่อยไปถึงแนวกระดูกไหปลาร้า ปลายนิ้วที่ลากช้าๆแต่หนักแน่นเมื่อมาถึงยอดอกทำให้เขาหายใจขัด

การถูกปิดกั้นสายตายิ่งทำให้ประสาทสัมผัสยิ่งอ่อนไหว เขาตัวเกร็งสลับสั่นไหวเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับเคลื่อนตัวเข้ามาจนเก้าอี้ทั้งสองตัวที่นั่งอยู่ประชิดกัน

"อย่างน้อยก็ช่วยแก้ผ้าให้หน่อยไม่ได้เรอะ" บอนด์ว่าเมื่อมือแกร่งอีกข้างนั้นเคลื่อนไปปลดเข็มขัดออกจากกางเกงของเขาอย่างคล่องแคล่ว ในขณะที่ปลายนิ้วมือขวาก็ยังลูบไล้แผ่วที่แนวกล้ามเนื้ออก

"อืมม์ ก็กำลังแก้อยู่ไง" ชายหนุ่มที่หายใจร้อนรดต้นคอเขากล่าวเสียงนุ่ม

ไอ้................Bloody Asshole!!!

บอนด์สบถ ก่อนที่จะรู้สึกว่าต้นขาถูกยกขึ้นมาไว้บนตักของอีกฝ่าย "ฮ....เฮ้ย....จะทำอะไร"

เขาดิ้นขลุกขลักแต่ก็ดูจะไม่มีผลเท่าไหร่ โซ่ที่รั้งไว้แม้จะยาวพอจะขยับแขนได้แต่ก็สั้นไปสำหรับการขัดขืน

ชายหนุ่มที่สัมผัสร่างกายเขาอย่างไม่เกรงใจหัวเราะหึหึในลำคอเมื่อปลดเปลื้องเสื้อผ้าไปได้จนถึงท่อนล่าง กางเกงแสล็คเนื้อดีของเขาถูกโยนไปตรงไหนก็ไม่รู้ บอนด์ตัวสั่นเทิ้มเมื่อมือแกร่งกดลงบนหน้าขาเปล่าเปลือย

"อืม.....ทอม ฟอร์ดเหรอ ไม่ยักใช่ที่ชั้นซื้อให้นะ" อีกฝ่ายกระซิบเสียงนุ่มก่อนขบเบาที่ใบหู กล้ามเนื้อใต้ผ้าบางดันนูนขึ้นมาราวรับคำ บอนด์กัดฟันกรอดก่อนเกร็งตัวเมื่อจุดอ่อนไหวถูกรุกเร้า

"ไอ้...............เอา ไอ้ ผ้าปิดตาบ้านี้ออกไป...................อึ่ก" เขาเสียงขาดห้วงเมื่ออารมณ์วูบวาบจากการสัมผัสไล้ ปลายลิ้นที่ลิ้มไล่ยอดอกยิ่งทำให้หายใจสั่น.....ยังไม่รวมถึงความร้อนที่พุ่งพล่านอยู่ใต้ต้นขาที่ถูกยกไว้ของเขา

"ใจเย็น.........รีแล็กซ์ไว้ มิสเตอร์บอนด์..............." เสียงต่ำทุ้มพร่า ก่อนที่ผ้าชิ้นน้อยจะถูกถอดทิ้งอย่างไม่ใยดี

ความฉ่ำชื้นจากเจลเย็นเฉียบทำให้เขาเกร็งตัวนิ่ง นิ้วแข็งแกร่งรุกไล่เพื่อเปิดทาง ร่างล่ำสันบิดตัวอย่างไร้ทางออกเมื่อมือถูกพันธนาการไว้ บอนด์หอบหายใจเมื่อปลายนิ้วลื่นไหลสัมผัสเข้าถึงภายใน

"หืมม์ เด็กดี......." อีกฝ่ายหัวเราะลึกในลำคอเมื่อเห็นบอนด์พยายามสะกดกั้นเสียง " เด็กที่ทำตัวเรียบร้อยได้ก็ควรให้รางวัล?"

เขาหรี่ตาเมื่อผ้าปิดตาถูกเปิดให้เห็นภาพภายในห้อง ผมสีบลอนด์จัดที่กระทบสายตาทำให้บอนด์กระตุกยิ้ม ชายหนุ่มเบื้องหน้ายิ้มกว้างให้ระหว่างสอดนิ้วที่สอง

"ไหนว่าไม่ชอบทำเรื่องไม่จำเป็น......" บอนด์กล่าวอย่างท้าทายเมื่อถูกรุกล้ำเบื้องล่างจนเปียกชื้น ทำให้อีกฝ่ายถอนหายใจราวกับต้องรับมือเด็กเจ้าปัญหา

"ผมเป็นสุภาพบุรุษนะ มิสเตอร์บอนด์..............." ชายหนุ่มผมทองกล่าวระหว่างไล้มือบนความแข็งขืนของอีกฝ่าย บอนด์ครางเสียงเบาเมื่อปลายนิ้วร้อนสัมผัสปลายยอดที่ฉ่ำเยิ้ม "แต่ถ้าคุณขอ......ผมก็ไม่เกรงใจ"

ระหว่างอารมณ์ที่พุ่งพล่านจนทั่วร่างสั่นไหว  บอนด์รู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่สอดล้ำเข้าภายใน ความแข็งแกร่งที่เสียดแทงนั้นทำให้เขาตัวเกร็ง

"เฮ้ย !!! เดี๋ยว... มันยัง............อึ๊ก." บอนด์เสียงกระเส่าขาดห้วงเมื่อถูกรุกล้ำอย่างช้าๆ ชายอีกคนกระซิบเสียงพร่า "รู้สึกอย่างไรเหรอ........เจมส์"

บอนด์กัดปากตัวเองจนเลือดซิบเพื่อไม่ให้ส่งเสียงครางออกมา

บ้าเอ๊ย............It's bloody big!!!

แต่ร่างกายเขากลับตอบสนองอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ช่องทางภายในรับการรุกไล่นั้นด้วยการตอดรับสิ่งนั้นราวกระหายต้องการ

ชายหนุ่มผมทองยิ้มหม่นเมื่อเรียวขาของร่างด้านบนโอบรัดเอวเขาด้วยอารมณ์พุ่งพล่าน เขายันตัวขึ้นแทรกกายเข้าในความคับแน่นอย่างเร่าร้อนรุนแรง

ตัวของบอนด์ไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น เรียวขาที่สั่นจนเกร็งนั่นทำให้ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนกล่าวล้อ

"นั่งแบบนี้นานๆ คุณคงปวดเข่าแย่"

ถึงอีกฝ่ายจะชอบพูดว่าพวกเราอายุเกินจะทำอะไรผาดโผนแต่สิ่งที่หมอนี่ทำอยู่บ่อยๆนี่มันไม่สมกับคนวัยเขาเลยเหอะ ให้ตาย

"ฮึก....ตอนนี้มันไม่ใช่เข่าสิเฟ้ยที่เจ็บน่ะ" บอนด์ร้องเสียงขุ่นใส่อีกฝ่ายที่ยิ้มกวนประสาทให้ ชายด้านล่างไล้ริมฝีปากตามผิวเนื้อต้นคอไล่มาถึงแนวกรามกร้าน

"แต่เหมือนคุณจะชอบอะไรแบบนี้นี่นา.......มิสเตอร์บอนด์......บอนเดจ?"

บอนด์หรี่ตามองมองดวงตาสีเข้มนั้นอย่างขัดเคืองเมื่อเรียวปากหนาขบเม้มเรียวปากล่างเขาอย่างยั่วเย้า ก่อนประกบริมฝีปากสอดลิ้นเข้ามายั่วล้อ

จริงๆเขาควรจะกัดลิ้นที่พูดจางี่เง่านั่นสุดแรงแล้วหาช่องทางหนีเอาซะก็ได้ เรื่องแบบนี้มีสอนวิธีแก้ไว้ในตำราสายลับสูตรมาดาม M อยู่แล้ว

แต่อย่างว่า................อารมณ์ตอนนี้เขาทำได้แค่รับจูบรุ่มร้อนนั่น......ด้วยเรียวลิ้นโรมรันตามจังหวะร่างกาย..........ชายผมทองสอดกายกระชั้นไล่จนบอนด์ต้องร้องคราง

"you............Bloody-asshole"

"With pleasure, James. With pleasure"

ก็อย่างว่า.....................

ใครว่านี่เป็นครั้งแรก(ของเขากับไอ้หมอนี่)ล่ะ


Fin?

///////////////////////////////////////////////////////////////

อืม.............พยายามจะทำให้ลุงบอนด์เป็นเคะคูลๆ ปากเสีย Badass กวนติ่งและเซะซี่ย์............

แบบนี้ย์


สครีม//ลุงเค้กค๊าบบบบบบบบบบบบบบบ ฟหกดเ้่าสวงฟหกดเ้่าสวง

แต่ทำไมออกมาเป็นโดนรังแกไปซะงั้น//ทรุด

ปอลอ มีเพจเปิดใหม่ล่ะ.............แบบว่า................


เพจซิลบอนด์ล่ะ//ปิดหน้าหนีไปยยยยยย

อัพเดตลิสสสสสสสสสสสสสสสสสส์
1.ป๋ากับจาร์วิสและMark01 
2.ยักษ์เขียวกะน้องเหยี่ยว
3.ตอนสั้นของTangled loop กะจะเขียนความสัมพันธ์เศร้าๆของป๋ากับปู่ที่ความจำเสื่อม
4.Civil warตอนสั้นๆซักตอน แต่เอาแบบว่าผ่านมุมมองของลูกชายสไปดี้
5.แคปซิโคล หรือ Tony/Steve/Coulsonดี ฮาาาาา
6.Bucky/Steve กับ Winter Soldier Love Song 555
7.Loki/Steve(?)
8.Steve/Clint(??)
9.JarvisXJarvis
เพิ่ม(ยังจะเพิ่ม)
10.RPS Chris Evans / Robert Downey Jr. (?)
11.ดับเบิ้ลคริส(เฮ้ยยยยย)
และ
12.ป๋าและดาร์คสตีฟ หึงโหดส์//ผิดมากกกก
13. Jarvis และ/หรือIronmanXTony
รีเควสจากเบบี๋ย์
14.nikey //กิธอร์(ธอร์เคะ?)/ทอมคริส(เฮม)/คริส โรเบิร์ต
15.SD May//ปู่กับจาร์วิส
16.water-melon//ปู่ป๋าแบบหวานๆ
17.PanamaKun//ปีเตอร์เวด ปีเตอร์เมะ เวดเคะ
และ
18.SilvaBond ไม่ก็ 00Silva? หุหุหุ
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands  SteveXTony ตามเคย

ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/

(Skyfall fic+Fanart)Think on our sins(Raoul Silva/James Bond)

ในที่สุดก็แต่งเสร็จจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ//น้ำตาไหลท่วมบล็อค

ทำท่าแบบป๋าด้วยความปลาบปลื้ม

ฟิกซิลบอนด์(จริงๆ)ที่กว่าจะแต่งจบปาไปนานนัก....ทำไมคู่นี้มันช่างเขียนยากเขียนเย็น ไอ๊ย่ะ....แถมยังไม่มีฉากเรตๆอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรกอีกตะหาก//ทรุดดดด

ปอลอ ฟิกตอนนี้สปอยเรื่อง Skyfall วายป่วงเลยนะจ๊ะเบบี๋ย์

และถ้าจะให้ดี ตามไปอ่านตอนนี้ก่อน

Think on your sins Raoul Silva/M(relationship) ความสัมพันธ์ฉัน.....oedipus complex ระหว่างซิลวากับมาดาม M

ส่วนตอนนี้ก็จะเป็น.....Think on our sins//ชื่อสิ้นคิดตามเคย ฮาาาาาา

///////////////////////////////////////////////////////////////

Title : Think on our sins

Rate : PG13

Genre : Sad/Angst/Dark

Pairing: Raoul Silva/James Bond,Raoul Silva/M(background),Raoul Silva/Severine(past)

Vers: 007 Skyfall Movie vers.


//////////////////////////////////////////////




Think on our sins


".......พอผมพูดคำหนึ่งขึ้นมา ให้คุณบอกคำแรกที่นึกขึ้นได้ในหัว.........."

"นก..."

ในทางจิตวิทยา นกหมายถึงความต้องการที่จะหลุดพ้นจากน้ำหนักหรือภาระที่แบกอยู่ ความต้องการอิสระ ความไม่พอใจในสภาวะที่เป็นอยู่ ซึ่งหากตอบว่า ท้องฟ้า ก็ถือว่าตกเข้ากับดักคำถามของนักจิตวิทยาซึ่งคงเอามันไปแปรเป็นบทวิพากษ์ภูมิหลังสภาวะจิตใจของเขาอย่างสนุกมือ

แต่ไม่ใช่กับเขา ซิลวาคำนวณคำตอบทั้งหมดในหัวแล้วตอบกลับไปด้วยคำที่ไม่บ่งบอกความหมายในด้านลบ แต่ก็ไม่ล่วงล้ำตัวตนแท้จริงของเขาต่อนักจิตวิทยาอย่างชาญฉลาด ในเวลาไม่ถึงช่วงกระพริบตา

คะแนนทดสอบทางวิทยาของเขาครั้งนั้นได้ผลเกือบสุงที่สุดในประวัติการทดสอบเอเจนต์ของ MI6

ไม่รวมถึงคะแนนการประเมินผลในการยิงปืน การประเมินผลทางกายภาพ การประเมินผลทางจิตวิทยา ทักษะ ความสามารถ ความรู้ที่เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม

เขาสมบูรณ์แบบ.............บางทีอาจจะสมบูรณ์แบบเกินไป อย่างที่ M ได้เคยกล่าวไว้

และสิ่งที่มีเกินไป..............มากกว่าความต้องการ..............มักถูกกำจัดทิ้ง

ถูกกำจัดทิ้ง...................

หลังจากนั้นเมื่อเขามีสิ่งใดในชีวิตที่เกินความจำเป็น.............เขาจึงกำจัดมันทิ้งเช่นกัน

ซิลวาลากปลายนิ้วลงบนปลอกคอหนังดำมัน รูปทรงงดงามเรียบง่ายนั้นทำให้เขาพึงพอใจเมื่อมันถูกสวมไว้บนคอระหงของหญิงสาว ดวงตาสวยคมของเธอจ้องมองเขาอย่างแค้นเคืองระคนหวาดหวั่นเมื่อซิลวาปลดเครื่องพันธนาการที่ปิดกั้นเรียวปากของเธอไว้

แล้วแทนที่มันด้วยการจุมพิตหนักแน่นเร่าร้อนที่ทำให้เธอต้องทรุดตัวลงบนพื้นคอนกรีตอย่างหมดแรงแม้มือของเธอจะถูกรั้งไว้ด้วยโซ่เส้นเล็กแต่แข็งแกร่งก็ตาม

"โอ้..............เซเวอรีน ขอโทษที่ต้องควบคุมความประพฤติคุณซักเล็กน้อย" ซิลวากล่าวเสียงเบาราวรู้สึกผิด พลางลูบรอยแผลสีแดงจากแส้บางๆที่เริ่มจางหายบนผิวกายของเธอ "แต่มันจำเป็นน่ะ.........เมื่อคุณไม่ยอมทำตามคำร้องขอของผมนี่นา"

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยแรงของมือที่บังคับเชิดคาง แล้วจ้องมองแววตาที่เธอเคยบอกตัวเองว่ามันคือความรักด้วยดวงตาเปียกชื้นจากน้ำตา เซเวอรีนหลับตาอย่างขมขื่นเมื่อซิลวาเลื่อนตัวมากระซิบเบาที่ข้างหู

"แค่อีกครั้งเดียวน่า...ที่รัก......ทำเพื่อผม" เขายิ้มนุ่มนวลให้เซเวอรีนก่อนประทับจูบเบาลงที่ข้างแก้ม "นำเขามาหาผม"

ใช่.........นำทาง "เอเจนต์ 007 เจมส์ บอนด์" มาหาเขา......เป็นเป้าหมายอันเย้ายวนที่จะใช้ล่อสุนัขรับใช้คนโปรดของ M.......MI6 เพื่อให้เขาได้บรรลุแผนการณ์ที่วางไว้

จะว่าไปเขาเพิ่งได้ดูผลการประเมินผลอันน่าประทับใจของมิสเตอร์บอนด์เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเขาไม่รู้จะบอกว่าควรโล่งใจหรือสมเพชตัวเองที่ถูกตามล่าโดยคนแบบนี้ดี

การประเมินผลในการยิงปืน : ไม่ผ่าน

การประเมินผลทางกายภาพ : ไม่ผ่าน

การประเมินผลทางจิตวิทยา : ไม่ผ่าน

ติดเหล้าและสารเสพติด.....แถมยังขัดขืนผู้มีอำนาจเหนือกว่าซึ่งบ่งบอกว่าถูกทรมานเมื่อตอนเด็ก

นี่หรือคือคนที่ M ต้องการให้มาแทนตัวเขา..... มารับมือกับเขาทั้งๆที่ไม่พร้อม.....ทรุดโทรม.....เสื่อมความสามารถและเสี่ยงต่อการเพลี่ยงพล้ำในภารกิจ

นอกจากชื่อ*เจมส์ ที่ดูคล้ายคลึงกับชื่อเก่าของเขาแล้วดูไม่มีอะไรที่ชายคนนี้จะเทียบเท่าเขาได้ซักอย่าง.... ไม่สิ จะว่าไปก็มีเรื่องที่เขาและมิสเตอร์บอนด์ถูก M ทรยศและส่งไปตายอีกอย่างที่เหมือนกัน

เขาชักอยากจะพบชายคนนี้ให้ไวๆแล้วสิ......บางทีเราอาจจะได้เปิดอกพูดคุยประสาพี่ชายน้องชายที่ถูกควบคุมโดย M.....มาดาม? ราชินี? หรือคุณแม่?....เอาเป็นว่าผู้หญิงใจร้ายคนเดียวกันอย่างสนิทสนม

ซิลวาปลดปลอกคอและกุญแจมือจากร่างของเซเวอรีนอย่างเบามือแล้วโอบเธอไว้ก่อนแย้มยิ้ม...............ส่วนเหยื่อแสนงามนี่เมื่อหมดความจำเป็นแล้วค่อยกำจัดทิ้งที่หลัง...............เขาคิดในใจ

.............................................

"007 รายงานตัวพร้อมปฏิบัติหน้าที่"

สตรีสูงวัยยืนนิ่งตัวแข็งเกร็งเมื่อได้ยินเสียงทักจากแขกไม่ได้รับเชิญในยามวิกาล ในคราแรกเธอดูหวาดหวั่นเมื่อได้ยินคำรายงานตัวอันคุ้นเคย แต่สุดท้ายเมื่อตระหนักได้เธอก็กล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นเรียบ

"นายหายหัวไปไหนมา 007"


เธอรู้ดีว่าผู้ที่ล่วงล้ำเข้าถึงตัวเธอได้ในแบบนี้มีอยู่เพียงแค่สองคน.............ไม่สิ ตอนนี้มีเหลือแค่เพียงคนเดียว

"ไปสนุกกับความตาย..... M"


สายลับที่ใครๆต่างคิดว่าตายไปแล้ว เจมส์ บอนด์ เผยร่างออกมาจากมุมมืดของห้องพร้อมแก้วบรั่นดีในมือ

มันทำให้เธอขมวดคิ้ว เหมือน.....เหมือนกันจนเกินไป ระหว่างเจมส์คนนี้และติเอโกคนนั้น....ไม่ใช่แค่ชื่อที่สื่อความหมายคล้ายกันกันแต่รวมไปถึงหนทางชีวิตที่ทับซ้อนกันของทั้งสองคน

ทำให้เธอสะเทือนใจถึงภาพความเหมือนที่สะท้อนให้เธอเห็นถึงบาปที่ตนก่อไว้.....ความผิดที่ทำต่อชายผู้หนึ่งเพื่อปกป้องราชอาณาจักรของเธอ.....ออกคำสั่งที่ทำลายชีวิตของเขาราวกับการเดินเบี้ยบนกระดาน

และมองเกมอันแสนยาวนานนี้จากบนเก้าอี้ของ M อย่างเหนื่อยล้า เมื่อตัวหมากรอบตัวค่อยๆสูญหายไปทีละตัว

แต่การที่บอนด์กลับมาในสภาพที่ยังมีชีวิตทำให้เธอใจชื้นขึ้นอย่างแปลกๆ แม้ว่าสภาพเขาจะดูย่ำแย่กว่าเมื่อสามเดือนที่แล้วแค่ไหนก็ตาม.......เธอสูดหายใจเข้าแล้วเอ่ยคำสั่ง

"ในเมื่อนายเบื่อจะพักร้อนแล้วก็กลับมาทำงานซะ แต่ให้รู้ไว้ว่าตอนนี้นายมีสิทธิ์เทียบเท่ากับเอเจนต์ที่ตายไปแล้ว......." ก่อนบอกให้เจมส์ไปปรับปรุงสารรูปและฝีมือก่อนเข้ารับการทดสอบคัดเลือกเข้าทำงานสายลับอีกครั้ง

"......และสุดท้าย อย่างัดเข้าห้องชั้นอีกล่ะ" M ทิ้งท้ายเมื่อเจมส์ บอนด์ยักคิ้วให้เธอด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่สนใจเท่าไหร่...........

ซึ่งสุดท้าย เขาก็ไม่ได้เหยียบย่างเข้ามาในห้องของเธออีกครั้ง.....แม้ว่าจะไม่ใช่ด้วยเหตุผลว่าเชื่อฟังคำสั่งของเธอก็ตาม

.............................................

คราแรกที่ซิลวาได้พบสายลับมือหนึ่ง....ไม่สิ อดีตสายลับมือหนึ่งจาก MI6 ผู้มีหมายเลขที่เขาเคยต้องการ เอเจนต์ 007 เจมส์ บอนด์ สิ่งที่เขารับรู้ได้ผ่านการมองร่างที่ถูกจับล็อคกุญแจมือไว้กับเก้าอี้

เขาแทบอยากหัวเราะสมเพชตัวเองว่านี่หรือ คือคนที่ M คิดว่าจะตามล่าเขาได้.......สู้ทัดเทียมเขาได้......ทั้งสมรรถภาพร่างกายและจิตใจที่ย่ำแย่จนเทียบเขาไม่ได้แม้ปลายก้อย

หนูอีกตัวที่คุณคิดอยากให้เหลือเป็นตัวสุดท้ายและเลือกมันคือ ชายหนุ่มที่ด้อยความสามารถในการเป็นสายลับจนไม่ผ่านการทดสอบ

M...........บางทีคุณก็อาจแก่เกินจะไปแล้วก็ได้ที่ประเมินและตอบโต้ผมได้แค่นี้.........ซิลวาคิด

"เห็นนายแล้วชั้นรู้สึกเศร้าใจนิดหน่อย.......ดูสิ ว่าผู้หญิงคนนั้นทำอะไรกับนายได้นอกจากคำหลอกลวง"

"เธอไม่เคยโกหกชั้น" บอนด์กล่าวเสียงเรียบ ดวงตาสีฟ้าสดจ้องมองเขาอย่างแข็งกร้าว

อา......ผมคงเข้าใจผิด คุณยังคงเก่งกาจอยู่ในเรื่องการหลอกล่อให้ใครคนหนึ่งหลงเชื่อและทำเพื่อคุณได้ขนาดนี้.......ถึงแม้ว่าเขาจะเฉียดตายจากการที่คุณทำลายความเชื่อมั่นที่มีให้....เช่นเดียวกันกับผม

"ผลการทดสอบที่บิดเบือนทั้งหมดนี่........กับการส่งนายมาทั้งๆที่นายยังไม่พร้อมและเสี่ยงที่จะตาย ยังไม่เรียกว่าโกหกอีกหรือ?" ซิลวากล่าวเสียงนุ่มพร้อมลากเก้าอี้มานั่งพิจารณาร่างของชายเบื้องหน้าอย่างละเอียดละออ

"แม่ของเรานี่ช่างร้ายกาจ" เขาทอดตามองบอนด์อย่างอ่อนโยนพลางคิดสะท้อนภาพอันแสนน่าเวทนาของตนในอดีต

แต่แววตาเย็นเยียบของบอนด์ที่สบกลับมาก็ทำให้เขาถูกดึงกลับมาจากห้วงความคิดแล้วมองมันด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย

สีฟ้าไอซ์บลูที่แข็งกร้าวเหมือนดวงตาของหมาป่า โดดเดี่ยว บ้าคลั่ง และยากที่จะควบคุม ดวงตานั่นทำให้เขาอยากจะลองทำให้เชื่องดู ว่ายังไงดีล่ะ...... ทดลองเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของมัน เหมือนในแบบที่ M ทำ....เพียงแค่เป็นในทางกลับกัน

บางทีเขาอาจจะลองทำให้ชายผู้นี้ยอมจำนน จมดิ่งลงสู่ห้วงปรารถนา อย่างช้าๆ ละเอียดอ่อน นุ่มนวล และเปี่ยมด้วยความต้องการจากตัวเขาเอง... ซึ่งซิลวาคาดว่าการรุกล้ำและครอบครองเมื่อยังมีสติครบถ้วน น่าจะทำให้บอนด์พ่ายแพ้ได้อย่างสมบูรณ์มากกว่าการขู่บังคับหรือใช้ยา

แต่ในครั้งแรกๆก็อาจต้องมีการควบคุมความประพฤติบ้าง เพราะสัตว์ร้ายอาจต้องมีการอบรมด้วยแส้ก่อนที่จะล่อลวงด้วยความหอมหวาน การค่อยๆฝึกฝนให้ยอมสยบนั้นอาจยากและใช้เวลายาวนาน.....แต่ก็ถือว่าเป็นงานที่น่าสนุก

ใครว่าเขามีงานอดิเรกเพียงแค่อย่างเดียวเล่า

ซึ่งอย่างที่ว่า งานอดิเรกต้องเป็นสิ่งที่เราทำเมื่อมีเวลาว่าง ตอนนี้เขามีงานใหญ่ที่ต้องจัดการก่อนจะมีความสุขกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะลิ้มลองสัมผัสดูไม่ได้

ซิลวาเอื้อมมือไปปลดกระดุมเชิ้ตสีขาวเนื้อบางที่บอนด์สวมอยู่อย่างช้าๆ และมองหาร่องรอยแผลจากการทรยศของM

"ดูนายสิ.........." เขาลากปลายนิ้วลงไปบนรอยแผลนูนบนอกขวา บอนด์หรุบตาลงเมื่อผิวอ่อนไวต่อสัมผัสถูกลูบไล่

"อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยจับชั้นมัด" สายลับหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ ซิลวายิ้มบางก่อนขยับมือเลื่อนมาสัมผัสแผ่วไปตามแนวกล้ามเนื้อ "เธอพลาดแล้วล่ะ"

เจมส์ บอนด์ มองชายหนุ่มเบื้องหน้าอย่างไม่เข้าใจ.....ดวงตาสีฟ้าของเขาวูบไหวเมื่อกระดุมเม็ดล่างของเสื้อถูกปลดเปลื้องออกจากรัง

"แน่ใจว่านี่เกี่ยวกับ M?"


เขากล่าวเสียงเบาเมื่อซิลวาไล้นิ้วไปตามผิวเนื้อข้างลำคอ บุรุษผมทองยิ้มหวานก่อนกล่าวเสียงนุ่ม


"ใช่.....เกี่ยวกับเธอ กับชั้น และกับนาย........"

ซิลวาสบมองดวงตานั้นด้วยแววตาวาววามก่อนขยับร่างเข้าใกล้ "เราคือหนูสองตัวที่เหลือรอด.....เราอาจจะ.........กินกันเอง" เขากระซิบเสียงแผ่วเมื่อใบหน้าเลื่อนเข้าใกล้ใบหูชายหนุ่ม "หรือเราอาจจะร่วมกัดกินหนูตัวอื่นด้วยกัน มิสเตอร์บอนด์"

ลมหายใจร้อนที่รดแผ่วข้างหูระหว่างที่มือแกร่งไล้ลงสู่ซอกคอแล้วลูบแผ่ว บอนด์ร่างเกร็งแข็งราวกับถูกสะกดเมื่อมืออีกข้างของซิลวาวางลงบนต้นขาอย่างเบาบาง...............ริมผีปากหนาแตะเฉียดผ่านผิวนุ่มของติ่งหู

อา....เสียดายที่ตอนนี้เวลาใกล้เข้ามาและเขาคงหยุดเล่นสนุกไม่ได้........ซิลวาคิดก่อนถอยร่างออกห่างแล้วยิ้มอย่างยั่วล้อ

"นายคงกำลังคิดถึงบทเรียนเบื้องต้นสินะ......ถูกทำแบบนี้แล้วจะทำยังไง" เขากดปลายนิ้วลงบนผิวผ้ากางเกงสีเข้มแล้วดันต้นขาออกกว้าง บอนด์ที่คล้ายจะเพิ่งรู้สึกตัวว่ามือของเขาสัมผัสที่บริเวณไหนยืดหลังตรงก่อนปรับสีหน้าให้เรียบนิ่ง

"แต่ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกใช่มั้ย?" ซิลวายิ้มบางด้วยแววตาเยาะหยามที่เห็นความหวั่นไหวในดวงตาสีฟ้านั่น....เขาทำให้บอนด์เสียการควบคุมได้........แม้ไม่มากนัก

แววตาของสัตว์ป่านั้นกลับมาอีกครั้ง "ใครบอกนายว่านี่คือครั้งแรก?"

อย่างที่คิด.....คำตอบที่เหมาะสมกับสถานการณ์และน้ำเสียงอวดดีที่ได้รับการฝึกฝนนั้นเป็นไปตามที่เขาคาดไว้

ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะน่าสนุก....บางทีหลังจากเรื่องทั้งหมดนี้เขาอาจมีเวลาไล่ล่าหนูอีกตัวที่ดูควรค่าที่จะกัดกินตัวนี้

แต่ต้องหลังจากที่นำพาเขาเข้าไปสู่รัง.....ไม่สิ ปราสาทของราชินีใจร้ายนั่นได้ก่อนน่ะนะ.......มิสเตอร์บอนด์

.............................................

ซิลวาเงยหน้าขึ้นมองแสงไฟที่จัดจ้าเกินจำเป็นของห้องขังที่ทำจากกระจกทรงหกเหลี่ยมรอบกายแล้วยิ้มบาง ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตอนนี้โน้ตบุคของเขาคงได้ถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบของฐานลับใหม่ของ MI6 เรียบร้อยแล้ว

อย่างที่ว่า......การทำลายป้อมปราการแกร่งที่ทำลายได้ยากต้องเข้าแทรกแซงจากภายใน หลักการง่ายๆที่อาจยากในทางปฏิบัติ แต่ไม่ใช่สำหรับเขา

และอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาเข้ามาเพื่อพิสูจน์บางอย่างให้แน่ใจ บางคำถามที่คาใจเขามาตลอด บางสิ่งที่รั้งให้เขายังไม่ลงมือทำลายองค์กรเก่าแก่ล้าสมัยนี้ทั้งๆที่เขาสามารถทำได้ตลอดเวลา

ซิลวาละสายตาจากลำแสงเบื้องบนเพื่อมองร่างที่ยืนนิ่งอยู่ในเงามืดของห้อง เจมส์ บอนด์ยืนกอดอกเงียบนิ่งมองเขาอย่างไม่วางตา.............

เขาแย้มยิ้มให้ใบหน้าในเงาสลัวนั้นอย่างอ่อนหวาน......จากภาษาทางร่างกายและแววตาที่ส่งออกมาทำให้ซิลวารู้ว่า บอนด์กำลังกลัว

กลัวเขาทั้งๆที่เขาเป็นเหมือนหนูที่ถูกขังอยู่ในกล่องแก้ว หรือหวาดเกรงว่าจะกลายเป็นตนเองที่จะถูกจองจำไว้แบบนี้ในอนาคตกันแน่.... ซิลวาส่งผ่านคำพูดไปในแววตาเยาะหยามที่ทอดมองที่ร่างสายลับหนุ่ม

ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะลองกระทำการฆ่าเวลาด้วยการยั่วเย้าภาพสะท้อนของเขาอีกสักหน่อยก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่มีอีกคนเยื้องกรายเข้ามาในห้องคุมขัง

ร่างของบุคคลที่เขาโหยหาด้วยความสิ้นหวังในช่วงเวลาโหดร้ายนั้น ใบหน้าของเธอที่เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมามองมันอีกครั้งหนึ่ง

"เอ็มม่า........M.........." ซิลวาผุดลุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แววตาจับจ้องร่างหญิงชราที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางสง่างามราวกับนางพญา ใช่......เธอคือราชินีแห่ง MI6 ที่ทรยศให้เขาตายอย่างไร้ค่าในจีน

คำถามมากมายประดังขึ้นมาในหัวของเขาจนแทบกลั้นไม่อยู่ แต่ซิลวาเลือกที่จะยิ้มและกล่าวคำทักทายด้วยน้ำเสียงขำขัน

"คุณดูตัวเล็กกว่าที่ผมจำได้นะ....มาดาม"

"ชั้นควรจำนายได้ด้วยหรือ?"

"แล้วแปลกใจมั้ยกับการเจอผมอีกครั้ง"

"ก็ไม่เท่าไหร่ ถ้าคิดถึงเรื่องว่านายมันลื่นเป็นปลาไหล"

"นั่นรึเปล่าทีทำให้คุณชอบผม"

"ดูจะยกย่องตัวเองเกินไปนะ"

อา..............เหมือนครั้งเก่า คุณที่เย็นชาราวน้ำแข็งและแข็งกร้าวราวปูนปั้น......คุณที่ต้อนรับผมที่ยับเยินไปด้วยบาดแผลจากการปฏิบัติภารกิจด้วยการมอบงานใหม่ให้อย่างเย็นชา

คุณที่เป็นได้เพี่ยง M ราชินีไร้จิตใจของ MI6...............แต่ยังเร็วเกินไปที่เขาจะถอดใจ

"อย่างที่ผมคิดไว้.....คุณเหมือนเดิมไม่มีผิด" เขาสบตาของเธอเพื่อค้นหาแวววูบไหวของบางสิ่งในดวงตา บางสิ่งที่เขาจะยอมหยุดทุกแผนการณ์ไว้แล้วจบเรื่องนี้ลง"คุณได้สำนึกถึงบาปของคุณมั้ย?"

"ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง" M ตอบเขาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

ซิลวาจ้องมองแววตาสีฟ้าสดอันแข็งกร้าว ดวงตาของคนที่เขาเฝ้าอ้อนวอนให้มาช่วยเขาออกไปจากขุมนรกนั้น ควานหาความรู้สึกอะไรซักอย่างในแววตานั่น.........และถอนหายใจเมื่อคว้าได้เพียงความว่างเปล่า

"ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง?"เขากล่าวเสียงต่ำ "หลังจากที่ผมโดนขังอยู่ 5 เดือน ในคุกมืดเหม็นอับ ผมโดนทรมานทุกวันเพื่อให้คายความลับแต่ผมไม่ปริปากเพื่อปกป้องคุณ........"

"จนทรมานเข้า...ทรมานเข้า สุดท้ายผมก็ถึงได้ตาสว่าง" ซิลวากล่าวอย่างสิ้นหวัง "คุณทรยศผม.........."

และทรยศผมแม้กระทั่งในเวลาที่ผมอยากจะตายไปให้พ้นๆจากโลกนี้เพื่อจบสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง

"แคปซูลยานั่น.....คุณจำได้มั้ย? ผมใช้มันหวังว่ามันจะช่วยให้ผมหลุดพ้นจากตรงนั้นได้....แต่ความตายกลับไม่ต้องการผม"

เขาก้าวเข้ามาประชิดผนังกระจกแล้วมองเธออย่างปวดร้าว "แล้วผมก็รู้ว่ามันต้องการให้ผมกลับมาเพื่อมองคุณอีกครั้ง..........สบตาคุณว่าผมคืออะไรในสายตาคุณ"

"แล้วมันคุ้มกับสิ่งนั้นมั้ย" คุณหลบตาผมแล้วเมินหน้าไปทางอื่น "มิสเตอร์ซิลวา นายจะถูกจองจำไว้ในคุกเบลมาร์ชจนกว่าอัยการจะทำการ..........."

ซิลวาพยายามครั้งสุดท้ายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ชื่อผม.....เรียกชื่อผม....ผมรู้ว่าคุณจำมันได้"

M หันขวับมาพร้อมด้วยแววตาเย็นเยียบ "ชื่อของนายจะถูกลบทิ้งจนหมด ตัวตนของนายทั้งอดีตและอนาคตจะถือว่าไม่เคยมี......และชั้นไม่คิดอยากจะเห็นหน้านายอีกครั้ง"

สิ่งสุดท้ายที่เหนี่ยวรั้งไฟแค้นของเขาไม่ให้ลุกโหมถูกเธอทำลายลงพร้อมชื่อจริงของเขาและตัวตนในความทรงจำ................ ซิลวาคิดอย่างขมขื่นเมื่อ M หันหลังเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เขาหัวเราะให้ตัวเองราวกับบ้าคลั่ง

ในเมื่อ ติเอโก โรดริเกรซ ไม่มีตัวตน ราอูล ซิลวาก็ไม่คิดว่า M มีความหมายพอที่จะต้องยึดมั่นไว้อีกต่อไป

ผมจะทำลายคุณไปพร้อมๆกับบัลลังค์ MI6 ที่คุณทรยศผมและถวายชีวิตเพื่อปกป้องมันให้พังพินาศ...................เพื่อให้คุณได้สึกนึกถึงบาปที่ได้กระทำไว้

.............................................

หลังจากทำลายทุกอย่างจนราบคาบ

หลังจากที่ไล่ล่ามาจนถึงจุดสิ้นสุดของขอบฟ้า

หลังจากเผาไหม้จนทุกอย่างตกอยู่ใต้เพลิงผลาญของไฟแค้น

ภายใต้หลังคาโบสถ์ผุพัง ซิลวากระชับมือของเอ็มมาบนไกปืนก่อนยกมันขึ้นมาแนบขมับของเขาทั้งสอง มือเย็นเยียบของเธอสั่นเล็กน้อยแต่ไม่มีสัญญาณของการขัดขืน

เขามองแววตาเหนื่อยล้าของเธอแล้วยิ้มขื่น เราทั้งสองคนเหน็ดเหนื่อยจนอยากจบมันลงตรงนี้แล้วใช่มั้ย

"ใช่....มันต้องเป็นที่นี่............มันต้องจบอย่างนี้..................."


ซิลวากล่าวเสียงขาดห้วงจากการหอบหายใจ ปลายนิ้วมือชุ่มเลือดแตะไล่ที่ใบหน้าขาวซีดของเอ็มมาอย่างสั่นเทา

บาดแผลถูกยิงที่ท้องของเธอดูร้ายแรงจนเขาอาจไม่ต้องลงมือ แต่ว่าตอนนี้การจบทุกอย่างลงไปกับผู้เริ่มต้นคงเป็นสิ่งที่เขาต้องการ......และนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะตายด้วยน้ำมือคนที่เขารัก

"ปลดปล่อยเราทั้งคู่ไปด้วยกันเถอะ.....ด้วยกระสุนนัดนี้" ซิลวาโอบกอดร่างเล็กของเธอเข้ามาแนบชิดก่อนหลับตาลง

"ยิงสิ..............จบมันด้วยมือคุณ" เขานึกถึงภาพการพบกันครั้งแรกของเขาและเธอในโบสถ์ซานดิเอโก ทูตสวรรค์ที่มอบชีวิตใหม่ให้เขาที่ตอนนี้จะเป็นมัจจุราจผู้นำพาเขาไปสู่ดินแดนแห่งความตาย

"มีแค่คุณที่ทำมันได้....เอ็มม่า....มีแต่คุณที่สร้างผมขึ้นมาที่จะฆ่าผมได้"

ก่อนที่เขาจะส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อปลายมีดแหลมชำแรกเข้าสู่แผ่นหลัง......ซิลวาหันไปมองชายหนุ่มเจ้าของมีดด้วยแววตาโกรธแค้น

"Last rat standing" เจมส์ บอนด์กล่าวเสียงเย็นชา

เขาทรุดตัวลงบนปลายเท้าของตัวเองมือไขว่คว้าหาร่างของเอมม่าที่ถูกดึงตัวไปไกลจากเขาอย่างสิ้นหวัง

นี่เขาต้องถูกชายคนนี้...........เจมส์ บอนด์ แย่งทุกอย่างในชีวิตไปใช่มั้ย.......ราอูล ซิลวา คำนึงอย่างเลื่อนลอยก่อนโลกทั้งโลกจะดับวูบ

.............................................

Tiago Rodriguez

บอนด์ไล้ปลายนิ้วไปบนผิวหินอ่อนที่ถูกสลักอักษรเป็นแถวยาวบนฝาผนังของศูนย์ MI6 เก่าที่เสียหายจากการระเบิด ตัวอักษรที่เซาะลึกเป็นเงาดำนั้นดูเหมือนจะชัดเจนกว่าตัวอักษรชื่ออื่นๆที่อยู่ตำแหน่งเคียงข้าง

เขามองมันอย่างชั่งใจ........เขาควรจะสกัดมันออกหรือไม่...........หรือควรปล่อยไว้ให้มันเลือนหายไปเองจากความทรงจำ

หลังจากการจากไปของ M คนเก่า การกลับมาทำงานของเขา 007 ภายใต้การบริหารของ M คนใหม่ Q คนใหม่ รวมทั้งอะไรใหม่ๆที่เขาเหมือนจะไปได้สวยแต่ก็คล้ายๆจะไม่ลงตัวนัก

อาจต้องใช้เวลาสักพัก อะไรๆทุกอย่างอาจจะคุ้นเคยมากกว่านี้.....เขาคิดอย่างเหน็ดเหนื่อยก่อนหยิบขวดเหล้าแบนบางที่พกในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาจิบ

เวลากลางวันช่างน่าเบื่อเหลือจะกล่าว บอนด์ก้าวออกมาจากซากปรักพังของตึกเก่าเพื่อมุ่งหน้ากลับห้องพัก ตอนนี้เขาไม่มีภารกิจมากนักเพราะ MI6 ถูกจับตามองจากสื่อในเรื่องของ M และสายลับแปรภักติ์ที่ก่อเรื่อง

ราอูล ซิลวา หรือชื่อจริง ติเอโก โรดริเกรซ อดีตเอเจนต์หมายเลขต้นๆขององค์กรที่เป็นอัจฉริยะทางการเป็นสายลับ................และแน่นอน เมื่อเปลี่ยนข้าง เขากลายเป็นสุดยอดวายร้ายที่เป็นอัจฉริยะทางการทำลาย

แต่คดีนี้มันจบลงไปแล้ว...พร้อมกับการปิดปากของทุกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมีบางอย่างก่อกวนใจเขาจากผลสรุปของเรื่องนี้บ้าง

M ตายไปอย่างเหน็ดเหนื่อย...อ่อนล้าจากสิ่งที่เธอทำ...สิ่งที่เธอปกป้องมาทั้งชีวิต

"ชั้นทำทุกอย่างพัง...บอนด์" เธอกล่าวก่อนหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า.....จนหมดแรงหายใจ

บางทีเขาและ M อาจแก่เกินไปสำหรับโลกตอนนี้ โลกที่ศัตรูแฝงเร้นกายในซอกหลืบที่ไม่อาจแบ่งแยกประเทศ เชื้อชาติหรือเป้าหมายที่แท้จริง ยากต่อการแยกความเป็นมิตรหรือศัตรู

เขาได้รู้เมื่อพบกับศัตรูในครั้งนี้ อดีตของคนที่เป็นรุ่นพี่ที่เขาดำเนินรอยตาม

อาจไม่มีใครรู้มากนัก แต่เขาได้รู้จักราอูล ซิลวามาก่อนบ้างผ่านการบอกเล่า เปรียบเทียบของ M นานๆครั้งและจากข้อมูลที่เขาเคยเห็นผ่านจากการล่วงล้ำเข้าไปตรวจสอบโน้ตบุคของเธอ

ชายผู้เป็นแบบอย่างที่ควรยึดถือของสายลับ ความสามารถ ความฉลาดเแลียว เฉียบขาดและบ้าระห่ำ คนที่เอ็มม่าเคยพูดถึงบ้างก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อซิลวาถูกส่งไปแลกตัวกับนักโทษหกคนจากรัฐบาลจีน

ก่อนที่เขาจะกลับมาเป็นบาปย้อนหลังที่หลอกหลอนเธอ............ไม่ใช่สิ แม้แต่เขาก็ยังได้รู้สึกเย็นเยียบทุกครั้งที่นึกถึง

"คุณรู้อะไรเกี่ยวกับความกลัวบ้าง" สาวงามคนหนึ่งเคยเอ่ยถามเขา ตอนนั้นเขากล่าวตอบอย่างเรียบนิ่ง "ทุกสิ่ง"

เธอตอบกลับมาด้วยดวงตาที่ข่มความหวาดผวาไว้

"ไม่ใช่แบบนี้................ไม่ใช่กับเขา.....มิสเตอร์บอนด์"

ก่อนที่เธอจะต้องกลายเป็นซากไร้วิญญาณด้วยน้ำมือของเขาผู้นั้น.............ชายคนเดียวกันกับผู้ที่ทำให้เขาไม่กล้าให้ปืนห่างตัวตลอดเวลา

ร่างของ ราอูล ซิลวา หายไปจากโบสถ์สกายฟอลเมื่อทีมเคลียร์พื้นที่เข้ามารับหลังจากที่เขาแจ้งกลับไปที่ MI6 ในไม่กี่ชั่วโมงถัดมา

ถ้าจะพูดให้ถูกคือว่า.....ตอนนั้นเจมส์ บอนด์ เหนื่อยล้าและเจ็บปวดจากการสูญเสีย M เกินกว่าที่จะตรวจสอบสภาพศพให้ดีว่าชีพจรหยุดเต้นหรือไม่

ซึ่งตอนนี้มันกลับกลายมาเป็นความกลัวเดียวที่เขายังไม่เข้าใจเมื่อจ้องมองความมืดที่ซ่อนอยู่ในซอกหลืบแล้วรู้สึกหวาดผวา
เขารู้สึกเย็นวาบที่รอยกระสุนเหนืออกขวา.............บริเวณที่เขายังจำสัมผัสของซิลวาได้ราวมันไม่เคยจางหาย

.............................................

"คุณครับ พอผมพูดคำหนึ่งขึ้นมา ให้คุณบอกคำแรกที่นึกขึ้นได้ในหัว"

ปืน? : เกมส์

เอเจนต์ ? : เรื่องล้าสมัย

ผู้หญิง ? : เรื่องไร้สาระ

M ? : อืมมมม์ อดีต

ฆาตกรรม ? : งานอดิเรก

นก ? : กรง

พระจันทร์ ? : เลือด

ประเทศ ? : ที่ไหนซักที่

สกายฟอล ? : จุดจบ....ไม่สิ จุดเริ่มต้น

ที่ที่ชั้นจะเริ่มภารกิจใหม่ ตามล่าหนูอีกตัวที่แย่งทุกสิ่งไปจากชั้นยังไงล่ะ//หัวเราะ

.............................................


*เกร็ดเรื่องชื่อ คำว่า Tiago จาก Tiago Rodriguez ชื่อเดิมของ Raoul Silva เป็นคำที่ใช้เรียกนามของ st . James หรือ Jacob ในภาษาสเปน
จาก Variants ของชื่อ Jacob ใน Spanish - Jacob, Jacobo, Jaime, Yago, Diego, Santiago, Iago, Tiago
จริงๆแอบคิดว่าซิลวาน่าจะเป็นคนสเปนมากกว่านะ (เพราะคำว่าRodriguezเป็นนามสกุลที่แพร่หลายในสเปน แปลว่าพลังอะไรประมาณนั้น)  เราเลยเอาไปโยงกับโบสถ์ Santiago ให้เป็นสถานที่พบรัก(?)ของซิลวากับเจ๊ M ซะเบยยยยย//ผิดส์

///////////////////////////////////////////////////////////////

จบแบ้ววววววววววววววววววววววว

ฟิกอันนี้จบแบบ.....เพ้อมากกกกก จริงๆอยากให้จบอีกแบบนึงแต่ว่าจขบ.ไร้ความสามารถในการแต่งเรต(และ SM)เลยขอจบแบบเบาๆแต่เพียงเท่านี้ย์ย์


คู่นี้เป็นคู่ที่เรามีฟีลลิ่งมวากกกกกก แต่เขียนไปเขียนมากลายเป็นซิลวากับป้า M แล้วมีคุณบอนด์ประกอบฉากห่างๆยังไงมิยู้วววววว//ทรุด


ทั้งสองหน่อเดินหล่อๆมายิงกบาลจขบ.

จะว่าไปตอนดูสกายฟอลมองความหล่อของป๋าซิลวาไม่ค่อยเห็น แต่ยิ่งเสพไปเสพมา(หลักๆใน Tumblr)ยิ่งเห็นความหล่อเท่น่าโฮกของป๋าแกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไหนจะความหล่อกร๊าวฟีโรโมนพุ่งของป๋าบอนด์อีกล่ะ ตายๆๆๆ จะกลับเรือปู่ป๋าป๋าปู่ได้มั้ยช้านนนนน

ตามด้วยแฟนอาร์ต......ฟิกไม่เรตเราเลยเอามาลงกับรูปวาดให้เรต(นิดๆ)แทนนนน


Old dog and a rat……Who Will Be Eaten?
หมาเคะกับหนูเมะ ใครจะโดนใครกินนนน//ผิดส์



///////////////////////////////////////////////////////////////

อัพเดตลิสสสสสสสสสสสสสสสสสส์
1.ป๋ากับจาร์วิสและMark01 
2.ยักษ์เขียวกะน้องเหยี่ยว
3.ตอนสั้นของTangled loop กะจะเขียนความสัมพันธ์เศร้าๆของป๋ากับปู่ที่ความจำเสื่อม
4.Civil warตอนสั้นๆซักตอน แต่เอาแบบว่าผ่านมุมมองของลูกชายสไปดี้
5.แคปซิโคล หรือ Tony/Steve/Coulsonดี ฮาาาาา
6.Bucky/Steve กับ Winter Soldier Love Song 555
7.Loki/Steve(?)
8.Steve/Clint(??)
9.JarvisXJarvis
เพิ่ม(ยังจะเพิ่ม)
10.RPS Chris Evans / Robert Downey Jr. (?)
11.ดับเบิ้ลคริส(เฮ้ยยยยย)
และ
12.ป๋าและดาร์คสตีฟ หึงโหดส์//ผิดมากกกก
13. Jarvis และ/หรือIronmanXTony
รีเควสจากเบบี๋ย์
14.nikey //กิธอร์(ธอร์เคะ?)/ทอมคริส(เฮม)/คริส โรเบิร์ต
15.SD May//ปู่กับจาร์วิส
16.water-melon//ปู่ป๋าแบบหวานๆ
17.PanamaKun//ปีเตอร์เวด ปีเตอร์เมะ เวดเคะ
และ
18.SilvaBond ไม่ก็ 00Silva? หุหุหุ
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands  SteveXTony ตามเคย

ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/