ฟิกสนองนี้ดจขบ.(อีกแล้ว)เรื่องใหม่ ดราม่าสี่เศร้าเคล้าน้ำตา(?) สี่คู่ FrostIron:TonyXLoki กะ ChrisX2:ThorXSteve ลองเขียนแบบหลายๆคู่บ้าง ลองอ่านลองด่าวิจารณ์กันนะจ๊ะ
ปอลอ NC17 เรตนิดนึงนะจ๊ะ เบบี๋ย์
Title :Tangled Loops : Prologue
Rate : NC17
Genre : Drama/Romance/sad
Pairing: Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
Vers: Avengers Movie vers.+Comic หน่อยๆ
Genre : Drama/Romance/sad
Pairing: Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
Vers: Avengers Movie vers.+Comic หน่อยๆ
Tangled Loops : Prologue
Lust//FrostIron
เสียงลมหายใจหอบพร่าดังประสานเสียงดังกระชั้นในซอกมืดลับตาผู้คน ร่างสองร่างที่เอนพิงกำแพงคอนกรีตเรียบเย็นสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ ร่างสูงแต่ผอมบางกดกรีดปลายเล็บลงบนแผ่นหลังร่างเล็กกำยำก่อนจะเอื้อนเอ่ย
"เลือดและความเจ็บปวด.................ดูเจ้าจะชื่นชอบกับสิ่งเหล่านี้สินะ สตาร์ค" แล้วแลบลิ้้นบางสัมผัสรสเลือดแดงสดที่ปลายเล็บเรียว
"ก็ประมาณนั้น ชั้นมันมาโชอยู่แล้ว นายมันก็ซาดิสต์ โลกิ"
โทนี่ สตาร์ค กระตุกมุมปากแล้วหันไปจดจ่อกับชีพจรร่างกายเบื้องล่าง ความร้อนรุ่มในร่างกายที่สอดแทรกเข้าไปในเรือนร่างเยียบเย็น ไม่ต่างอะไรกับการตีเหล็กหลอมไหลแล้วจุ่มลงในน้ำแข็ง ทำให้แข็งเกร็ง และคุ้มคลั่ง
ริมฝีปากที่แปดเปื้อนด้วยรอยเลือดจาง จุมพิตเรื่อยช้าที่แนวคางกร้าน แต่ชายหนุ่มขยับใบหน้าถอยหนี แววตาสีเขียวแวบวูบด้วยความเคืองใจ ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะแหบพร่า
"เกี่ยวข้องทางร่างกาย แต่ห้ามประทับรอยซ้ำใครงั้นหรือ มนุษย์เอ๋ย"
"ชั้นกับนาย แค่เรื่องเซ็กส์เท่านั้น" โทนี่กล่าวเสียงกระชากก่อนจะยันตัวขึ้นรุกไล่บุรุษร่้างสูง
"โอ้...............นั่นใช่ไหมความรัก............ทนุถนอมคนรักขึ้นหิ้งไว้ แล้วไปปลดปล่อยกับชายอื่นงั้นสินะ" เทพมุสากล่าววาจายั่วเย้า ทว่าไม่หยุดขยับเคลื่อนไหว
"ชั้นกับนายมันก็โสโครกพอกันล่ะ"
"ดังนั้นควรปล่อยบุรุษผมทองนั้นให้กลายเป็นของบรรณาการเทพเจ้างั้นหรือ อย่างที่ข้าเห็นว่าชายผู้นั้นยินดีที่จะยอมทำ"
"อย่าพูดถึงสตีฟแบบนั้น" บุรุษเหล็กแค่นเสียงลอดไรฟัน
แล้วกระชากผมสีดำเงาของชายร่างสูงนั้นอย่างโกรธเกรี้ยว โลกิมักกล่าวคำลวงให้หลงกล
แต่สัมผัสที่รัดรึงแน่นหนาที่เบื้องล่างยังความรัญจวนใจให้เพิ่มมากขึ้น เจ้าของวาจามุสากล่าวด้วยน้ำเสียงหวานหูแต่บาดใจ
"ใช่แล้ว.....สตาร์ค..........บุรุษหลงยุคผู้นั้นคือเทวดา.....ที่ควรอยู่กับเทพเจ้า............"
เช่นพี่ชายแห่งข้า................งั้นรึ................โลกิคิดแต่มิได้เอื้อนเอ่ยออกมา แล้วกระชับเรียวขาให้สัมผัสลึกเร้ารุนแรง
"ส่วนเจ้าและข้า.............ปิศาจไร้จิตใจ ควรลงไปสู่อเวจีด้วยกันใช่ไหม"
ก่อนที่เจ้าของเสียงหัวเราะกระเส่าไหวจะฝังรอยฟันคมลงบนผิวกายบุรุษเหล็กกล้า..........
"เลือดและความเจ็บปวด.................ดูเจ้าจะชื่นชอบกับสิ่งเหล่านี้สินะ สตาร์ค" แล้วแลบลิ้้นบางสัมผัสรสเลือดแดงสดที่ปลายเล็บเรียว
"ก็ประมาณนั้น ชั้นมันมาโชอยู่แล้ว นายมันก็ซาดิสต์ โลกิ"
โทนี่ สตาร์ค กระตุกมุมปากแล้วหันไปจดจ่อกับชีพจรร่างกายเบื้องล่าง ความร้อนรุ่มในร่างกายที่สอดแทรกเข้าไปในเรือนร่างเยียบเย็น ไม่ต่างอะไรกับการตีเหล็กหลอมไหลแล้วจุ่มลงในน้ำแข็ง ทำให้แข็งเกร็ง และคุ้มคลั่ง
ริมฝีปากที่แปดเปื้อนด้วยรอยเลือดจาง จุมพิตเรื่อยช้าที่แนวคางกร้าน แต่ชายหนุ่มขยับใบหน้าถอยหนี แววตาสีเขียวแวบวูบด้วยความเคืองใจ ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะแหบพร่า
"เกี่ยวข้องทางร่างกาย แต่ห้ามประทับรอยซ้ำใครงั้นหรือ มนุษย์เอ๋ย"
"ชั้นกับนาย แค่เรื่องเซ็กส์เท่านั้น" โทนี่กล่าวเสียงกระชากก่อนจะยันตัวขึ้นรุกไล่บุรุษร่้างสูง
"โอ้...............นั่นใช่ไหมความรัก............ทนุถนอมคนรักขึ้นหิ้งไว้ แล้วไปปลดปล่อยกับชายอื่นงั้นสินะ" เทพมุสากล่าววาจายั่วเย้า ทว่าไม่หยุดขยับเคลื่อนไหว
"ชั้นกับนายมันก็โสโครกพอกันล่ะ"
"ดังนั้นควรปล่อยบุรุษผมทองนั้นให้กลายเป็นของบรรณาการเทพเจ้างั้นหรือ อย่างที่ข้าเห็นว่าชายผู้นั้นยินดีที่จะยอมทำ"
"อย่าพูดถึงสตีฟแบบนั้น" บุรุษเหล็กแค่นเสียงลอดไรฟัน
แล้วกระชากผมสีดำเงาของชายร่างสูงนั้นอย่างโกรธเกรี้ยว โลกิมักกล่าวคำลวงให้หลงกล
แต่สัมผัสที่รัดรึงแน่นหนาที่เบื้องล่างยังความรัญจวนใจให้เพิ่มมากขึ้น เจ้าของวาจามุสากล่าวด้วยน้ำเสียงหวานหูแต่บาดใจ
"ใช่แล้ว.....สตาร์ค..........บุรุษหลงยุคผู้นั้นคือเทวดา.....ที่ควรอยู่กับเทพเจ้า............"
เช่นพี่ชายแห่งข้า................งั้นรึ................โลกิคิดแต่มิได้เอื้อนเอ่ยออกมา แล้วกระชับเรียวขาให้สัมผัสลึกเร้ารุนแรง
"ส่วนเจ้าและข้า.............ปิศาจไร้จิตใจ ควรลงไปสู่อเวจีด้วยกันใช่ไหม"
ก่อนที่เจ้าของเสียงหัวเราะกระเส่าไหวจะฝังรอยฟันคมลงบนผิวกายบุรุษเหล็กกล้า..........
Love//Stony
บ่อยครั้งที่มันสมองอัจฉริยะของโทนี่มักจะคิดอะไรมากมายวุ่นวายเรื่อยเปื่อย หรือหมกมุ่น หรือจดจ่อกับอะไรบางอย่าง อาจจะเป็น เครื่องยนต์กลไก สูตรเลขคณิตอัลกอริทึม วิทยาศาสตร์ แต่บางทีก็เป็นเรื่องตัณหา กามารมณ์
เขาไม่ค่อยเชื่อกับอะไรที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ (แม้จะมาเจอเทพตัวเป็นๆสองคนต่อหน้าก็ตาม) แล้วในเรื่องความรัก หัวใจ อะไรเทือกๆนั้นยิ่งแล้วใหญ่
คนเราถูกควบคุมด้วยสมอง ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ที่สมองสั่งการ จะความรักความใคร่อะไรนั่นมันก็เป็นผลมาจากสมองทั้งนั้นแหละ เขาจึงไม่เชื่อว่า"หัวใจ"เป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกายที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือด
ไม่เลย จนกระทั่งพิสูจน์ได้จากคทาของโลกิ โลฟีย์ซันนั่นล่ะ
ว่าเขาไม่มีหัวใจ
แต่................แล้วความสั่นไหวจนเจ็บอกเมื่อเขาได้พบกับชายคนนั้นล่ะ
ชายเจ้าของแววตาสีฟ้าบริสุทธิ์เหมือนหยาดน้ำค้าง เรือนผมสีทองสว่างใส งดงามราวกับว่าไม่ใช่วัตถุของโลกนี้
สตีฟ โรเจอร์ ที่ดูราวกับว่าเป็นเทพยดาที่หลงทางมามากกว่า
บริสุทธิ์เกินไปสำหรับโลกนี้ ดีเกินไปสำหรับมนุษย์ชั่วช้า และ เปราะบางเกินไปสำหรับการสูญเสีย..........
"โทนี่......." ใบหน้าใสผุดยิ้มจางก่อนกล่าวคำทักทาย
เจ้าของเสียงที่ทำให้โทนี่หวั่นไหวดังมาจากเบื้องหลัง เขาสงบสติอารมณ์ก่อนหันไปทักทายด้วยวาจาเรียบเฉย
"สวัสดีตอนเช้า คุณกัปตันอเมริกา สหายตัวใหญ่ไปไหนแล้วล่ะ"พร้อมยิ้มเย็นชาให้กับสตีฟที่มองมาด้วยแววตาห่วงหา
"ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วชั้นขอตัว ต้องกลับแล็ปไปทำงาน" ร่างเล็กเดินผละหนี ก่อนจะถูกคว้ามือไว้ด้วยชายร่างสูง แต่ก็ถูกสะบัดทิ้งอย่างไม่ใยดี
เสียงมือที่ถูกปัดทิ้งไม่ดังนัก แต่คงกรีดบาดเข้าไปในใจ ความเงียบงันที่ปวดช้ำคั่นกลางระหว่่างกายชายทั้งคู่
"สตีฟ โรเจอร์ เรื่องระหว่างเราถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น" โทนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"แต่............." สตีฟเสียงเปร่งปร่าด้วยความไม่เข้าใจ
"ชั้นไม่น่าทำให้นายตื่นขึ้นมาเลย" บุรุษเหล็กทิ้งวาจาบาดใจก่อนหันหลังให้ ปล่อยเจ้าของแววตาสีฟ้าใสมองตามไปอย่างปวดร้าว
ใช่........ไม่ควรให้นายตื่นขึ้นมาพบความจริง ว่าโลกนี้มันโหดร้ายกินไป นายควรหลับไหลในนิทรา ไม่ควรลืมตาขึ้นมา เราไม่ควรจะได้พบหน้า.............ไม่ควรพบเพื่อสูญเสีย
ลาก่อน สตีฟ โรเจอร์
บ่อยครั้งที่มันสมองอัจฉริยะของโทนี่มักจะคิดอะไรมากมายวุ่นวายเรื่อยเปื่อย หรือหมกมุ่น หรือจดจ่อกับอะไรบางอย่าง อาจจะเป็น เครื่องยนต์กลไก สูตรเลขคณิตอัลกอริทึม วิทยาศาสตร์ แต่บางทีก็เป็นเรื่องตัณหา กามารมณ์
เขาไม่ค่อยเชื่อกับอะไรที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ (แม้จะมาเจอเทพตัวเป็นๆสองคนต่อหน้าก็ตาม) แล้วในเรื่องความรัก หัวใจ อะไรเทือกๆนั้นยิ่งแล้วใหญ่
คนเราถูกควบคุมด้วยสมอง ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ที่สมองสั่งการ จะความรักความใคร่อะไรนั่นมันก็เป็นผลมาจากสมองทั้งนั้นแหละ เขาจึงไม่เชื่อว่า"หัวใจ"เป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกายที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือด
ไม่เลย จนกระทั่งพิสูจน์ได้จากคทาของโลกิ โลฟีย์ซันนั่นล่ะ
ว่าเขาไม่มีหัวใจ
แต่................แล้วความสั่นไหวจนเจ็บอกเมื่อเขาได้พบกับชายคนนั้นล่ะ
ชายเจ้าของแววตาสีฟ้าบริสุทธิ์เหมือนหยาดน้ำค้าง เรือนผมสีทองสว่างใส งดงามราวกับว่าไม่ใช่วัตถุของโลกนี้
สตีฟ โรเจอร์ ที่ดูราวกับว่าเป็นเทพยดาที่หลงทางมามากกว่า
บริสุทธิ์เกินไปสำหรับโลกนี้ ดีเกินไปสำหรับมนุษย์ชั่วช้า และ เปราะบางเกินไปสำหรับการสูญเสีย..........
"โทนี่......." ใบหน้าใสผุดยิ้มจางก่อนกล่าวคำทักทาย
เจ้าของเสียงที่ทำให้โทนี่หวั่นไหวดังมาจากเบื้องหลัง เขาสงบสติอารมณ์ก่อนหันไปทักทายด้วยวาจาเรียบเฉย
"สวัสดีตอนเช้า คุณกัปตันอเมริกา สหายตัวใหญ่ไปไหนแล้วล่ะ"พร้อมยิ้มเย็นชาให้กับสตีฟที่มองมาด้วยแววตาห่วงหา
"ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วชั้นขอตัว ต้องกลับแล็ปไปทำงาน" ร่างเล็กเดินผละหนี ก่อนจะถูกคว้ามือไว้ด้วยชายร่างสูง แต่ก็ถูกสะบัดทิ้งอย่างไม่ใยดี
เสียงมือที่ถูกปัดทิ้งไม่ดังนัก แต่คงกรีดบาดเข้าไปในใจ ความเงียบงันที่ปวดช้ำคั่นกลางระหว่่างกายชายทั้งคู่
"สตีฟ โรเจอร์ เรื่องระหว่างเราถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น" โทนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"แต่............." สตีฟเสียงเปร่งปร่าด้วยความไม่เข้าใจ
"ชั้นไม่น่าทำให้นายตื่นขึ้นมาเลย" บุรุษเหล็กทิ้งวาจาบาดใจก่อนหันหลังให้ ปล่อยเจ้าของแววตาสีฟ้าใสมองตามไปอย่างปวดร้าว
ใช่........ไม่ควรให้นายตื่นขึ้นมาพบความจริง ว่าโลกนี้มันโหดร้ายกินไป นายควรหลับไหลในนิทรา ไม่ควรลืมตาขึ้นมา เราไม่ควรจะได้พบหน้า.............ไม่ควรพบเพื่อสูญเสีย
ลาก่อน สตีฟ โรเจอร์
Lost//Thor/Steve
ชายร่างใหญ่สอดส่ายสายตาไปทั่วสวนสังเคราะห์บนดาดฟ้าของสตาร์คทาวเวอร์มองหาชายหนุ่มผมทอง ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ชายร่างสูงที่นั่งสงบอยู่บนม้านั่งใต้ร่มไม้
มือหนาใหญ่เอื้อมมือไปแตะบ่าชายหนุ่มเบื้องหน้า แววตาสีฟ้าครามใสหันมาหาเขาอย่างงงงวย ก่อนที่จะเสมองไปทางอื่นเพื่อซ่อนดวงตาที่มีร่องรอยแดงช้ำบางๆนั้น
เขากัดฟันกรอด ดวงตาสีฟ้าเข้มกร้าวฉายแววเดือดดาลขึ้นชั่ววูบก่อนจะผ่อนลมหายใจยาวแล้วทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง สตีฟ โรเจอร์ กัปตันอเมริกา
โดยมิได้เอื้อยเอ่ยสิ่งใด ปล่อยให้ห้วงเวลาดำเนินผ่านไป.......นานจนกระทั่ง ธอร์ โอดีนซัน อดทนต่อความเงียบงันนี้ไม่ไหว เสียงทุ้มต่ำก็แทรกทำลายช่องว่างของบรรยากาส
"สหาย ข้าตามหาเจ้าซะทั่ว" ชายหนุ่มผมยาวเหลือบมองชายร่างสูงอยู่ข้างตัว มนุษย์ผู้มีตาสีฟ้าผมสีทองดูงดงามราวเทพยดา และเป็นเพื่อนรักร่วมรบอันกล้าวแกร่งไม่แพ้ชาวแอสการ์ดเช่นเดียวกันกับเขา
กัปตันอเมริกาผู้แข็งแกร่งที่ตอนนี้ดูช่างอ่อนแอและบอบบางเสียเหลือเกิน
สตีฟยิ้มบางแล้วหันมาพูดคุยกับเพื่อนรัก หลังจากที่คิดว่าตัวเองซ่อนร่องรอยความปวดร้าวไว้ได้มิดแล้ว
"อ้า ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ ผมออกมาเงียบๆไม่ได้บอกใคร แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไงล่ะ"
"สตาร์คบอกว่าเจ้าอยู่ที่นี่..........." ธอร์พูดด้วยเสียงรอดไรฟันอย่างกราดเกรี้ยว
ชายหนุ่มตาสีอะซูไรต์แววตาหม่นวูบลงชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวเสียงเบาบางแฝงแววขมขื่น "โทนี่........คุณสตาร์คว่าอย่างนั้นเหรอ"
บุตรแห่งโอดีนเอื้อมวงแขนใหญ่หนาโอบไหล่คนข้างตัว ร่างสูงซบใบหน้าลงกับไหล่กว้างนั้นอย่างเหนื่อยอ่อน
"ขอบคุณนะ ธอร์" เสียงนุ่มที่แสร้งทำให้ดูสดใสแล้วยิ้มเจื่อนๆให้กับเพื่อนรัก
แม้สตีฟจะไม่บ่งบอกว่าขอบคุณในเรื่องใด ....... แต่ธอร์ก็รับรู้ได้..........รับรู้ และรู้สึกผิดไปด้วยกับสิ่งที่เขารับรู้.........แต่ปิดบังไว้จากเพื่อนสนิทของเขา
ดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองลึกลงไปในดวงตาสีฟ้าคราม แววตาปวดร้าวจนปิดไม่มิดนั้นหรุบลงต่ำ ก่อนที่หยดน้ำใสจะร่วงหล่นจากขอบตา
เขากอดกระชับร่างสูงนั้นเข้ามาในวงกอด มือหนาปาดไล่คราบน้ำตาที่เกาะอยู่บนแผงขนตาสีบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าใสกระพริบปริบปรับยังผลให้หยดน้ำเม็ดโตๆร่วงหล่น
ธอร์จรดริมฝีปากกับปลายขนตาซึมซับความปวดร้าวนั้นไว้ ก่อนจะเลื่อนไล่ไปสู่ริมฝีปากนุ่มอิ่มที่ชุ่มไปด้วยน้ำตา
ก่อนที่ชายหนุ่มในวงแขนจะหยุดกั้นตัวเอง สตีฟนิ่งค้างก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาชายร่างใหญ่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น
"ไม่ใช่ผม.................แล้วก็ไม่ใช่คุณ"
"เราทั้งสองต่างก็ไม่ใช่คนที่เรารักจริงๆไม่ใช่เหรอ"
แววตาสีฟ้าทั้งสองคู่ฉายแววเจ็บปวดไม่แพ้กัน ร่างเล็กกว่าซุกใบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของสหายรักอย่างเงียบงัน
เทพสายฟ้าโอบกอดไหล่ของอีกฝ่ายที่สั่นไหวไว้แน่น ก่อนที่ดวงตาของชายร่างใหญ่นั้นจะฉายแววเคียดแค้น
ชายร่างใหญ่สอดส่ายสายตาไปทั่วสวนสังเคราะห์บนดาดฟ้าของสตาร์คทาวเวอร์มองหาชายหนุ่มผมทอง ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ชายร่างสูงที่นั่งสงบอยู่บนม้านั่งใต้ร่มไม้
มือหนาใหญ่เอื้อมมือไปแตะบ่าชายหนุ่มเบื้องหน้า แววตาสีฟ้าครามใสหันมาหาเขาอย่างงงงวย ก่อนที่จะเสมองไปทางอื่นเพื่อซ่อนดวงตาที่มีร่องรอยแดงช้ำบางๆนั้น
เขากัดฟันกรอด ดวงตาสีฟ้าเข้มกร้าวฉายแววเดือดดาลขึ้นชั่ววูบก่อนจะผ่อนลมหายใจยาวแล้วทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง สตีฟ โรเจอร์ กัปตันอเมริกา
โดยมิได้เอื้อยเอ่ยสิ่งใด ปล่อยให้ห้วงเวลาดำเนินผ่านไป.......นานจนกระทั่ง ธอร์ โอดีนซัน อดทนต่อความเงียบงันนี้ไม่ไหว เสียงทุ้มต่ำก็แทรกทำลายช่องว่างของบรรยากาส
"สหาย ข้าตามหาเจ้าซะทั่ว" ชายหนุ่มผมยาวเหลือบมองชายร่างสูงอยู่ข้างตัว มนุษย์ผู้มีตาสีฟ้าผมสีทองดูงดงามราวเทพยดา และเป็นเพื่อนรักร่วมรบอันกล้าวแกร่งไม่แพ้ชาวแอสการ์ดเช่นเดียวกันกับเขา
กัปตันอเมริกาผู้แข็งแกร่งที่ตอนนี้ดูช่างอ่อนแอและบอบบางเสียเหลือเกิน
สตีฟยิ้มบางแล้วหันมาพูดคุยกับเพื่อนรัก หลังจากที่คิดว่าตัวเองซ่อนร่องรอยความปวดร้าวไว้ได้มิดแล้ว
"อ้า ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ ผมออกมาเงียบๆไม่ได้บอกใคร แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไงล่ะ"
"สตาร์คบอกว่าเจ้าอยู่ที่นี่..........." ธอร์พูดด้วยเสียงรอดไรฟันอย่างกราดเกรี้ยว
ชายหนุ่มตาสีอะซูไรต์แววตาหม่นวูบลงชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวเสียงเบาบางแฝงแววขมขื่น "โทนี่........คุณสตาร์คว่าอย่างนั้นเหรอ"
บุตรแห่งโอดีนเอื้อมวงแขนใหญ่หนาโอบไหล่คนข้างตัว ร่างสูงซบใบหน้าลงกับไหล่กว้างนั้นอย่างเหนื่อยอ่อน
"ขอบคุณนะ ธอร์" เสียงนุ่มที่แสร้งทำให้ดูสดใสแล้วยิ้มเจื่อนๆให้กับเพื่อนรัก
แม้สตีฟจะไม่บ่งบอกว่าขอบคุณในเรื่องใด ....... แต่ธอร์ก็รับรู้ได้..........รับรู้ และรู้สึกผิดไปด้วยกับสิ่งที่เขารับรู้.........แต่ปิดบังไว้จากเพื่อนสนิทของเขา
ดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองลึกลงไปในดวงตาสีฟ้าคราม แววตาปวดร้าวจนปิดไม่มิดนั้นหรุบลงต่ำ ก่อนที่หยดน้ำใสจะร่วงหล่นจากขอบตา
เขากอดกระชับร่างสูงนั้นเข้ามาในวงกอด มือหนาปาดไล่คราบน้ำตาที่เกาะอยู่บนแผงขนตาสีบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าใสกระพริบปริบปรับยังผลให้หยดน้ำเม็ดโตๆร่วงหล่น
ธอร์จรดริมฝีปากกับปลายขนตาซึมซับความปวดร้าวนั้นไว้ ก่อนจะเลื่อนไล่ไปสู่ริมฝีปากนุ่มอิ่มที่ชุ่มไปด้วยน้ำตา
ก่อนที่ชายหนุ่มในวงแขนจะหยุดกั้นตัวเอง สตีฟนิ่งค้างก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาชายร่างใหญ่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น
"ไม่ใช่ผม.................แล้วก็ไม่ใช่คุณ"
"เราทั้งสองต่างก็ไม่ใช่คนที่เรารักจริงๆไม่ใช่เหรอ"
แววตาสีฟ้าทั้งสองคู่ฉายแววเจ็บปวดไม่แพ้กัน ร่างเล็กกว่าซุกใบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของสหายรักอย่างเงียบงัน
เทพสายฟ้าโอบกอดไหล่ของอีกฝ่ายที่สั่นไหวไว้แน่น ก่อนที่ดวงตาของชายร่างใหญ่นั้นจะฉายแววเคียดแค้น
Lodged//Thorki
ความเคียดแค้นคือความสัมพันธ์ที่มีระหว่างเราทั้งสอง
ทั้งที่เราเคยรักใคร่กลมเกลียวราวกับเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน.........ไม่สิ เราเคยเป็นพี่น้องกันเลยทีเดียว หากมิใช่ว่าเจ้าได้ทำลายมันลงสิ้น
และความเคียดแค้นนั้น มิได้จบลงแค่ที่ตัวข้า แต่กลับแพร่กระจาย ทำร้าย ทำลายบุคคลรอบตัวข้า แม้กระทั่งสหายรักที่สุดของข้าไปด้วย
แล้วห้วงคำนึงของ ธอร์ โอดีนซัน เทพสายฟ้าแห่งแอสการ์ด ก็ได้ถูกฉีกให้ขาดออกด้วยสัมผัสได้ถึงสายตาเยียบเย็นที่จับจ้องอยู่เบื้องหลัง
เจ้าของแววตาสีเขียวเยื้องกรายออกมาจากมุมมืดที่แฝงตัวอยู่ ขยับปากบางยิ้มยั่วเย้าใส่ชายเบื้องหน้าที่จ้องมองด้วยแววตาวาวโรจน์
"ท่านพี่...........ไม่สิ ว่าที่ราชาแห่งแอสการ์ด ข้ารับใช้ข้างกายล่ะหายไปไหนหรือ" เสียงหวานนุ่มทำนองไพเราะราวกับร่ายมนต์ แต่เนื้อหาทำให้ชายร่างใหญ่ขบฟันด้วยความเคียดแค้น
"โลกิ เจ้าทำไปเพื่อสิ่งใด"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงข่มกลั้น ถามหาเหตุผลของการกระทำย่ำยีความสัมพันธ์รอบข้างของโลกิ หากแต่ว่าชายร่างบางก็มอบให้เพียงรอยยิ้มเย้ยและเสียงหัวเราะยั่วหยัน
ฉับพลัน ความอดทนของบุตรแห่งโอดีนก็ถึงที่สุด เขาคว้าคอโลกิ โลฟีย์ซันกระแทกเข้ากับกำแพงหนา มือใหญ่กร้านจับบังคับให้ร่างบางเบื้องหน้าเงยขึ้นมาสบตาที่เต็มไปด้วยแรงโทสะ
"โกรธแค้นข้า ก็ทำร้ายแค่ข้าเพียงคนเดียว อย่าได้บังอาจเงื้อมือโสโครกของเจ้าไปหาสหายรักข้าเป็นอันขาด"ธอร์แผดเสียงกร้าว
เหมือนเขาจะไม่ทันได้สังเกตความเจ็บช้ำในแววตาที่วูบไหว แล้วเจ้าของผมสีดำสลวยก็จ้องตอบกลับอย่างท้าทาย ก่อนจะร่ายคำลวง
"ข้าเกลียดท่าน ธอร์ โอดีนซัน ข้าจะทำลายทุกสิ่งของท่าน ทุกของรักของท่าน ทุกคนรอบตัวของท่าน"
ตาสีเขียวสบแววตาสีฟ้าเข้มกร้าวที่สั่นไหว น้องชายแสนรักของธอร์ โอดีนซันได้ตายไปแล้ว ตรงนี้มีเพียงร่างของเทพมุสาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเท่านั้น
"เมื่อทุกอย่างรอบกายท่านถูกทำลายสิ้น และท่านไม่เหลือแม้สิ่งใด ข้าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่อยู่เคียงข้างท่าน......................."
โลกิเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ใช้ริมฝีปากบางสัมผัสที่ข้างใบหูของเทพสายฟ้า ก่อนจะกระซิบเสียงหวานแผ่ว
"แล้วทอดทิ้งท่าน อย่างโหดร้ายเลือดเย็นที่สุด"
ความเคียดแค้นคือความสัมพันธ์ที่มีระหว่างเราทั้งสอง
ทั้งที่เราเคยรักใคร่กลมเกลียวราวกับเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน.........ไม่สิ เราเคยเป็นพี่น้องกันเลยทีเดียว หากมิใช่ว่าเจ้าได้ทำลายมันลงสิ้น
และความเคียดแค้นนั้น มิได้จบลงแค่ที่ตัวข้า แต่กลับแพร่กระจาย ทำร้าย ทำลายบุคคลรอบตัวข้า แม้กระทั่งสหายรักที่สุดของข้าไปด้วย
แล้วห้วงคำนึงของ ธอร์ โอดีนซัน เทพสายฟ้าแห่งแอสการ์ด ก็ได้ถูกฉีกให้ขาดออกด้วยสัมผัสได้ถึงสายตาเยียบเย็นที่จับจ้องอยู่เบื้องหลัง
เจ้าของแววตาสีเขียวเยื้องกรายออกมาจากมุมมืดที่แฝงตัวอยู่ ขยับปากบางยิ้มยั่วเย้าใส่ชายเบื้องหน้าที่จ้องมองด้วยแววตาวาวโรจน์
"ท่านพี่...........ไม่สิ ว่าที่ราชาแห่งแอสการ์ด ข้ารับใช้ข้างกายล่ะหายไปไหนหรือ" เสียงหวานนุ่มทำนองไพเราะราวกับร่ายมนต์ แต่เนื้อหาทำให้ชายร่างใหญ่ขบฟันด้วยความเคียดแค้น
"โลกิ เจ้าทำไปเพื่อสิ่งใด"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงข่มกลั้น ถามหาเหตุผลของการกระทำย่ำยีความสัมพันธ์รอบข้างของโลกิ หากแต่ว่าชายร่างบางก็มอบให้เพียงรอยยิ้มเย้ยและเสียงหัวเราะยั่วหยัน
ฉับพลัน ความอดทนของบุตรแห่งโอดีนก็ถึงที่สุด เขาคว้าคอโลกิ โลฟีย์ซันกระแทกเข้ากับกำแพงหนา มือใหญ่กร้านจับบังคับให้ร่างบางเบื้องหน้าเงยขึ้นมาสบตาที่เต็มไปด้วยแรงโทสะ
"โกรธแค้นข้า ก็ทำร้ายแค่ข้าเพียงคนเดียว อย่าได้บังอาจเงื้อมือโสโครกของเจ้าไปหาสหายรักข้าเป็นอันขาด"ธอร์แผดเสียงกร้าว
เหมือนเขาจะไม่ทันได้สังเกตความเจ็บช้ำในแววตาที่วูบไหว แล้วเจ้าของผมสีดำสลวยก็จ้องตอบกลับอย่างท้าทาย ก่อนจะร่ายคำลวง
"ข้าเกลียดท่าน ธอร์ โอดีนซัน ข้าจะทำลายทุกสิ่งของท่าน ทุกของรักของท่าน ทุกคนรอบตัวของท่าน"
ตาสีเขียวสบแววตาสีฟ้าเข้มกร้าวที่สั่นไหว น้องชายแสนรักของธอร์ โอดีนซันได้ตายไปแล้ว ตรงนี้มีเพียงร่างของเทพมุสาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเท่านั้น
"เมื่อทุกอย่างรอบกายท่านถูกทำลายสิ้น และท่านไม่เหลือแม้สิ่งใด ข้าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่อยู่เคียงข้างท่าน......................."
โลกิเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ใช้ริมฝีปากบางสัมผัสที่ข้างใบหูของเทพสายฟ้า ก่อนจะกระซิบเสียงหวานแผ่ว
"แล้วทอดทิ้งท่าน อย่างโหดร้ายเลือดเย็นที่สุด"
///////////////////////////////////////////////////////////////
แอร่ก บทเริ่มยังยาวขนาดนี้ บทจริงจะยาวขนาดไหน
ดราม่าขนาดนี้จะมีคนอ่านมั้ยเนี่ย 555
ป๋า//คงไม่
me//ใจร้ายยยยยย TAT
ปอลอ ทำไมไอ้คู่แรกมันหื่นขนาดน๊านนนน ดูแนวหญิงร้ายชายเลว//โดนแม่ยกป๋ากับโลกิตื้บ
ปอลอ 2 พี่ท้อเขียนยากจัง oTL
ปอลอ 3 คาดว่าน่าจะเป็น............นี่ตีฟ //ธงตีฟนี่ล้มครืน oTL
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands SteveXTony ตามเคย
ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/
อ่านแล้วเครียดพอๆกับ civil war เลยยยยย T T
ตอบลบแต่ชอบที่เอาหลายๆคู่มาเชื่อมกันค่ะ ยิ่งคู่ โลกิกับโทนี่ นี่ปริ่มเลยค่ะ นานๆเราจะเจอคู่นี้ที แต่อ่านทีไรแล้วช๊อบชอบบบ ขอบคุณมากๆค่าที่แต่งแนวนี้มาให้อ่าน XD
//จริงๆแล้วแอบซุ่มอ่านมาหลายตอนพอสมควร แต่ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ เย้! ^w^