ขอคั่นความหื่นฮาของซีรีย์ฟิค หนุ่มเวอร์จิ้นวุ่นวายกับนายเพลย์บอยไว้ซักนิดดดด
เท้าความก่อน
จริงๆก่อนที่จขบ.จะมาเขียนฟิกขำขันอันนั้น
หลังจากที่ดูอเวนเจอร์แล้วพีคมากๆ จิ้นสุดๆ เลยลามปามถึงขนาดไปหาคอมิคต้นฉบับมาร์เวลมาอ่านเป็นวรรคเป็นเวร 555 แล้วก็มีซีรีย์นึงที่แบบว่า......อ่านแล้วมันไม่จิ้นไม่ได้แล้วววววว
Civil War มันคือการทะเลาะกันของสามีภรรยาการขัดแย้งกันของสองฮีโร่ คือกัปตันอเมริกาและไอรอนแมน ถึงขนาดต้องตามล้างตามล่าฆ่าฟันกันเลยทีเดียว มันดราม่ามวากกก มันโดนใจมากกกก คิดว่าอยากจะเขียนแนวเครียดๆบ้างมานานแล้วเลยต้องขอซักหน่อย
ไปอ่านสปอยล์ Civil War กันก่อนได้นะ เพื่อความเข้าใจลึกซึ้งในฟีลลลลลล
ถือว่าเอาไว้เปลี่ยนรสชาติกับฟิกหื่นฮาของจขบ.นะ 555
Title : Whose side are you on?
Rate : PG
Genre : Drama
Pairing: Steve/Tony
Vers: Base on Civil War: Marvel
Whose side are you on?
Red
สีแดง...............รงควัตถุแสงสีที่มีความยาวคลื่นสูงที่สุดในหมู่แสงทั้งหลาย และเป็นสีที่ดูเจิดจ้าเตะตาเหนือสีอื่นๆด้วยเช่นกัน สีที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ ความเร็ว แรง ร้าย อันตราย
สีแดง...............รงควัตถุแสงสีที่มีความยาวคลื่นสูงที่สุดในหมู่แสงทั้งหลาย และเป็นสีที่ดูเจิดจ้าเตะตาเหนือสีอื่นๆด้วยเช่นกัน สีที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ ความเร็ว แรง ร้าย อันตราย
สีที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดเนื้อ สีที่แสดงถึงพลัง ความมีชีวิต
ผมไม่ได้ชอบสีแดงอะไรมากมายขนาดนั้น แต่เมื่อกวาดสายตาไปก็จะพบวัตถุที่ส่งแสงสีนั้นออกมารอบกายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรถ เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และแม้แต่ ชุดเกราะเหล็กของผม เหมือนจิตใต้สำนึกร้องเรียกให้ผมเลือกมันอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่า ผมต้องการพลังแห่งชีวิต ความอบอุ่นเจิดจ้า และการดึงดูดความสนใจจากสีแดงนั้นเพื่อมาเติมเต็มให้กับชีวิตที่ไร้พลังของผม
ผม.........บุคคลที่ถ้านำคำว่า โทนี่ สตาร์ค และไอรอนแมนออกไป ก็จะกลายเป็นเพียงร่างที่สูญเสียหัวใจและต้องพึ่งพาชีวิตไว้กับเครื่องกล เครื่องปฏิกรณ์อาร์คที่คล้ายกับจะถ่ายทอดความไร้ชีวิตจิตใจมาสู่ตัวผม
การได้ซ่อนตัวอยู่ภายใต้เปลือกเกราะโลหะสีแดงสดนั้นทำให้ผมอุ่นใจ และรู้สึกถึงความมีชีวิต
จนบางทีผมก็แยกไม่ออกว่าตัวผมแท้จริงแล้ว อยู่ที่ตัวผมจริงๆ หรืออยู่ที่ชุดเกราะสีแดงสดนั้นกันแน่
ผมไม่ได้ชอบสีแดงอะไรมากมายขนาดนั้น แต่เมื่อกวาดสายตาไปก็จะพบวัตถุที่ส่งแสงสีนั้นออกมารอบกายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรถ เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และแม้แต่ ชุดเกราะเหล็กของผม เหมือนจิตใต้สำนึกร้องเรียกให้ผมเลือกมันอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่า ผมต้องการพลังแห่งชีวิต ความอบอุ่นเจิดจ้า และการดึงดูดความสนใจจากสีแดงนั้นเพื่อมาเติมเต็มให้กับชีวิตที่ไร้พลังของผม
ผม.........บุคคลที่ถ้านำคำว่า โทนี่ สตาร์ค และไอรอนแมนออกไป ก็จะกลายเป็นเพียงร่างที่สูญเสียหัวใจและต้องพึ่งพาชีวิตไว้กับเครื่องกล เครื่องปฏิกรณ์อาร์คที่คล้ายกับจะถ่ายทอดความไร้ชีวิตจิตใจมาสู่ตัวผม
การได้ซ่อนตัวอยู่ภายใต้เปลือกเกราะโลหะสีแดงสดนั้นทำให้ผมอุ่นใจ และรู้สึกถึงความมีชีวิต
จนบางทีผมก็แยกไม่ออกว่าตัวผมแท้จริงแล้ว อยู่ที่ตัวผมจริงๆ หรืออยู่ที่ชุดเกราะสีแดงสดนั้นกันแน่
Blue
สีน้ำเงิน...............หนึ่งในสามสีหลักของแม่สีขั้นต้น สีที่เป็นจุดเริ่มของสีสันมากมายนับล้านบนโลกนี้ สีของผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ ที่ใครๆก็มองว่ามันคือสีที่สุขุมเยือกเย็น หนักแน่นและกว้างใหญ่
แต่สำหรับผมตอนนี้มันเป็นสีที่ดูไร้ชีวิตอย่างน่าประหลาด สีน้ำเงินที่เหมือนกับสีของน้ำแข็งเย็นเยือกที่แสนเย็นชา สีของทะเลที่เหน็บหนาวอ้างว้างไร้จุดจบ สีของห้วงอากาศที่ว่างเปล่า....เคว้งคว้างจนต้องกอดตัวเองไว้เพื่อให้แน่ใจว่าตัวผมเองยังอยู่ตรงนี้
สีที่ผูกมัดผม สีของภาระหนักหนาที่ผมต้องแบกรับ สีแห่งตัวตนที่ล่ามตรวนผมไว้กับการเป็น...........กัปตันอเมริกา
เราทั้งสองเข้าสู่การเผชิญหน้าภายใต้เครื่องแบบของตัวเอง เคลือบสีสรรค์ที่ไม่รู้ว่าคือตัวตนของตัวเองจริงๆหรือไม่ หรือถูกใครปลุกปั่นปั้นแต่งขึ้นมากันแน่..............
สีน้ำเงิน...............หนึ่งในสามสีหลักของแม่สีขั้นต้น สีที่เป็นจุดเริ่มของสีสันมากมายนับล้านบนโลกนี้ สีของผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ ที่ใครๆก็มองว่ามันคือสีที่สุขุมเยือกเย็น หนักแน่นและกว้างใหญ่
แต่สำหรับผมตอนนี้มันเป็นสีที่ดูไร้ชีวิตอย่างน่าประหลาด สีน้ำเงินที่เหมือนกับสีของน้ำแข็งเย็นเยือกที่แสนเย็นชา สีของทะเลที่เหน็บหนาวอ้างว้างไร้จุดจบ สีของห้วงอากาศที่ว่างเปล่า....เคว้งคว้างจนต้องกอดตัวเองไว้เพื่อให้แน่ใจว่าตัวผมเองยังอยู่ตรงนี้
สีที่ผูกมัดผม สีของภาระหนักหนาที่ผมต้องแบกรับ สีแห่งตัวตนที่ล่ามตรวนผมไว้กับการเป็น...........กัปตันอเมริกา
เราทั้งสองเข้าสู่การเผชิญหน้าภายใต้เครื่องแบบของตัวเอง เคลือบสีสรรค์ที่ไม่รู้ว่าคือตัวตนของตัวเองจริงๆหรือไม่ หรือถูกใครปลุกปั่นปั้นแต่งขึ้นมากันแน่..............
สีแดงของผม
สีน้ำเงินของผม
ด้วยเกราะของผม
ด้วยโล่ของผม
เพื่อกฏเกณฑ์ของผม
เพื่อเพื่อนพ้องของผม
เหตุผลที่ในตอนนี้คงไร้ความหมาย
เราต่อสู้กันเพื่ออะไร เพื่อใคร
เราต้องการจะห้ำหั่นประหัติประหารกันเองหรือไม่
ในเมื่อถอดเปลือกนอกของสีสรรค์เหล่านั้นออกแล้ว เราสองคนก็คือวิญญาณดวงเดียวกัน
.
เราต่อสู้กันเพื่ออะไร เพื่อใคร
เราต้องการจะห้ำหั่นประหัติประหารกันเองหรือไม่
ในเมื่อถอดเปลือกนอกของสีสรรค์เหล่านั้นออกแล้ว เราสองคนก็คือวิญญาณดวงเดียวกัน
.
.
.
.
ผู้คนรอบกายที่ผมได้พบพาน มันเหมือนกับพายุฤดูร้อนที่หมุนกรรโชกผ่านไป.....สนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ แต่พัดผ่านไป......ไม่เคยทิ้งสิ่งใดให้จดจำ ผู้คนวนเวียนรุมล้อมมากมายแต่ใจกลางพายุกลับเป็นสุญญากาศที่ไขว่คว้าไปเจอแต่เพียงความว่างเปล่า.....กับตัวเอง และช่องว่างในหัวใจผมที่ไม่เคยได้รับการเติมเต็ม
ผมมีทุกอย่าง......แต่ก็ไม่มีอะไรเลยซักอย่างเดียว
ผมมีทุกอย่าง......แต่ก็ไม่มีอะไรเลยซักอย่างเดียว
กาลเวลาได้ไหลผ่านผมไป พาทุกสิ่งในชีวิตผมให้ล่วงเลยผ่าน............เหมือนสายน้ำที่พัดไหลผ่านร่องนิ้วมือเมื่อพยายามจะคว้าไว้ ในขณะที่คุณคิดว่าคุณได้สิ่งที่ต้องการนั้น แล้วเวลาก็พัดพามันให้จางหายไป เหลือไว้แต่เพียงผมที่ยังถูกกระแสเวลาทอดทิ้งให้ยืนดูอยู่ตรงนี้ มองดูวันเวลาที่ผ่านไป........โดยทิ้งหัวใจให้หลุดไหลไปกับมันด้วย
ผมเคยมีทุกอย่าง............แต่สูญหาย......ไม่เหลืออะไรเลยซักอย่าง
ผมเคยมีทุกอย่าง............แต่สูญหาย......ไม่เหลืออะไรเลยซักอย่าง
เมื่อคนที่ไม่มีอะไรเลยซักสิ่งมาพบกับคนที่ไม่เหลืออะไรเลยซักอย่าง
เพียงในการพบพานครั้งแรกที่เหมือนถูกกำหนดไว้ให้เป็นไป ยิ่งกว่าพรหมลิขิต ยิ่งกว่าสิ่งมหัศจรรย์ ยิ่งกว่าการตกหลุมรัก
ด้านตรงข้ามของเราทั้งสอง ผลักดันให้หลงไหลซึ่งกันและกัน
เพียงในการพบพานครั้งแรกที่เหมือนถูกกำหนดไว้ให้เป็นไป ยิ่งกว่าพรหมลิขิต ยิ่งกว่าสิ่งมหัศจรรย์ ยิ่งกว่าการตกหลุมรัก
ด้านตรงข้ามของเราทั้งสอง ผลักดันให้หลงไหลซึ่งกันและกัน
มืดและสว่าง ร้อนและเย็น วิทยาศาสตร์และศิลปะ สมองและหัวใจ อนาคตและอดีต
เหมือนแม่เหล็กต่างขั้วที่ต่างก็ดึงดูดกันและกันอย่างไม่อาจห้ามได้
แต่ก็คือความแตกต่างนี่เอง ที่ทำให้เราไม่มีวันเข้ากันได้
เหมือนน้ำกับน้ำมัน ในขณะที่เราเติมเต็มซึ่งกันและกัน แต่ต่างฝ่ายก็กำลังทำลายอีกฝ่ายไปด้วย
แต่ก็คือความแตกต่างนี่เอง ที่ทำให้เราไม่มีวันเข้ากันได้
เหมือนน้ำกับน้ำมัน ในขณะที่เราเติมเต็มซึ่งกันและกัน แต่ต่างฝ่ายก็กำลังทำลายอีกฝ่ายไปด้วย
ผมคือความอิสระของผองชน
ผมคือบุรุษเหล็กแห่งกฎเกณฑ์
เราคือคู่ขนาน ที่ไม่มีวันเข้ากันได้
และมันสายเกินไป ที่จะไปอยู่เคียงข้างกัน
เราแบกรับภาระหนักหนาสาหัสไว้ ซึ่งทำได้เพียงทำลายล้างกันและกันให้ย่อยยับไปข้างหนึ่ง
แม้ว่าภายในส่วนลึกของเราทั้งสองต่างรู้ดี.......ว่าจะต้องเจ็บปวดเท่าไหร่ก็ตาม
เพราะเราได้เลือกข้าง เลือกสีของเราไว้แล้ว
และมันสายเกินไป ที่จะไปอยู่เคียงข้างกัน
เราแบกรับภาระหนักหนาสาหัสไว้ ซึ่งทำได้เพียงทำลายล้างกันและกันให้ย่อยยับไปข้างหนึ่ง
แม้ว่าภายในส่วนลึกของเราทั้งสองต่างรู้ดี.......ว่าจะต้องเจ็บปวดเท่าไหร่ก็ตาม
เพราะเราได้เลือกข้าง เลือกสีของเราไว้แล้ว
So................Whose side are you on?
.
.
เครดิตรูปจากhttp://-andrews.tumblr.com/post/12601299484
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฟิกสนองนี้ดจขบ.ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
ซึ่งตอนจบของภาค Civil War นี้ มันเศร้ามากกกก มันทำให้จขบ.เกลียดพี่ต๊ากมากกกกก คุณหลอกดาวววววว
โดนถรีบ//ใช้มุกเดิมอีกแล้ว
วิพากษ์วิจารณ์กันได้ตามแต่ศัทรานะฮว๊าฟฟฟฟฟฟฟ
คาดว่าหลังฟิกเครียดๆอันนี้อีกซักวันสองวันจขบ.จะไปปั่นฟิกฮาเฮมาล้างตานะ 555
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands SteveXTony ตามเคย
ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น