หื่นฮาเฮครอบครัว ตอนที่1มาแล้วจ้ะเบบี๋ย์ ♥
ปอลอ งานแต่งป๋าธีมสีขาว เลยต้องมีพรมขาวปูเพื่อ NC17 กันนิดนะจ๊ะ//ผิดส์
ขอใช้รูปนี้เป็นmemeประจำบล็อคละกัลลลล ชวอบบบบบบบบบบบบบ
ไปอ่านบทนำก่อนนะจ๊ะ
Mr.& Mrs.Stark : Prologue
หื่นฮาเฮภาคครอบครัว?(Steve/Tony) ตอนต่อจากหื่นฮาปาจิงโกะ เมื่อทั้งสองคนเข้าสู่พิธีแต่งงานแล้วก็ครองคู่กันอย่างมีความสุขตลอด ไป......จบ
ซะที่ไหน การแต่งงานมันเป็นแค่การเริ่มต้น หุหุหุ คาดว่าน่าจะมี Superfamilyในภาคนี้ด้วย
///////////////////////////////////////////////////////////////
Title : Mr. & MRS. Stark-1 : kiss the bride(?)
Rate : NC17
Genre : Homour,กุ๊กกิ๊ก,หื่นหน่อยๆ
Pairing: (Steve/Tony)
Vers: Avengers Movie vers.+Comic หน่อยๆ
//////////////////////////////////////////////
Mr. & MRS. Stark-1 : Kiss the bride(?)
เหมือนเขาจะเคยพูดมาก่อนหน้านี้ว่ากลัวการแต่งงานแบบสุดๆ เพราะว่าในพจนานุกรมของเพลย์บอยอย่างโทนี่ สตาร์คแล้ว การแต่งงาน แปลได้คำเดียวว่า หายนะ และไม่เคยจะตกหลุมสาวคนไหนๆที่เคยได้สะบึม..........อ่า ข้องเกี่ยวด้วยในช่วงชีวิตหนุ่มหล่อเพลย์บอยมหาเศรษฐีอัจฉริยะของเขาเลยแม้แต่คนเดียว
ที่ผ่านมาโทนี่ก็เคยคิดอย่างนั้นน่ะแหละ...............ถ้าไม่ใช่ว่าได้ค้นพบเหตุผลว่า ชีวิตคู่ดูมีอะไรน่าสนุกและน่าค้นหา(?)มากกว่าที่คิดไว้หลังจากที่ได้สัมผัสกับภาคทดลอง(?)ไปแล้ว
ถ้าคิดว่าการแต่งงานและงานพิธีถือว่าเป็นปาร์ตี้เปิดสวนสนุกก็ว่ากันไป.......................แถมเขายังชื่นชอบงานปาร์ตี้และยังถือเป็นพ่องานที่จัดปาร์ตี้ได้สุดเหวี่ยงติดระดับท็อปเท็นซะด้วย
.........................................
โทนี่เคยพูดตอนที่โลกิมาบุกโลกว่า โลกิเป็นเซเลปที่ชอบการเปิดตัวอย่างอลังการ จะต้องมีดอกไม้ ขบวนพาเหรด อะไรต่อมิอะไรที่หรูหราฟู่ฟ่าดึงดูดสายตาคนให้จับจ้อง และแน่นอนว่าทุกอย่างนั้นต้องประกาศก้องว่านี่ล่ะคือตัวข้า โลกิ ลอเฟย์ซัน
ซึ่งตอนนั้นสตีฟก็อยากจะพูดต่อเหมือนกันว่า ความเป็นโลกิที่โทนี่พูดมา....มันคือตัวโทนี่มากกว่ามั้ย? โดยเฉพาะตรงที่ว่า "ทุกอย่างนั้นต้องประกาศก้องว่านี่ล่ะคือตัวชั้น โทนี่สตาร์คและไอรอนแมน"
ท่ามกลางสวนแบบอังกฤษสวยเนี้ยบที่อยู่ในบริเวณปราสาทคฤหาสน์สีขาว ที่ในวันก่อนหน้านี้อาจจะเป็นของใครก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ได้กลายมาเป็น "สตาร์ค คาสเทิล" ก็ได้มีการจัดตั้งงานขนาดไม่เล็กขึ้นมาในสวนสวยแห่งนี้
โดยมีกองทัพนักข่าวและแขกเหรื่อสักขีพยานมากมายส่งเสียงจ้อกแจ้กอยู่ในส่วนพิธีของงาน บนม้าไม้ยาวสีขาวที่จัดเรียงเป็นระเบียบที่ด้านหน้าของแท่นประทับของบาทหลวง และพรมสีขาวที่ทอดยาวจากซุ้มกุหลาบโค้งเบื้องหน้าไปจนถึงประตูทางเข้าของคฤหาสน์
ภาพสวยงามคุ้นตา(ในสเกลที่มโหฬารบานตะไท)ของพิธีศักดิ์สิทธ์ที่เรียกว่า พิธีแต่งงาน
ตอนนี้ สตีพ โรเจอร์ กัปตันอเมริกากำลังเอามือกุมขมับอยู่ท่ามกลางดอกกุหลาบบัลเกเรียสีขาวเจิดจ้าดอกยักษ์ที่ประกอบกันเป็นซุ้มสูงอย่างกับซุ้มดอกไม้ฉลองวันชาติหรืออะไรประมาณนั้น ในชุดสูทเข้ารูปสีขาวสั่งตัดด่วนจากยี่ห้ออาร์มานี่......หรืออาร์มี่อะไรซักอย่างที่เขาเองก็จำไม่ได้ แล้วเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายและไม่คุ้นเคยกับฝูงชน จนนาตาชาหรือแบล็ควิโดว์ต้องเดินเข้ามาลากตัวให้ไปนั่งนิ่งๆ
เจ้าบ่าว(ที่ยังไม่ทันได้ฉลองสละโสด)กำลังรอเจ้าสาว........ที่เหมือนจะมาล่าช้าไปซักครึ่งชั่วโมงได้แล้วอย่างใจจดใจจ่อ............และใจหวาดหวั่นว่าเจ้าสาวหนวดเฟิ้มของเขาจะมาในชุดหรูหราฟูฟ่องอย่างที่โทนี่ สตาร์คเคยเล็งเอาไว้หรือเปล่า
แล้วก็ต้องโล่งใจ(ในหลายๆความหมาย)เมื่อได้เห็นชายหนุ่มร่างเล็กเดินเยื้องย่างด้วยมาดเหมือนเซเล็ปที่กำลังเดินอยู่บนพรมแดง............ที่จริงๆคือพรมขาวเวอร์จิ้นโร้ด(ซึ่งดูไม่เหมาะกับโทนี่ซักเท่าไหร่) เดินมาเดี่ยวๆแบบไม่ต้องมีพ่อเจ้าสาวนำพามา//ซึ่งถ้าหาก โฮเวิร์ดมาจริงๆคงมีได้เผ่นป่าราบกันไปบ้าง
โทนี่ สตาร์ค ในชุดสูทเนี้ยบกริบสีขาวส่งยิ้มให้กับสักขีพยานที่ยืนรอกันจนขาแข็ง รอยยิ้มที่ยียวนกวนประสาทนั้นคล้ายกับจะบอกว่า "ถ้าชั้นยังไม่มา ปาร์ตี้ก็ไม่เริ่มหรอกนะจ๊ะเบบี๋ย์" ก่อนจะเอ่ยบอกบาทหลวงที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่ที่แท่นพิธีว่า
"เฮ้ รออะไรอยู่ล่ะคุณพ่อ เริ่มเลยสิคร้าบบบบบ" ก่อนดึงมือเจ้าบ่าวที่เอามือกุมขมับอยู่มากุมไว้ พร้อมยื่นมือไปรับกล่องแหวนจากดร.แบนเนอร์ที่ส่งให้แล้วยัดแหวนใส่นิ้วสตีฟโดยที่ไม่รอให้ถึงเวลาสวมแหวน*
สตีฟจ้องหน้าหนวดกวนประสาทที่ยิ้มเผล่ดี๊ด๊านั่นด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหันมาฟังคำประกาศจากบาทหลวงที่เริ่มกล่าวนำคำสาบานในพิธี
"ในวันนี้เราทั้งหลายต่างมาร่วมชุมนุมกัน............."
"สั้นๆพอ คุณพ่อ เวลามีน้อยใช้สอยประหยัด" ท่านบาทหลวงที่จะเริ่มกล่าวคำประกาศมีอันต้องอ้าปากนิ่ง เพราะพูดไปได้แค่หน่อยเดียวก็โดนขัดโดยเสียงยียวนสำเนียงโทนี่สตาร์ค ทำให้บาทหลวงรวมทั้งคนในงานหันมามองตาค้าง
รวมทั้งเจ้าบ่าวผู้เคร่งครัดในศาสนาด้วย (ซึ่งอันที่จริงแล้ว......สำหรับโทนี่ นอกจากวิทยาศาสตร์แล้ว ก็มิได้นับถืออะไรเป็นพิเศษ)
คุณพ่อบาทหลวงผู้น่าสงสารจึงทำได้เพียงอ้าปากพะงาบๆสองสามที ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเซ็งๆว่า
"ง.....งั้น คุณ แอนโทนี่ เอ็ดวาร์ด สตาร์ค จะรับ สตีฟ โรเจอร์ เป็นสามีไม่ว่าจะยามสุข หรือทุกข์ มั่งมีหรือยากจน สบายดีหรือเจ็บป่วย จนกว่าจะตายจากกันหรือไม่ "
โทนี่กระตุกยิ้มด้วยดวงตาแวววาวก่อนกล่าวว่า "จริงๆต้องบอกว่า ยามสงบหรือสงคราม เอเลี่ยนถล่มโลกหรือกองทัพเทพบุกมากกว่านะ แต่ก็ช่างเห๊อะ................ถือว่ายอมรับละกัน"ก่อนหันมาขยิบตาให้สตีฟหนึ่งที
ขณะที่กัปตันอเมริกากำลังคิดถึงอนาคตชีวิตที่จะเกิดขึ้นต่อไปของเขาว่าจะหายนะประมาณไหน คุณพ่อก็กล่าวถามต่อว่า
"แล้วคุณสตีฟ โรเจอร์ จะรับ แอนโทนี่ เอ็ดวาร์ด สตาร์ค เป็น............อ่า................ สามี ไม่ว่าจะยามสุข หรือทุกข์ มั่งมีหรือยากจน สบายดีหรือเจ็บป่วย จนกว่าจะตายจากกันหรือไม่ " ก่อนสตีฟจะมองหน้าบาทหลวงที่ถูกบังคับให้เปลี่ยนคำปฏิญาณอย่างเหรอหรา
แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อเจ้าสาวส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้.................เอาเป็นว่า แม้ว่าคำประกาศจะดูทะแม่งๆไปนิด แต่สตีฟก็ได้แต่ตอบรับไปอย่างยอมรับชะตากรรม
"รับครั................ อุ๊บ" ก่อนที่เจ้าสาวผู้ใจร้อนจะลากตัวไปจูบโดยไม่ต้องรอให้บาทหลวงกล่าวคำว่า "kiss the bride"
สรุปว่างานนี้ใครเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันแน่หนอ........................
............................................
แล้วเวลาก็ผ่านไปถึงงานเลี้ยงช่วงค่ำ ซึ่งดูไปดูมาคล้ายกับว่าเป็นงานปาร์ตี้ Playboy หรือ FHM มากกว่าด้วยความที่มีแต่สาวๆเซ็กซี่ที่มาชุมนุมกันเต็มอัตรา ที่นุ่งน้อยห่มน้อยเต้นยั่วยวนทุกท่วงท่าไปกับเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม
บางทีโทนี่อาจจะอยากจัดปาร์ตี้สละโสดย้อนหลังขึ้นมาก็ได้มั้ง สตีฟ โรเจอร์คิดเหนื่อยๆก่อนเดินมานั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์ มองดูเจ้าสาวหนวดเฟิ้มของตนจิบมาร์ตินี่ยืนเต้นท่าฮาๆให้สาวๆดูด้วยสายตาปลงตก
"คิดดีแล้วเหรอแคปที่จะแต่งกับหมอนี่" นาตาชาที่นั่งอยู่ไม่ไกลเอ่ยถามด้วยสีหน้าขำขัน
สตีฟส่ายหัวก่อนกล่าวว่า "ก็ยังไม่ทันคิดก็ต้องแต่งซะแล้วนี่ แนต ว่าแต่คุณกลับมาทันด้วยนะนี่"
" ทุกคนก็เกือบมาไม่ทัน ถ้าไม่ใช่ว่าสตาร์คให้เครื่องบินไปรับมาโดยไม่บอกล่วงหน้ากันเลย" ดร.แบนเนอร์ที่โดนลักพาตัวจากอินเดียมาก่อนหน้านี้ไม่นานตอบคำถามแทน
ความหุนหันพลันแล่นอยากจะทำอะไรก็ทำ โดยไม่สนที่ทางและเวลา นี่คือสตาร์คสไตล์สินะ กัปตันอเมริกาคิดก่อนกุมขมับแรงๆจนแบนเนอร์ต้องยื่นมือมาตบไหล่
"แล้วคลินท์ไปไหนแล้วล่ะจ๊ะด็อก" แม่แมงมุมสาวถามแบนเนอร์ด้วยแววตามีเลสนัย ยังผลให้นักวิทยาศาสตร์หนุ่มหน้าแดงระเรื่อ
"คลินท์เขา.........เอาดอกไม้ไปเก็บ"บรูซ แบนเนอร์ตอบกลับมาด้วยท่าทีที่ดูประหม่าจนคิดว่าดร.จะหัวใจเต้นจนปล่อยยักษ์เขียวออกมาอาละวาดหรือเปล่า สตีฟคิดอย่างหวั่นๆ
...........................
หลังจากการจู่โจมปล้ำจูบของเจ้าสาว....อ่า........การจุมพิตเจ้าสาวจบพิธีสาบานตนแต่งงานในตอนเช้าแล้ว โทนี่ก็ส่งช่อดอกไม้เจ้าสาวช่อสวยมาให้เขาเป็นฝ่ายโยนให้กลุ่มเพื่อนเจ้าสาว(?)ที่ล้วนแล้วแต่เป็นอดีตสาวๆในสต็อคของโทนี่สตาร์คที่จับจ้องจะแย่งช่อดอกไม้นี้แทน
"นายโยนละกัน ชั้นปวดแขนง่ะ ไม่มีแรง" แล้วก็ยักไหล่เดินผ่านไปทิ้งให้เขายืนนิ่งเป็นหินอยู่ต่อหน้ากองทัพสาวๆที่จ้องมองแบบจ้องขย้ำเหยื่อ.........หมายถึงช่อดอกไม้น่ะ
หลังจากที่ไม่รู้จะทำยังไงดีกับดอกไม้ในมือ และจำนนต่อแรงกดดันของสาวๆที่สื่ออกมาว่า "โยนซะทีสิยะ" สตีฟก็กลับหลังหันแล้วโยนกุหลาบขาวช่อโตนั้นไปในอากาศอย่างงงงวย
ด้วยความงงจนทำให้กะแรงไม่ถูก......พลังของซูเปอร์โซลเยอร์ก็พาให้ช่อดอกไม้ลอยข้ามกลุ่มคนที่ออกันยื้อแย่งอยู่ไปไกลโข..........ไกลจนกระทั่งไปหล่นปุ๊ลงบนหัวใครบางคนที่ซุ่มสังเกตการณ์อยู่บนรัง ไม่ใช่สิ บนหลังคาคฤหาสน์เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย
เอเจนต์คลินท์ บาร์ตันได้แต่มองช่อดอกไม้ในมือ แล้วเขม้นมองลงมาตามเสียงหัวเราะดังลั่นของโทนี่ สตาร์คที่ปล่อยออกมาแบบไม่มีการอดกลั้น
"เฮ้ ด็อก เดี๋ยวชั้นเป็นพ่องานให้ละกันนะ งานแต่งยักษ์เขียวกับคิวปิด ฮ่าๆๆๆๆ" โทนี่พูดกลั้วหัวเราะก่อนจะตบบ่าดร.แบนเนอร์ที่ยืนหน้าแดงแปร๊ดอยู่อย่างขำขัน ก่อนที่สตีพจะลากตัวพ่อตัวดีของเขาให้พ้นจากระยะเล็งยิงของฮอว์คอายแทบไม่ทัน
...........................
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา..........แม้ว่าจะเป็นงานเลี้ยงแต่งงานที่แสนใหญ่โตมโหฬารของมหาเศรษฐี โทนี่ สตาร์คก็ตามทีเถอะ
แล้วก็เหมือนงานฉลอง ปาร์ตี้ งานเลี้ยง งานคอคเทลบลาบลาบลาอะไรก็ตามที่โทนี่เป็นคนจัดและเข้าร่วม สุดท้าย สตีฟ โรเจอร์ กัปตันอเมริกาก็ต้องมาทำภารกิจที่เขาคุ้นเคย
คือการเก็บซากโทนี่ที่นอนเมาหมดสภาพแบกขึ้นบ่ากลับบ้าน(ซึ่งในกรณีวันนี้คือห้องหอ)ตามเคย
หลังจากทิ้งร่างของโทนี่ลงบนเตียงคิงไซส์ปูผ้าไหมหนานุ่มในห้องและเชิญเหล่าทีมที่ยืนส่งด้วยสายตาอบอุ่น(ซึ่งสตีฟรู้สึกร้อนๆหนาวๆแทน)ออกไปจากการสิงสถิตย์ในห้องส่งตัวได้สำเร็จ สตีฟก็ถอดสูทของตนและของโทนี่ออกก่อนทรุดตัวนั่งที่มุมเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน
โล่งใจนิดหน่อยที่เด็กเปรตโทนี่เมาหลับไปซะได้.....เพราะวันนี้เขาหมดแรง เหนื่อยกายเหนื่อยใจเกินกว่าจะทำอะไรๆ........ เขาหมายความว่าเหนื่อยจนง่วงนอนน่ะ
แต่ว่าดูเหมือนความอ่อนล้าในวันนี้ของเขาในวันนี้คงยังไม่จบไม่สิ้น เมื่อรู้สึกถึงปลายนิ้วมืออุ่นๆที่ไล้เรื่อยมาปลดกระดุมเชิ้ตขาวของเขาอย่างช้าๆจากเบื้องหลัง
"ไม่ได้หลับจริงนี่นา โทนี่" สตีฟหันไปมองเจ้าของมือที่กำลังลวนลามเขาอยู่อย่างเหนื่อยๆ ร่างบางที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตขาวตัวเดียวก็ส่งสายตาแวววามผ่านดวงตาสีน้ำผึ้งที่หอมหวานเย้ายวน
"ก็น่าจะรู้นี่ว่าแกล้งหลับ............กัปตานนนน" เจ้าตัวดีดันตัวขึ้นมานั่งบนตักแล้วประทับจูบนุ่มบนริมฝีปากอย่างยั่วล้อ กลิ่นมาร์ตินีที่บางเบากว่าที่คิด ทำให้สตีฟเอ่ยถาม
"นี่คุณแกล้งเมา แกล้งหลับมาตลอดเพื่อยั่วผมใช่ไหมเนี่ย" กัปตันอเมริกาทำหน้าฉงนสงสัยปนน้อยใจหน่อยๆ ว่าตัวเองโดนล้อเล่นมาตลอดเวลาเลยใช่ไหมนี่
โทนี่ยิ้มกริ่มให้กับใบหน้าหมาจ๋อยของสตีฟ น่ารักน่าแกล้งอย่างนี้จะไม่ให้ยั่วเล่นยังไงไหว
"แหงล่ะ ชั้นคอแข็งจะตาย"ยกเว้นไอ้ที่นายแบกชั้นกลับมาครั้งแรกน่ะนะ โทนี่คิดในใจ ก่อนเล่นบทกวนประสาทต่อไป
"ก็นายน่ะ อ่อนไหว อ๊ะ ไม่ใช่สิ แข็งขัน กับชั้นตอนชั้นแกล้งทำตัวอ่อนแอใช่ไหมล่า" โทนี่ สตาร์คกล่าวกระเซ้ายั่วหยอก โดยที่ไม่ได้เห็นว่าแววตาสีฟ้านั้นฉายแวววูบวาบหน่อยๆ
"สรุปว่านี่เป็นเรื่องล้อเล่นของคุณตลอดเวลาเลยใช่มั้ย........โทนี่" เสียงทุ้มเจือแววโกรธของกัปตันทำให้เขารู้สึกตัวว่าชักจะเล่นมากไปนิดหน่อย ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เสื้อเชิ้ตของตนถูกปลดออกไปจากช่วงไหล่ แล้วถูกมือหนาดึงไปมัดรวมอยู่ที่ข้อมือโดยที่ยังไม่ได้ถอดออก ยังผลให้เสื้อเชิ้ตไหมเนื้อดีราคาหลายพันดอลลาร์กลายเป็นกุญแจมือไปโดยปริยาย
โทนี่ สตาร์คที่ตอนนี้กลายเป็นว่าถูกจับมือไพล่หลังในสภาพเกือบเปลือยนั่งอยู่บนตักร่างสูงอย่างหวาดหวั่น...........ก่อนที่จะนึกได้ว่า.................ซวยแล้วทีนี้
"งั้นผมก็ควรจะเล่นคุณกลับบ้างใช่มั้ย โทนี่"
สตีฟกระซิบเสียงทุ้มต่ำที่ข้างใบหู ก่อนที่จะซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับเรือนผมหยักศกสีเข้ม แล้วจูบไล้ต้นคอเปลือยเปล่าทำให้โทนี่ต้องร้อนวาบวูบ
มือหนากร้านลูบไล่เรื่อยเร้าไปตามผิวสีแทนสวย ความร้อนที่ส่งผ่านผิวกายคล้ายกับไฟที่ลุกฟาดผ่าน อารมณ์ที่เริ่มพุ่งพล่านจากสัมผัสปลายลิ้นร้อนที่พัวพันทำเอาเจ้าเด็กแสบอ่อนระทวย
โทนี่ส่งเสียงครางครือในลำคอเมื่อริมฝีปากหนาจูบไล่มาถึงยอดอกสีอ่อนแล้วลิ้มรสราวกับมันเป็นขนมหวาน ไล้ยั่ว หยอกเย้าจนเขาต้องหอบหายใจ แล้วลากลิ้นไล่ลงสู่อาภรณ์ขาวนุ่มที่ปกคลุมเบื้องล่างอย่างเชื่องช้า
ความชำนาญการเฉพาะด้านที่โทนี่สาธิตให้เห็นเพียงครั้งถูกสตีฟนำไปใช้ได้ดีเยี่ยมจนน่าตกใจ ริมฝีปากอุ่นที่จูบไล่ไปตามผิวผ้าที่ชุ่มฉ่ำด้วยความปรารถนา ดูดดึง ขบเม้ม ลิ้มเลียผ่านผิวผ้าจนมันร้อนรุ่มแทบจะคลั่ง แต่ด้วยที่สัมผัสโลมเล้าแค่เพียงภายนอกเท่านั้นจึงทำให้มันยังไม่ถึงจุดระเบิด
โทนี่ สตาร์คส่งสายตาเว้าวอนผ่านแพขนตาหนาที่ปกคลุมดวงตาฉ่ำชื้น.............เขากำลังจะทนไม่ไหว
"สตีฟ..............ได้โปรด" ร่างบางกล่าวเสียงแหบพร่าวิงวอน
"ไม่.....................โทนี่" ร่างสูงตอบงึมงำเพราะริมฝีปากที่ยังไม่หยุดยั่วเย้ากับจุดสำคัญ
พ่อเพลย์บอยตัวดีที่ปกติเคยแต่ยั่วล้อให้คุณปู่หัวปั่นตอนนี้ได้แต่ตัวสั่นหอบหายใจเพราะกลายเป็นฝ่ายโดนปลุกปั่นเสียบ้างแล้ว
เรือนร่างบางที่ถูกพันธนาการไว้บิดสั่นไหวอย่างไม่มีทางออก เมื่อสัมผัสยั่วล้อที่เบื้องล่างได้เพิ่มขึ้นเป็นปลายนิ้วที่รุกไล่เข้าสู่ช่องทางคับแคบ
ความร้อนรุ่มที่รุกไล่เล้าโลมจนรุ่มร้อน นิ้วแกร่งถูกส่งเข้าออกปลุกเร้าภายในให้ป่วนปั่น การรุกไล่แต่ไม่ให้ถึงจุดสูงสุดนั้นทำให้เขาได้แต่ส่งเสียงครางอย่างไม่เป็นศัพท์ ร่างเล็กหอบหายใจถี่ด้วยอารมณ์ที่พุ่งพล่าน
"สตีฟ...................ชั้นต้องการนาย"โทนี่กล่าวเสียงเบา
สตีฟเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองแววตาสีน้ำผึ้งที่หรี่ปรือด้วยความปรารถนาด้วยแววตาสีฟ้าแวววามก่อนจะกล่าวว่า
"ต้องการให้ผมทำอะไรให้หรือ คุณโทนี่" เสียงแหบพร่ากล่าวยั่วเย้า
"ทำให้ชั้นเป็นของนายที..............ได้โปรด"เสียงแผ่วกระเส่ากล่าวอย่างไร้แรงต้าน ดวงตาสีน้ำตาลชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตานั้นทำให้เขาร้อนรุ่มวูบวาบ ปลายขนตากระพริบปริบปรับนั้นยิ่งวิงวอนให้กระทำการโดยไม่ต้องเอ่ยบอก
มือใหญ่กร้านฉีกดึงผืนผ้าที่ผูกข้อมือไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชั้นในสีขาวตัวบางจะถุกดึงกระชากตามออกไป
ปลายนิ้วเรียวที่เคยถูกพันธนาการไว้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของสตีฟอย่างร้อนรนจนแทบจะเรียกได้ว่าฉีกกระชาก โทนี่ต้องการสิ่งที่รับรู้ได้ว่ามันกำลังแข็งขืนผ่านผิวผ้าที่เขาสัมผัสผ่านต้นขาอยู่เมื่อครู่ ก่อนที่จะตันตัวร่างสูงให้นอนลงบนเตียงนุ่มแล้วเอนตัวลงทาบทับ
"แก้แค้นกันดีนักนะ คุณปู่ อย่างงี้ต้องแกล้งกลับมั่งสิ" เจ้าตัวดีที่หมดท่าเมื่อครู่กลับมาเป็นผู้รุกไล่อีกครั้ง ดวงตาโทนี่หรี่ปรือยิ้มยั่ว กลั้นหายใจยาวส่งความร้อนของสตีฟเข้าไปสู่ความร้อนรุ่มภายในตัวช้าๆ ก่อนที่จะครางอื้อในคออกมาเมื่อปลายทางถูกเติมเต็ม
"คุณนี่มันจริงๆเลยนะ" สตีฟกล่าวเสียงพร่าเมื่อสะโพกได้รูปสวยเริ่มขยับไหวเสียดสีแก่นกายเขาจนคับแน่น
"ก็...........ชั้นต้องการนาย" ใบหน้ายวนยั่วนั้นขยับเข้ามามอบจูบล้ำลึกให้ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
"ต้องการ........แค่นั้นหรือโทนี่" เสียงทุ้มพร่าดังลอดผ่านเรียวลิ้นที่พัวพัน ร่างสูงยันตัวเข้าเสียดสีกระแทกกระทั้นจนเรือนร่างบางต้องสั่นไหว
มือใหญ่กอบกุมสะโพกเพรียวได้รูปเพิ่มจังหวะการสอดกายเข้าไว้ ในขณะที่มืออีกข้างก็เล้าไล้จุดอ่อนไหวของโทนี่จนร้อนพล่าน โทนี่ที่สมองพร่าเบลอด้วยความสุขกระสันได้แต่ส่งเสียงครางในลำคอ
"อ..............อื้อ.............สตีฟ..........." ช่องทางรัดรึงตรึงแน่นคล้ายกับว่าจะทานทนไม่ไหว ร่างสูงพลิกกายมากดทับร่างบางเอาไว้แล้วปรนเปรอให้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี
"บอกมาสิ......โทนี่...................บอกผม" สตีฟกระซิบข้างหูเสียงแผ่วแล้วขบเม้มที่ต้นคอเบาๆ เร่งจังหวะกายกระชั้นเข้าสู่จุดสูงสุด
เสียงหายใจหอบถี่ขาดห้วงผสานเสียงกายกระทบกาย สะโพกแกร่งขยับไหวไล่จังหวะรัวเร้าให้ไปถึงจุดหมาย เรือนร่างเกร็งตัวตอบรับความสุขสมที่ถาโถมเข้ามาจนต้องกลั้นหายใจ ก่อนที่จังหวะอารมณ์สุดท้ายจะทำให้เสียงหอบสั่นหลุดคำออกมา
"สตีฟ..........ช...........ชั้นรักนาย"
..................................
ร่างสูงกอดกุมร่างบางเอาไว้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะจุมพิตนุ่มนวลลงบนผิวแก้มร้อนผ่าวของชายคนรักด้วยรอยยิ้มสดใส
"นึกว่าจะไม่ได้ยินแล้วล่ะนะ .....โทนี่" สตีฟ โรเจอร์จ้องมองโทนี่ที่ซุกอกกว้างของเขาอย่างหมดท่า ใบหน้ายียวนนั้นตอนนี้แดงเรื่อจนดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
"ค......ใครบอก มันแค่หลุดปากออกมาต่างหาก" โทนี่ สตาร์คพยายามโต้เถียงด้วยท่าทางทีดูเหมือนเด็กเกรียนๆมากกว่า
"สรุปว่านี่แต่งงานกับผมเพราะอยากได้ตัวหรือหัวใจล่ะนี่ โทนี่" กัปตันอเมริกากล่าวกระเซ้าอีกทีก่อนจะงับเม้มคางหนวดเฟิ้มนั้นเบาๆ
สีหน้ากวนประสาทนั้นก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากพักยกพักเหนื่อยกันไปได้ชั่วครู่
"คุณปู่ก็พิสูจน์สิ ว่าอะไรน่าสนใจกว่ากัน" เสียงยั่วเย้าโต้ถามด้วยท่าทียียวน
"หัวใจอาจต้องพิสูจน์นานๆหน่อย แต่ร่างกาย........คงพิสูจน์ได้ไม่ยาก" โทนี่กล่าวต่อพร้อมแกล้งแลบลิ้นเลียริมฝีปาก
"แต่ผมเหนื่อยแล้วล่ะโทนี่.........เอาไว้ก่อนได้ไหม" สตีฟกล่าวออกมาอย่างเหนื่อยใจ แม้จะรู้ว่าร่างกายตัวเองไม่ได้เหนื่อยตาม
"เฮ้...........ทหาร กัปตันอเมริกาทำได้แค่นี้เหรอ" ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มยั่วยวน
"อืมม์ นั่นสิ แต่แค่นี้ทำให้โทนี่ สตาร์คหมดแรงแล้วไม่ใช่เหรอ" กัปตันอเมริกายิ้มเจ้าเล่ห์ที่นานๆจะยิ้มทีให้
เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลหน้าแดงเรื่อขึ้นอีกนิดหน่อย ก่อนจะกล่าวเสียงงอนๆว่า
"พิสูจน์กันมั้ย"
"แต่ผมหมดแรงแล้วนะโทนี่" สตีฟวางหลุมพราง
"ถือว่าเริ่มได้ยุติธรรม อย่างน้อยนายก็เป็นซูเปอร์โซลเดอร์" โทนี่ สตาร์คยิ้มเผล่ด้วยคิดว่ายกที่สองนี้ตนชนะแน่
..................................
โทนี่คิดผิด
คราวนี้เขาก็ยังลุกไม่ขึ้นอีกในวันต่อมา
ฝากไว้ก่อนเหอะ................โทนี่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะคิดว่าพิสูจน์ร่างกายให้น้อยกว่าหัวใจน่าจะดีกว่าสำหรับเขาตอนนี้
TBC.
ปอลอ * จริงๆการแลกแหวนต้องทำหลังจากจบการปฏิญาณตน และเจ้าบ่าวต้องเป็นคนสวมแหวนให้เจ้าสาวนะจ๊ะ แต่ด้วยความว่า "นี่คือคุณโทนี่ สตาร์ค" พิธีก็เลยขั้นตอนตามใจป๋าอย่างที่เห็น............หรือแค่อยากให้ข่าวออกมาว่าปู่เป็นเจ้าสาวหว่า ฮาาาาาา
///////////////////////////////////////////////////////////////
แฟนอาร์ต
อยากเห็นป๋าในวันแต่งงานกันใช่มั้ยยยยยยย
จัดไป
.
.
.
.
.
.
.
อย่าด่าจขบ.ว่าทำป๋าเสื่อมนะ
เจ้าสาวในชุดขาวโมเอ้ยย์//วิ่งหนีทรีนแฟนคลับ
ก็เค้าอยากเห็นป๋าใส่ชุดเจ้าสาวฟูฟ่องง่าาาาา แต่ไม่กล้าพอจะเอาไปใส่ในฟิก เลยกลายเป็นว่าใส่สูทขาวทั้งคู่ละกัลลล เป็นแผนสับขาหลอกนักข่าวของป๋าว่าใครเป็นเจ้าสาวกันแน่ ฮาาาาาา
///////////////////////////////////////////////////////////////
ปอลอ ไปรับคู่ดูตัวปู่hottoyมาแว้วววว ขอบคุณคุณมะหมี มากมายที่ให้ป๋ามาเปลืองตัวโฮมเสตย์อยู่บ้านสาววายหื่นหลายวัน หุหุหุหุ
แรกพบของป๋าปู่ คาดว่าปู่จะโดนป๋าล่อลวงซะแล้วววววว
อาห์ แฟนเกิร์ลสครีม เค้าอยากได้ป๋าเป็นของตัวเองงงงงงงงงงงงงงงงงงง//ดิ้น
ปอลอ 2 ช่วงนี้อาจมีอัพรูปฟิกเกอร์ปู่ป๋าเยอะนิดตามแรงสโตล์คของจขบ.นะจ๊ะ
ปอลอ 3 ช่วงนี้ฟิกตีฟนี่ นี่ตีฟน้อยจังงงงง แต่งกันมาเพิ่มหน่อยสิจ๊ะเบบี๋ย์♥
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands SteveXTony ตามเคย
ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น