แอบมาแปะฟิกเงียบๆ
ไปอ่านบทนำก่อนนะจ๊ะ
ดราม่าสี่เศร้าเคล้าน้ำตา(?) สี่คู่ Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
ปอลอ NC17 เรตนิดนึงนะจ๊ะ เบบี๋ย์
Tangled Loops : Prologue
///////////////////////////////////////////////////////////////
Title :Tangled Loops : 1 : Lust
Rate : NC17
Genre : Drama/Romance/sad
Pairing: Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
Vers: Avengers Movie vers.+Comic หน่อยๆ
Rate : NC17
Genre : Drama/Romance/sad
Pairing: Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
Vers: Avengers Movie vers.+Comic หน่อยๆ
Tangled Loops : 1 : Lust
ท่ามกลางแสงเรืองสีฟ้าอ่อนสลัวของปฏิกรณ์อาร์ค โทนี่ สตาร์ค ยันร่างตัวเองลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างยากลำบาก สมองอัจฉริยะที่เคยคำนวณสมการได้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์ขณะนี้กลับสับสน งุนงง ราวกับโดนใครมาควักสมองออกไปโยนใส่เครื่องปั่น
บนร่างสันทันที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อปรากฎริ้วแผลน้อยใหญ่ ร่องรอยเล็บกรีดกดทั่วหลังและรอยฟันคมที่ไหล่ เป็นสิ่งยืนยันว่า เรื่องที่ผ่านมาไม่ใช่เพียงความฝัน
เสียงหวานก้องราวร่ายมนต์ก็ผุดขึ้นในมโนสำนึก
"เจ้าบอกข้าทุกอย่างแล้ว"
แล้วเสียงหัวเราะหวานแผ่วแต่สั่นสะเทือนประสาทก็ดังก้องในหัว ริมฝีปากบางที่ยิ้มยั่วล้อ เรือนร่างงดงามขาวโพลนในแสงสลัว และนัยน์ตาสีเขียววับวาวของ โลกิ ลอเฟย์ซัน
"เจ้ากำลังจะตาย.................สตาร์ค"
.................................
สามเดือนหลังจากการบุกของโลกิและกองทัพต่างดาวชิทอรี่ นครนิวยอร์คและสตาร์คทาวเวอร์ยังไม่ทันจะเยียวยาซ่อมแซมกลับไปสภาพเดิมได้เท่าไหร่นัก โทนี่ก็ต้องมาต้อนรับการมาเยือนของปัญหาใหญ่
ธอร์ เทพสายฟ้าแห่งแอสการ์ดผู้หลบหนีมาพร้อมกับ โลกิ ลอเฟย์ซัน นักโทษอันตรายยิ่งยวดของโลก ที่ธอร์พาตัวกลับมาโลกเพื่อหนีจากการลงทัณฑ์จากบิดาแห่งแอสการ์ด
หลังจากรับรู้ว่าผลแห่งการทำลายล้างโลกของโลกิในครั้งนั้น โทษทัณฑ์ที่รอน้องชายแสนรักอยู่คือความตาย ธอร์ก็ย้อนกลับมาสู่โลกอย่างเงียบเชียบและชิงแทสเซอแรคต์มาโดยไม่มีใครรู้
แต่ก็คงเป็นแค่ช่วงสั้นๆ เพราะอีกไม่นานหากเทพโอดีนราชาแห่งเก้าโลก ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้คงไม่แคล้วบุกมาโลกเพื่อพาตัวทั้งลูกชายและนักโทษประหารกลับไปแน่
ถ้าหากไม่ใช่ว่าชายหนุ่มผู้ใจดีที่สุดในเก้าโลก สตีฟ โรเจอร์ มาอ้อนวอนขอให้เขาช่วยให้ที่ซ่อนแก่พี่น้องสองเทพนี้ ที่หนึ่งในนั้นคือสหายรักร่วมรบของกัปตันอเมริกา เป็นการชั่วคราว เพราะดูจะปลอดภัยต่อโลกไม่แพ้การส่งตัวไปให้หน่วยชีลด์คุมตัวไว้เอง ผิดกันตรงที่อยู่ที่สตาร์คทาวเวอร์ ธอร์ไม่ต้องกังวลว่าน้องชายจะโดนฟิวรี่หรือฮอคอายส์ลอบสังหารเท่านั้นเอง
และโทนี่ สตาร์ค ก็ตอบรับคำร้องขอของพ่อเทวดานั้นด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่รู้
.................................
ณ ที่ชั้นใดชั้นหนึ่งในหลายร้อยชั้นของสตาร์คทาวเวอร์ โทนี่ สตาร์คที่ออกจะเบื่อนิดหน่อย เลยหาอะไรทำเล่นแก้เซ็งด้วยการมาเยี่ยมเยียนพ่อมดเขาโง้งที่ถูกฝากเลี้ยงไว้
ในระหว่างที่ธอร์กับสตีฟไปรับหน้ากับทางชีลด์ ที่ทำท่ากระเหี้ยนกระหือรือจะบุกมาสตาร์คทาวเวอร์เพื่อพาตัวโลกิ อาชญากรตัวเอ้ไปคุมขังไว้แทน
แม้ว่าการที่จะต้องเห็นเทพสายฟ้ากับเทวดาแสนดีผมทองสองคนนั้นไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนบ่อยๆโดยที่ทิ้งน้องชายตัวแสบไว้ที่ห้องคุมขัง (ที่จริงๆเป็นห้องสูทสุดหรูที่มีระบบความปลอดภัยแข็งแกร่งกว่ามาตรฐานสตาร์คทาวเวอร์นิดหน่อย) แล้วปล่อยให้เขาเป็นคนนั่งเฝ้าจะไม่เป็นปัญหากวนใจไปมากกว่าเรื่องส่วนตัวที่บั่นทอนจิตใจของเขาตอนนี้ก็ตาม
แต่การมองเห็นสตีฟยิ้มฝืดฝืน และมองมาที่เขาด้วยสายตาห่วงหามันทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่า......................
อย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่เขาเลือกแล้วว่าจะทำ ความเจ็บปวดของเขาในตอนนี้ มันคงน้อยกว่าการทำให้คนที่เขารักเจ็บปวดอย่างเทียบกันไม่ได้
บนร่างสันทันที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อปรากฎริ้วแผลน้อยใหญ่ ร่องรอยเล็บกรีดกดทั่วหลังและรอยฟันคมที่ไหล่ เป็นสิ่งยืนยันว่า เรื่องที่ผ่านมาไม่ใช่เพียงความฝัน
เสียงหวานก้องราวร่ายมนต์ก็ผุดขึ้นในมโนสำนึก
"เจ้าบอกข้าทุกอย่างแล้ว"
แล้วเสียงหัวเราะหวานแผ่วแต่สั่นสะเทือนประสาทก็ดังก้องในหัว ริมฝีปากบางที่ยิ้มยั่วล้อ เรือนร่างงดงามขาวโพลนในแสงสลัว และนัยน์ตาสีเขียววับวาวของ โลกิ ลอเฟย์ซัน
"เจ้ากำลังจะตาย.................สตาร์ค"
.................................
สามเดือนหลังจากการบุกของโลกิและกองทัพต่างดาวชิทอรี่ นครนิวยอร์คและสตาร์คทาวเวอร์ยังไม่ทันจะเยียวยาซ่อมแซมกลับไปสภาพเดิมได้เท่าไหร่นัก โทนี่ก็ต้องมาต้อนรับการมาเยือนของปัญหาใหญ่
ธอร์ เทพสายฟ้าแห่งแอสการ์ดผู้หลบหนีมาพร้อมกับ โลกิ ลอเฟย์ซัน นักโทษอันตรายยิ่งยวดของโลก ที่ธอร์พาตัวกลับมาโลกเพื่อหนีจากการลงทัณฑ์จากบิดาแห่งแอสการ์ด
หลังจากรับรู้ว่าผลแห่งการทำลายล้างโลกของโลกิในครั้งนั้น โทษทัณฑ์ที่รอน้องชายแสนรักอยู่คือความตาย ธอร์ก็ย้อนกลับมาสู่โลกอย่างเงียบเชียบและชิงแทสเซอแรคต์มาโดยไม่มีใครรู้
แต่ก็คงเป็นแค่ช่วงสั้นๆ เพราะอีกไม่นานหากเทพโอดีนราชาแห่งเก้าโลก ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้คงไม่แคล้วบุกมาโลกเพื่อพาตัวทั้งลูกชายและนักโทษประหารกลับไปแน่
ถ้าหากไม่ใช่ว่าชายหนุ่มผู้ใจดีที่สุดในเก้าโลก สตีฟ โรเจอร์ มาอ้อนวอนขอให้เขาช่วยให้ที่ซ่อนแก่พี่น้องสองเทพนี้ ที่หนึ่งในนั้นคือสหายรักร่วมรบของกัปตันอเมริกา เป็นการชั่วคราว เพราะดูจะปลอดภัยต่อโลกไม่แพ้การส่งตัวไปให้หน่วยชีลด์คุมตัวไว้เอง ผิดกันตรงที่อยู่ที่สตาร์คทาวเวอร์ ธอร์ไม่ต้องกังวลว่าน้องชายจะโดนฟิวรี่หรือฮอคอายส์ลอบสังหารเท่านั้นเอง
และโทนี่ สตาร์ค ก็ตอบรับคำร้องขอของพ่อเทวดานั้นด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่รู้
.................................
ณ ที่ชั้นใดชั้นหนึ่งในหลายร้อยชั้นของสตาร์คทาวเวอร์ โทนี่ สตาร์คที่ออกจะเบื่อนิดหน่อย เลยหาอะไรทำเล่นแก้เซ็งด้วยการมาเยี่ยมเยียนพ่อมดเขาโง้งที่ถูกฝากเลี้ยงไว้
ในระหว่างที่ธอร์กับสตีฟไปรับหน้ากับทางชีลด์ ที่ทำท่ากระเหี้ยนกระหือรือจะบุกมาสตาร์คทาวเวอร์เพื่อพาตัวโลกิ อาชญากรตัวเอ้ไปคุมขังไว้แทน
แม้ว่าการที่จะต้องเห็นเทพสายฟ้ากับเทวดาแสนดีผมทองสองคนนั้นไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนบ่อยๆโดยที่ทิ้งน้องชายตัวแสบไว้ที่ห้องคุมขัง (ที่จริงๆเป็นห้องสูทสุดหรูที่มีระบบความปลอดภัยแข็งแกร่งกว่ามาตรฐานสตาร์คทาวเวอร์นิดหน่อย) แล้วปล่อยให้เขาเป็นคนนั่งเฝ้าจะไม่เป็นปัญหากวนใจไปมากกว่าเรื่องส่วนตัวที่บั่นทอนจิตใจของเขาตอนนี้ก็ตาม
แต่การมองเห็นสตีฟยิ้มฝืดฝืน และมองมาที่เขาด้วยสายตาห่วงหามันทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่า......................
อย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่เขาเลือกแล้วว่าจะทำ ความเจ็บปวดของเขาในตอนนี้ มันคงน้อยกว่าการทำให้คนที่เขารักเจ็บปวดอย่างเทียบกันไม่ได้
...................................
"ไม่แตะเครื่องดื่มหน่อยเหรอ พ่อคาราบาว"เสียงยียวนแบบ โทนี่ สตาร์คดังขึ้นแทรกความเงียบ
แก้วคริสตัลใบเล็กบรรจุวอดกาสีใสรสร้อนแรงไว้ถูกวางไว้ที่เบื้องหน้าของชายร่างบาง โลกิ ลอเฟย์ซัน ส่งสายตาสีเขียวมามองที่โทนี่สตาร์คอย่างขัดเคืองหน่อยๆ
ก่อนที่โทนี่จะยักไหล่ แล้วเดินมาทรุดตัวลงบนโซฟาหนังหนานุ่มเบื้องหน้าเทพมุสา ผู้ที่ตอนนี้ดูเงียบสงบปากสงบคำไม่สมกับฉายา Silver Tongue เสียเลย
"อ๊ะอา.....ลืมไป นายโดนครอบปากไว้นี่เนาะ พี่ชายนายนี่รสนิยมแย่จริงๆ" แล้วกระดกยิ้มมุมปากให้หนึ่งที
โลกิสะบัดหน้าพรืดหันไปมองทางอื่นจนผมสีดำสลวยสะบัดไหว..............จะว่าไปหมอนี่ก็หน้าตาดีใช่ย่อย
ถ้าไม่ใช่ว่ามีที่ครอบปากหน้าตาประหลาดเหมือนของเล่นของพวกBDSMแล้วก็โดนล่ามโซ่อยู่ล่ะก็นะ
ธอร์เคยบอกว่าห้ามเอาที่ครอบปากของโลกิออกเด็ดขาด ยกเว้นเวลาที่ตนอยู่ด้วย หรือเวลาให้อาหาร.......ไม่ใช่สิ เวลาทานอาหาร เนื่องจากหากเปิดโอกาสให้โลกิพูด อาจโดนร่ายมนตร์ใส่
แต่โทนี่คิดว่าเรื่องอะไรเขาต้องไปใส่ใจคำห้ามของเทพทึนทึกนั้นด้วย เวทมนตร์กับวิทยาศาสตร์ถึงจะมีคนบอกว่าคล้ายกันแต่เขาคิดว่าไม่ใช่เด็ดขาด เขาเชื่อในวิทยาศาสตร์ ส่วนเวทมนตร์นั้นคือเรื่องไร้สาระ
แล้วโทนี่ก็ปลดรหัสล็อคที่ครอบปากออก ก่อนจะส่งแก้ววอดก้าให้กับโลกิที่จ้องมองด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตาดูพิศวง.....หรือไม่ก็หวาดระแวง
"โอกาสแรกที่จะได้เลี้ยงเหล้าเทพเลยนะเนี่ย ชนแก้ว"เขาพูดพลางยกแก้วของตนแตะที่ขอบปากแก้วอีกใบที่ตั้งนิ่งอยู่กลางโต๊ะ เชื้อเชิญให้พ่อเทพมุสา ที่ตอนนี้คงกลายเป็นเทพใบ้ดื่มเป็นเพื่อน
โลกิสบตามองด้วยตาสีเขียวแวววาม ก่อนจะเอ่ยคำถาม
"มนุษย์เอ๋ย พี่ชายข้าเล่า................"
ขณะที่โทนี่กำลังคิดว่าน้ำเสียงรื่นหูนี้อาจเป็นหนึ่งในการร่ายเวทย์ของโลกิหรือเปล่า เทพมุสาก็เอ่ยวาจาบาดใจ
"อยู่กับบุรุษหลงยุคผู้นั้นอีกแล้วหรือไร" แล้วแย้มมุมปากยิ้มบาง ที่ก่อให้เกิดระลอกคลื่นในใจของโทนี่ชั่วขณะ
แก้วคริสตัลใบเล็กบรรจุวอดกาสีใสรสร้อนแรงไว้ถูกวางไว้ที่เบื้องหน้าของชายร่างบาง โลกิ ลอเฟย์ซัน ส่งสายตาสีเขียวมามองที่โทนี่สตาร์คอย่างขัดเคืองหน่อยๆ
ก่อนที่โทนี่จะยักไหล่ แล้วเดินมาทรุดตัวลงบนโซฟาหนังหนานุ่มเบื้องหน้าเทพมุสา ผู้ที่ตอนนี้ดูเงียบสงบปากสงบคำไม่สมกับฉายา Silver Tongue เสียเลย
"อ๊ะอา.....ลืมไป นายโดนครอบปากไว้นี่เนาะ พี่ชายนายนี่รสนิยมแย่จริงๆ" แล้วกระดกยิ้มมุมปากให้หนึ่งที
โลกิสะบัดหน้าพรืดหันไปมองทางอื่นจนผมสีดำสลวยสะบัดไหว..............จะว่าไปหมอนี่ก็หน้าตาดีใช่ย่อย
ถ้าไม่ใช่ว่ามีที่ครอบปากหน้าตาประหลาดเหมือนของเล่นของพวกBDSMแล้วก็โดนล่ามโซ่อยู่ล่ะก็นะ
ธอร์เคยบอกว่าห้ามเอาที่ครอบปากของโลกิออกเด็ดขาด ยกเว้นเวลาที่ตนอยู่ด้วย หรือเวลาให้อาหาร.......ไม่ใช่สิ เวลาทานอาหาร เนื่องจากหากเปิดโอกาสให้โลกิพูด อาจโดนร่ายมนตร์ใส่
แต่โทนี่คิดว่าเรื่องอะไรเขาต้องไปใส่ใจคำห้ามของเทพทึนทึกนั้นด้วย เวทมนตร์กับวิทยาศาสตร์ถึงจะมีคนบอกว่าคล้ายกันแต่เขาคิดว่าไม่ใช่เด็ดขาด เขาเชื่อในวิทยาศาสตร์ ส่วนเวทมนตร์นั้นคือเรื่องไร้สาระ
แล้วโทนี่ก็ปลดรหัสล็อคที่ครอบปากออก ก่อนจะส่งแก้ววอดก้าให้กับโลกิที่จ้องมองด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตาดูพิศวง.....หรือไม่ก็หวาดระแวง
"โอกาสแรกที่จะได้เลี้ยงเหล้าเทพเลยนะเนี่ย ชนแก้ว"เขาพูดพลางยกแก้วของตนแตะที่ขอบปากแก้วอีกใบที่ตั้งนิ่งอยู่กลางโต๊ะ เชื้อเชิญให้พ่อเทพมุสา ที่ตอนนี้คงกลายเป็นเทพใบ้ดื่มเป็นเพื่อน
โลกิสบตามองด้วยตาสีเขียวแวววาม ก่อนจะเอ่ยคำถาม
"มนุษย์เอ๋ย พี่ชายข้าเล่า................"
ขณะที่โทนี่กำลังคิดว่าน้ำเสียงรื่นหูนี้อาจเป็นหนึ่งในการร่ายเวทย์ของโลกิหรือเปล่า เทพมุสาก็เอ่ยวาจาบาดใจ
"อยู่กับบุรุษหลงยุคผู้นั้นอีกแล้วหรือไร" แล้วแย้มมุมปากยิ้มบาง ที่ก่อให้เกิดระลอกคลื่นในใจของโทนี่ชั่วขณะ
โทนี่หยิบแก้ววอดกาของตนขึ้นกระดกรวดเดียวหมดอย่างฉุนเฉียว บางทีที่ธอร์บอกห้ามไม่ให้เอาที่ครอบปากออกเพราะความปากเสียของน้องชายตัวเองล่ะมั้ง
ชายร่างบางจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มหวาน
"ดูเจ้าจะยินดีกับการส่งตัวชายคนรักไปเป็นของขวัญเทพเจ้านะ สตาร์ค"
ด้วยแรงโทสะ บุรุษเหล็กผุดลุกขึ้นแล้วพุ่งตัวเข้าคว้าคอเสื้อของชายร่างบางตรงหน้า แต่ก็ต้องหยุดชะงัก ด้วยร่างทั้งร่างชานิ่งคล้ายจะถูกแช่แข็ง ความเย็นเยียบบาดเข้าที่กลางแผ่นอก และสายตาก็สังเกตเห็นคทาเซฟเตอร์ที่ปลายแหลมเรียวของมันจรดที่กึ่งกลางปฏิกรณ์อาร์ค
แสงสีเย็นเยือกจากอัญมณีสีฟ้าพุ่งตรงเข้าครอบคลุมแสงสีขาวอ่อนแรงที่อก ในขณะที่โทนี่รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกดับมืด ภาพเบื้องหน้าเริ่มพร่ามัว สมองสั่งการร่างกายไม่ได้จนต้องทรุดตัวลงบนเข่าของตนเอง
ชายร่างบางจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มหวาน
"ดูเจ้าจะยินดีกับการส่งตัวชายคนรักไปเป็นของขวัญเทพเจ้านะ สตาร์ค"
ด้วยแรงโทสะ บุรุษเหล็กผุดลุกขึ้นแล้วพุ่งตัวเข้าคว้าคอเสื้อของชายร่างบางตรงหน้า แต่ก็ต้องหยุดชะงัก ด้วยร่างทั้งร่างชานิ่งคล้ายจะถูกแช่แข็ง ความเย็นเยียบบาดเข้าที่กลางแผ่นอก และสายตาก็สังเกตเห็นคทาเซฟเตอร์ที่ปลายแหลมเรียวของมันจรดที่กึ่งกลางปฏิกรณ์อาร์ค
แสงสีเย็นเยือกจากอัญมณีสีฟ้าพุ่งตรงเข้าครอบคลุมแสงสีขาวอ่อนแรงที่อก ในขณะที่โทนี่รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกดับมืด ภาพเบื้องหน้าเริ่มพร่ามัว สมองสั่งการร่างกายไม่ได้จนต้องทรุดตัวลงบนเข่าของตนเอง
ก่อนที่ชายร่างบางเบื้องหน้าจะก้าวเท้าเข้ามาใกล้ พินิศเขาด้วยสายตาหยามเย้ยจากมุมสูง แล้วเอื้อนเอ่ย
"เจ้ามี"หัวใจ"แล้วสินะ.................แม้ไม่มากพอจะครอบครอง แต่ก็เพียงพอที่จะควบคุม"
"เจ้ามี"หัวใจ"แล้วสินะ.................แม้ไม่มากพอจะครอบครอง แต่ก็เพียงพอที่จะควบคุม"
เจ้าของแววตาสีเขียวแวบวาวกล่าวเรื่อยช้า ก่อนจะยันตัวโทนี่ที่ร่างไร้เรี่ยวแรงให้เอนลงกับพื้นแล้วก้มตัวลงทาบทับ
"ข้ายังอยากให้เจ้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกองทัพอยู่นะ...........คราวที่แล้วข้าอาจพลาดไปเล็กน้อย แต่ครั้งนี้คงมิใช่"
"ข้ายังอยากให้เจ้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกองทัพอยู่นะ...........คราวที่แล้วข้าอาจพลาดไปเล็กน้อย แต่ครั้งนี้คงมิใช่"
โลกิร่ายคำเสียงนุ่มที่ข้างใบหู พลางใช้นิ้วเรียวแตะบางเบาที่แผงอก ปลดเปลื้องอาภรณ์ที่กั้นขวางออกไปอย่างใจเย็น ปลายลิ้นสีสวยที่ร่ายคำหวานหูไล่ลากบนแผงอกอย่างถี่ถ้วน
สัมผัสของโลกินั้นเยียบเย็น แต่ทำให้อุณหภูมิร่างกายของโทนี่พุ่งพล่าน เขาร้องครางอย่างไร้เสียงราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้ ความปรารถนาพุ่งสูงโดยที่ตัวเองไม่ได้ต้องการแต่อย่างใด
แสงสีฟ้าเย็นชาจากต้นกำเนิดแสงของปฏิกรณ์อาร์ค ที่ตอนนี้เป็นแสงสลัวเดียวในห้องสาดส่องให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าสองร่าง ผิวขาวราวหินอ่อนที่กอดก่ายบนร่างกายสีกรำแดด มือเรียวบางกอบกุมส่วนอ่อนไหวของร่างกายเบื้องล่าง ขยับไหว เชื่องช้า เร่งร้อน ปลุกปั่นให้อารมณ์พุ่งสูงชัน
คล้ายสติเลือนรางของโทนี่ยังบอกตัวเองว่าให้หยุดไม่ยอมสิโรราบ โลกิแย้มยิ้มก่อนจะไล้ริมฝีปากบางลงเรื่อยสู่เบื้องล่างที่แข็งขืน เรียวลิ้นบางไล้แผ่วที่ปลายสุดก่อนจะเอื้อนเอ่ยน้ำเสียงหวาน
"ข้าจะแสดงให้เห็นมั้ยว่าฉายา silver tongue มิได้มาจากวาจาเพียงอย่างเดียว" ก่อนจะมอบสัมผัสเร่าร้อนรุนแรงให้
ราวกับเหล็กที่ถูกตีจนร้อนแล้วทำให้เย็นโดยฉับพลัน วูบสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกกามารมณ์ควบคุมจิตใจ โทนี่นึกถึงใบหน้าเจ้าของตาสีฟ้าใส เทพยดาแสนงามที่คนแปดเปื้อนอย่างเขาไม่ควรรัก ไม่ควรแตะต้อง
แล้วโทนี่ก็รู้สึกเหมือนหล่นวูบลงไปในความมืดดำอีกชั้น
ก่อนสมองมึนงงจะถูกครอบงำด้วยสัมผัสร้อนรุ่มจากแก่นกลางร่างกายที่ถูกทาบทับ เสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเทพมุสาก็ลอยมากระทบโสตประสาท
"อ้อ..............เทพยดาผมทองนั่นเองรึทีทำให้เจ้ามีหัวใจ.........สตาร์ค"
....................................
"เจ้าทำแบบนี้ทำไม โลกิ" ธอร์ เทพสายฟ้ากล่าวเสียงต่ำแฝงความโกรธเกรี้ยว
โลกิยิ้มเย็นเยียบ ก่อนจะกระซิบข้างหู
"ข้าจะทำลายทุกสิ่งของท่าน ทุกของรักของท่าน ทุกคนรอบตัวของท่าน..........................เริ่มจากหัวใจของสหายรักท่านเป็นไง"
เขาไม่เคยคิดระวัง...............ไม่สิ ไม่เคยรู้จิตใจโลกิว่าเขาคิดเช่นไรอยู่ จนกระทั่งเห็นแก่ตาว่าน้องชายตนทำสิ่งใดเมื่อลับสายตาจากผู้คน
"ข้าจะทำลายทุกอย่างของมนุษย์ผมทองนั่น ทั้งความรักของมัน ทั้งคนรักของมันด้วย"
"โลกิ............เจ้า"ธอร์ขึ้นเสียงกร้าวก่อนจะถอนหายใจยาวสะกดกลั้นอารมณ์ แล้วดันร่างบางติดผนังแน่นหนาจนโลกิหายใจติดขัด มือใหญ่หนาเค้นแน่นที่คอเรียวที่หากออกแรงอีกไม่มากก็อาจหักได้ พร้อมกล่าวเสียงต่ำลอดไรฟัน
"อย่าให้สตีฟรู้เรื่องนี้ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า"
เขายังไม่อยากให้สตีฟ โรเจอร์ รับรู้เรื่องนี้
เทพสายฟ้าไม่ทันได้สังเกตุความปวดร้าวที่ฉายแววออกมาจากดวงตาสีเขียว
และไม่ได้รู้เลยว่ามีดวงตาสีฟ้าใส จ้องมองจากภายในมุมมืดอยู่อย่างตกตะลึง.......................และปวดร้าวไม่แพ้กัน
สัมผัสของโลกินั้นเยียบเย็น แต่ทำให้อุณหภูมิร่างกายของโทนี่พุ่งพล่าน เขาร้องครางอย่างไร้เสียงราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้ ความปรารถนาพุ่งสูงโดยที่ตัวเองไม่ได้ต้องการแต่อย่างใด
แสงสีฟ้าเย็นชาจากต้นกำเนิดแสงของปฏิกรณ์อาร์ค ที่ตอนนี้เป็นแสงสลัวเดียวในห้องสาดส่องให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าสองร่าง ผิวขาวราวหินอ่อนที่กอดก่ายบนร่างกายสีกรำแดด มือเรียวบางกอบกุมส่วนอ่อนไหวของร่างกายเบื้องล่าง ขยับไหว เชื่องช้า เร่งร้อน ปลุกปั่นให้อารมณ์พุ่งสูงชัน
คล้ายสติเลือนรางของโทนี่ยังบอกตัวเองว่าให้หยุดไม่ยอมสิโรราบ โลกิแย้มยิ้มก่อนจะไล้ริมฝีปากบางลงเรื่อยสู่เบื้องล่างที่แข็งขืน เรียวลิ้นบางไล้แผ่วที่ปลายสุดก่อนจะเอื้อนเอ่ยน้ำเสียงหวาน
"ข้าจะแสดงให้เห็นมั้ยว่าฉายา silver tongue มิได้มาจากวาจาเพียงอย่างเดียว" ก่อนจะมอบสัมผัสเร่าร้อนรุนแรงให้
ราวกับเหล็กที่ถูกตีจนร้อนแล้วทำให้เย็นโดยฉับพลัน วูบสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกกามารมณ์ควบคุมจิตใจ โทนี่นึกถึงใบหน้าเจ้าของตาสีฟ้าใส เทพยดาแสนงามที่คนแปดเปื้อนอย่างเขาไม่ควรรัก ไม่ควรแตะต้อง
แล้วโทนี่ก็รู้สึกเหมือนหล่นวูบลงไปในความมืดดำอีกชั้น
ก่อนสมองมึนงงจะถูกครอบงำด้วยสัมผัสร้อนรุ่มจากแก่นกลางร่างกายที่ถูกทาบทับ เสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเทพมุสาก็ลอยมากระทบโสตประสาท
"อ้อ..............เทพยดาผมทองนั่นเองรึทีทำให้เจ้ามีหัวใจ.........สตาร์ค"
....................................
"เจ้าทำแบบนี้ทำไม โลกิ" ธอร์ เทพสายฟ้ากล่าวเสียงต่ำแฝงความโกรธเกรี้ยว
โลกิยิ้มเย็นเยียบ ก่อนจะกระซิบข้างหู
"ข้าจะทำลายทุกสิ่งของท่าน ทุกของรักของท่าน ทุกคนรอบตัวของท่าน..........................เริ่มจากหัวใจของสหายรักท่านเป็นไง"
เขาไม่เคยคิดระวัง...............ไม่สิ ไม่เคยรู้จิตใจโลกิว่าเขาคิดเช่นไรอยู่ จนกระทั่งเห็นแก่ตาว่าน้องชายตนทำสิ่งใดเมื่อลับสายตาจากผู้คน
"ข้าจะทำลายทุกอย่างของมนุษย์ผมทองนั่น ทั้งความรักของมัน ทั้งคนรักของมันด้วย"
"โลกิ............เจ้า"ธอร์ขึ้นเสียงกร้าวก่อนจะถอนหายใจยาวสะกดกลั้นอารมณ์ แล้วดันร่างบางติดผนังแน่นหนาจนโลกิหายใจติดขัด มือใหญ่หนาเค้นแน่นที่คอเรียวที่หากออกแรงอีกไม่มากก็อาจหักได้ พร้อมกล่าวเสียงต่ำลอดไรฟัน
"อย่าให้สตีฟรู้เรื่องนี้ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า"
เขายังไม่อยากให้สตีฟ โรเจอร์ รับรู้เรื่องนี้
เทพสายฟ้าไม่ทันได้สังเกตุความปวดร้าวที่ฉายแววออกมาจากดวงตาสีเขียว
และไม่ได้รู้เลยว่ามีดวงตาสีฟ้าใส จ้องมองจากภายในมุมมืดอยู่อย่างตกตะลึง.......................และปวดร้าวไม่แพ้กัน
TBC.
///////////////////////////////////////////////////////////////
สี่เส้าเคล้าน้ำตา(ปนหื่น)มาแว้วววว ตอนแรกเป็นของส่วน Lust คู่ Tony/Loki หรือ Loki/Tony หว่า ค่อนข้างจะร้อนแรงซักนิด
ปอลอ อยากจะบอกว่า..................เขียนไปถึงตอนสามแล้ว อย่างไว แต่จะค่อยๆเอามาแสปมนะจ๊ะ
ปอลอสอง แบบว่า.........................
เรตครบทุกคู่ (สวิงกิ้งเรอะ)//เผ่น
ปอลอสาม
แปะแฟนอาร์ต แอบสครีมคุณเฮนรี่ใน Abraham Lincoln Vampire Hunter มานิดหน่อย
นำแสดง(?)โดยป๋าโฮเวิร์ด(aka โดมินิก คูเปอร์)
ชายหนุ่มกับแว่นกันแดดช่างสุโก้ย ฮรากกกกกกกกกกกกกกกกก
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands SteveXTony ตามเคย
ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น