วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

(Fic)4:Captain Counter Back(Steve/Tony)

ตอนที่4อย่างรวดเร็วววววววว ตอนนี้เขียนไปกรี๊ดกร๊าดกัดหมอนไปพลาง
มาดูการโต้กลับของแคปกันดีกว่า

ตอนที่1: Tension:(Steve/Tony?) (Tony Part)
ตอนที่2:Round 1 (Steve/Tony) (Steve Part)
ตอนที่3:Tony hook(Steve/Tony) (Tony Part)

ตอนที่4: Captain Counter Back (Steve Part)
Rate : PG-13 เหมือนเดิม

พาร์ทนี้เป็นพาร์ทของปู่สตีฟ โรเจอร์ กัปตันอเมริกา ภาษาอาจดูลุงๆไปบ้างอย่าใส่ใจ 555

ผมลืมตาตื่นขึ้นมองแสงแรกของวันที่ลอดผ่านหน้าต่างข้างนอกแล้วยันตัวลุกขึ้นจากเตียง ไม่ต้องหันไปดูนาฬิกาก็แน่ใจได้ว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้าพอดิบพอดี

การใช้ชีวิตในแบบทหารจนเคยชินมันทำให้ผมใช้ชีวิตอย่างเป็นระบบแบบแผน ตื่นเป็นเวลา นอนเป็นเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต แต่ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตอันเป็นระเบียบของผมกำลังถูกคุกคาม................

กิจวัตรตอนเช้าของผมเริ่มด้วยการไปจ็อกกิ้งยามเช้าและเข้ายิมอีกซักครึ่งชั่วโมง

สตีฟ โรเจอร์ หรือกัปตันอเมริกา หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้วสวมเสื้อคลุมฮู้ดสำหรับจ็อกกิ้ง ก็ก้าวออกมาจากห้องนอนที่ถูกตกแต่งแบบเดียวกับเรือนพักในค่ายทหาร แล้วก็ต้องแปลกใจกับภาพเบื้องหน้า

ใครเอากระจกเงามาตั้งไว้ตรงประตูเนี่ย.....

ผมคิดพลางจ้องมองใบหน้าตรงหน้าที่เหมือนกับเขาราวกับแกะ แตกต่างกันที่ว่า รูปเงานั้นดูเรืองแสง เหมือนจะถูกประกอบกันด้วยแสงสีฟ้า และ......สวมชุดบัตเลอร์???

ก่อนที่เขาจะเรียบเรียงความคิดในสมองถูก ร่างเงานั้นก็เอ่ยออกมาด้วยสำเนียงอังกฤษว่า

"อรุณด์สวัสดิ์ครับ คุณโรเจอร์ เช้าวันนี้อากาศครึ้มฝนหากคุณต้องการออกไปวิ่งกรุณาเตรียมเสื้อคลุมกันฝนไปด้วยครับ"

ผมยืนนิ่ง........

Loading....................

"จาร์วิส?"

"ครับท่าน พร้อมรับใช้ครับ อันที่จริงผมเป็นรุ่นทดลองอัพเกรดของจาร์วิสชื่อว่า Jarvis.Mark.001 ครับ"

ผมเอามือปิดหน้า........อยากจะซัดหน้าไอ้เด็กเวรนั่นกระทันหัน

ต้นเหตุความปั่นป่วนในชีวิตผม

ในความเป็นจริงแล้ว หกเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ผมตื่นขึ้นจากก้อนน้ำแข็ง ผมก็ใช้ชีวิตปกติตามอัธภาพ แม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไปสมัยใหม่นี้เท่าไหร่นัก ผมยังใช้ชีวิตในย่านที่ผมคุ้นเคย ไปวิ่ง ไปซ้อมมวย หาเวลาไปนั่งวาดรูปยามว่างจากภารกิจได้

แต่การย้ายเข้ามาอยู่ในตึกสตาร์คนี่ถือว่าเป็น.......หายนะชัดๆ

"แล้ว จาร์วิส คุณมีอะไร"

"ท่านโทนี่........"

ผมทำหน้าผะอืดผะอม เมื่อเห็นหน้าที่เหมือนตัวเองเรียกไอ้เด็กนั้นว่า"ท่านโทนี่"

"ท่านโทนี่มีข้อความฝากถึงคุณโรเจอร์ครับ" แล้วเสียงสำเนียงอังกฤษไพเราะหูนั่นก็เปลี่ยนไปเป็น เสียงยียวนกวนประสาทสำเนียง.....โทนี่ สตาร์ค

"เฮ้ กัปตัน เป็นไง เซอร์ไพรซ์กับของเล่นใหม่ชั้นใช่มั้ยล่าาา ชั้นอัพเกรดให้จาร์วิสเแสดงภาพเสมือนจริงผ่านโฮโลแกรมที่ติดตั้งไว้ในชั้นนายล่ะ เจ๋งเป้งไปเลยใช่มั้ยล่ะ เห็นนายคิดว่าจาร์วิสเป็นคนชั้นเลยปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันทีเลย จริงๆอันนี้เป็นรุ่นMark.001.5นะ แต่ว่าชั้น...บลา บลา......."

ผมฟังบันทึกเสียงยืดยาวน้ำท่วมทุ่งของโทนี่ออกแค่นั้น(ที่เหลือผมแปลไม่ออก น่าจะไม่ใช่ภาษาอังกฤษ) ก่อนจะจบท้ายที่ว่า

"จะเปลี่ยนชุดให้จาร์วิสก็ได้ด้วยนา อาทิเช่นชุดผ้ากันเปื้อนสีชมพูเป็นต้น" ไม่ทันขาดคำ ร่างเสมือนจาร์วิสก็เปลี่ยนภาพเป็นผม.....เป็นจาร์วิสสวมผ้ากันเปื้อนระบายสีชมพู

ผมอยากจะกระโดดก้านคอใส่ภาพข้างหน้านัก ถ้าไม่ติดที่ว่าหมัดแรกที่ผมออกไปมันทะลุภาพโฮโลอะไรซักอย่างนั่นไปซะเฉยๆ ผมจึงทำได้แค่ยืนทำหน้าขมึงทึงใส่จาร์วิส

"โอเค หมดธุระแล้วใช่ไหมจาร์วิส ผมจะไปวิ่งแล้ว" วันนี้ผมคงต้องออกวิ่งรอบเมืองซักรอบสองรอบระบายอารมณ์

"นายท่านโทนี่" เอาเข้าไป ผมกัดฟันกรอด "ฝากให้คุณโรเจอร์ไปรับกลับจากไนท์คลับ The Cityด้วยครับ"

.........อีกแล้วเหรอ

"ติดต่อคุณเปปเปอร์หรือยัง" "คุณเปปเปอร์ไปติดต่อธุรกิจที่ยุโรปครับ" "แฮปปี้ล่ะ" "แฮปปี้ไปกับคุณเปปเปอร์ครับ" "แล้วดร.กับบาร์ตันล่ะ" "ไปปฏิบัติภารกิจของชีลด์ยังไม่กลับครับ" "..................."

การย้ายเข้ามาอยู่ในตึกสตาร์คนี่ถือว่าเป็น.......หายนะชัดๆ

นอกจากผมจะต้องทำหน้าที่ในฐานะกัปตันอเมริกาแล้ว ผมยังต้องทำหน้าที่เป็น.......พี่เลี้ยงเด็ก

คงจะดีกว่านี้ถ้าเป็นเด็กจริงๆ เด็กน่ารักๆ ที่ไม่ใช่เด็กเกรียนในร่างชายหนุ่มที่ชื่อ โทนี่ สตาร์ค
.
.
เอาเข้าจริง ในช่วงแรกก่อนที่ผมจะได้พบกับตัวจริงๆ เป็นๆของโทนี่ สตาร์ค ผมแอบตื่นเต้นนิดหน่อย ตรงที่จะได้พบกับลูกชายของสหายร่วมรบ โฮเวิร์ด สตาร์ค ที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาสมัยสงครามโลกครั้งที่2นั้น ว่าลูกชายของเขาจะเป็นคนอย่างไร หน้าตายังไง นิสัยจะกวนป่วนประสาทเหมือนพ่อรึเปล่า

แค่แรกพบ ผมก็ได้ประจักษ์ว่า.......ลูกไม้ลูกนี้ นอกจากหล่นไม่ไกลต้นแล้ว ยังทวีความยียวนชวนหมั่นไส้ พะไปด้วยความมั่นใจในความเกรียนทะลุต้นพ่อไปเสียอีก

คิดแล้วก็อยากจะด่าโฮเวิร์ดให้สมใจอยากว่าเลี้ยงลูกมายังไง ถ้าหมอนั่นยังไม่ขึ้นสวรรค์ไปล่ะก็นะ

แต่ในอีกแง่นึง ผมก็รู้สึกผิดนิดหน่อยต่อโทนี่..........

โทนี่มักจะกระแนะกระแหนว่าผมเป็นคนโปรดของโฮเวิร์ด หลังจากที่ผมหายสาปสูญไปในทะเลน้ำแข็ง โฮเวิร์ดก็ออกตามหาแทบพลิกทะเล......จนลืมใส่ใจกับครอบครัว และลูกชายของเขา

นี่คงจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โทนี่เติบโตมาเป็น......ผู้ใหญ่มีปัญหาแบบนี้..........แม้อีกหลายๆเหตุผลน่าจะเป็นเพราะตัวเขาเองก็เถอะ

ทำให้สุดท้ายแล้ว แม้ผมจะเหม็นเบื่อขนาดไหน ก็ต้องตามไปหิ้วตัวโทนี่ ไอ้เด็กตัวแสบนั่นกลับมาบ้านตามคำบัญชาทุกที

วันนี้ผมคงต้องเปลี่ยนไปวิ่งกับเข้ายิมตอนเย็นเสียแล้ว.......

กัปตันอเมริกาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
.

.
.
แม้แต่ฟ้าฝนก็ยังไม่เป็นใจ

ผมกลับจากปฏิบัติภารกิจ "รับตัวเด็กชายขี้เมากลับจากไนท์คลับ"พร้อมด้วยสภาพที่เปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนผมจะลืมคำเตือนที่จาร์วิสบอกว่าฝนจะตก แล้วก็ลืมหยิบโทรศัพท์มือถือสำหรับโทรเรียกรถไปด้วย

สุดท้ายผมก็ต้องเอาตัวโทนี่พาดบ่าแบกกลับบ้านตามปรกติ

ด้วยความที่ฝนตก ทั้งผมทั้งโทนี่เลยมีสภาพยับเยินไม่ต่างกัน แต่โทนี่สภาพแย่กว่านิดหน่อยเพราะผมเพิ่งไปลากเอาตัวเขาออกมาจากห้องน้ำที่เขาไปนอนแช่เหล้าแชมเปญทั้งๆที่ยังใส่ชุดสูทอยู่ ไหนจะคราบวิปครีม น้ำหวานไซรัปเปรอะเต็มตัวไปหมด ผมคาดว่าเมื่อคืนโทนี่สตาร์ค ไอรอนแมนผู้แสนเท่(ในสายตาของตัวเขาเอง) คงจะจัดปาร์ตี้สนุกสนานสุดเหวี่ยงไปหน่อย

ผมเรียกหาจาร์วิส

...............

........................

เงียบ

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เวลาจะเรียกใช้ก็ไม่มาซะงั้น

ด้วยความที่ในเวิร์คชอปของโทนี่มีแต่กองวัสดุ สายไฟ เศษเหล็ก ผมจึงคิดว่าคงไม่ดีนักถ้าผมเอาตัวเปียกๆไปเดินเพ่นพ่านในนั้นตอนนี้

ช่วยไม่ได้ก็คงต้องพาโทนี่ไปพักที่ชั้นของผมก่อน ผมหย่อนตัวโทนี่ลงบนโซฟาหนังตัวเก่าในห้องนั่งเล่น แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว
.
.

โทนี่ดูจะยังไม่สร่างเมา เขายังคงร้องงึมงำๆในคอ แต่ดูจะตัวสั่นเล็กน้อยเพราะเปียกฝน ผมเพิ่งนึกได้ว่าคงต้องถอดเสื้อนอกเปียกโชกนั่นให้เขาก่อน

เสื้อสูทสีเทาเข้มที่โชกไปด้วยน้ำฝนและกลิ่นแชมเปญถูกถอดออกอย่างลำบากลำบน

"ชุดสูทสมัยนี้ทำไมต้องตัวเล็กฟิตเปรี๊ยะขนาดนี้ด้วย" ผมคิดก่อนคลายเนคไทสีแดงสดที่คอโทนี่ออก

เหมือนจะไม่ช่วยอะไร เพราะโทนี่ดูจะยิ่งหนาวไปใหญ่ ผมเลยหยิบผ้าเช็ดตัวมาซับที่ผมและใบหน้าของโทนี่

โทนี่ลืมตาปรือๆขึ้นมองผม เหมือนเขาจะเริ่มสร่างเมาแล้วล่ะมั้ง
.
.

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตที่ล้อมรอบด้วยขนตางอนยาวนั้น กระพริบช้าๆ

หยาดน้ำที่ไหลมาจากเส้นผมสีดำเงา ไหลเรื่อยมาจรดที่ปลายเส้นขนตานั้นเป็นหยดใส.......

และไม่รู้ว่าเพราะอะไร......ผมยื่นมือออกไปเช็ดมันออก......เบาๆ
.
.

ไล่มองไปตามผิวผ้าที่เปียกโชกของเสื้อเชิ้ตไหมสีขาวเนื้อบาง........ที่หยาดน้ำฝนทำให้มันเปียกลู่แนบตัว

ปฏิกรณ์อาร์คที่อกของโทนี่ ส่องแสงสีฟ้าเรืองรองในความมืดสลัวของห้องนั่งเล่นเก่าคร่ำคร่านี้ แสงสีฟ้าอ่อนใสที่ตอนนี้ผมคิดว่า.......ผมกำลังต้องมนต์สะกดของมันอยู่

ปลายนิ้วของผมยื่นไปแตะที่ต้นกำเนิดแสงนั่นอย่างลืมตัว
.
.

โทนี่ สตาร์คปรือตาง่วงงุนแล้วยันตัวขึ้นมามองตาผม ดวงตาสีน้ำตาลที่ดูราวกับน้ำผึ้งที่หอมหวานนั้นฉายแววเชื้อเชิญ

มือของเขาเริ่มสัมผัสที่แผงอกของผม ไล้เรื่อยไปถึงแผ่นหลัง แล้วสวมกอด........

โทนี่ซบหน้าลงในอ้อมกอดผมอย่างแผ่วเบา

ผมรู้สึกว่าความร้อนบางอย่างในตัวมันกำลังจะคุกกรุ่นขึ้นมา
.
.
.
.
.
.
.
ถ้าไม่ใช่เพราะว่า......

ริมฝีปากเรียวบางนั้น เอ่ยขึ้นมาอย่างเบาๆว่า...................
.
.
.
.
"ซอนญ่าคนสวยจ๋าาาาาาาาา อกอึ๋มไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยนะจ๊าาาาาาาาาาา"

ด้วยน้ำเสียงของคนเมาเหล้า หร้อมทั้งฟัดกล้ามอกผมอย่างหมั่นเขี้ยว
.
.
.

แล้วเสียงกำปั้นกระทบกระโหลกก็ดังก้องทำลายความเงียบ

".........เกือบไปแล้ว"
กัปตันอเมริกาพูดด้วยน้ำเสียงสยองขวัญ

หลังจากโทนี่ สตาร์คแน่นิ่งไป คุณปู่ก็มานั่งเรียบเรียงความคิดอย่างอกสั่นขวัญแขวน

นี่คือมุกใหม่ของโทนี่ สตาร์ครึไง ไอ้เด็กบ้านี่ยังไม่เลิกเรื่องจะพราก......เอ่อ เรื่องจะทำให้ผมเสียซิงอีกหรือไงเนี่ย

ซึ่งถ้าจริงผมคงต้องมอบโล่......ถ้าจะเอาให้สมกันก็ต้องโล่ไวเบรเนี่ยมทีเดียว กับความมุมานะของโทนี่ในการจะทำให้ผมมีครั้งแรก

เพราะจริงๆที่ผ่านมาจากตอนนั้นเกือบเดือนแล้ว โทนี่มีแผนรายวันสารพัดที่จะทำให้ผมหลงกล ทั้งขังผมไว้ในบาร์ท็อปเลส เรียกสาวๆมาปาร์ตี้เปลือยกันในยิมของผมโดยไม่บอกล่วงหน้า หรือจะให้สาวใช้แสนเซ็กซี่ที่จริงๆเป้นนางแบบสาวใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวมาปลุกถึงที่นอน

ยังไม่รวมกับคราวนั้นที่เอายาแปลกๆมาให้ผมกิน

ดีที่ร่างกายผมมีเซรุ่มซูเปอร์โซลเดอร์มันเลยไม่ออกผลมากนัก......แต่ผมก็ต้องไปชกกระสอบทราย.....ทั้งคืน และไม่กล้ารับเครื่องดื่มจากมือโทนี่ไปพักใหญ่

แต่คราวนี้นี่มันดูจะหนักข้อเกินไปแล้ว

ถ้าเป็นลูกหลานจริงล่ะผมมีหวังตีก้นลาย

ไม่ก็จับไปเข้าค่ายทหารฤดูร้อน ดัดนิสัยซะให้เข็ด
.
.

เดี๋ยวสิ ค่ายทหารเหรอ
.
.

กัปตัน อเมริกา ผู้เชียวชาญทางด้านยุทธศาสตร์การทหาร ผุดยิ้มเจ้าเล่ห์......ที่นานๆทีจะมีครั้งขึ้นมา
แล้วหยิบหยิบโทรศัพท์มือถือกดหาฟิวรี่ ผู้บัญชาการหน่วยชีลด์

ขออวดนิดหน่อยว่าตอนนี้ผมใช้โทรศัพท์มือถือได้แล้ว โทนี่จัดหาโทรศัพท์รุ่น R'ma มาให้ผม มันใช้ยากนิดหน่อย แต่ผมก็พอใช้มันโทรหาคนอื่นได้ แถมมันยังมีชื่อฟังดูออกแนวเข้มแข็งเหมือน Army อะไรประมาณนี้ด้วย (แต่ผมก็ไม่เข้าใจทำไมโทนี่ถึงต้องหัวเราะงอหายตอนเอามือถือนี้มาให้ผม?)

เอาล่ะ นอกเรื่องไปหน่อย

ผมโทรคุยกับฟิวรี่ ว่าขอลาหยุดซัก1สัปดาห์

ฟิวรี่หัวเราะหึๆในคอมาเมื่อผมแจ้งเป้าหมายของการลาหยุดครั้งนี้

"ผมจะพาเด็กชายโทนี่ไปเข้าค่ายฤดูร้อนดัดนิสัยซักหน่อย"

"ขอให้สนุกนะกัปตัน" ฟิวรี่ทิ้งท้ายไว้

TBC.

///////////////////////////////////////////////////////////////

กัปตันคนดีศอกกลับ เกมพลิกซะแล้ววววว โทนี่จะโดนกระทำย่ำยี......เอ๊ะ กระทำการอันใดบ้างต้องติดตามตอนต่อไป

แอบใส่จาร์วิสภาค Ai ไว้ด้วย เพราะเห็นภาพแฟนอาร์ตของสายJarvis/Tony แล้ว จาร์วิสเหมือนร่างอวตารปู่แคปมากกก


ส่วนอันนี้ความเวิ่นเว้อของจขบ. แคปin Uniform กับ Jarvis in Suit =.,=


จริงๆต้องผมทองสินะ 5555


ปอลอ
เผื่อมีใครไม่เก็ต R'ma


มันคือ.......โทรศัพท์รุ่น อาม่า
เหมาะกับปู่แคปยิ่งนัก 5555

///////////////////////////////////////////////////////////////

ฝากเพจSuperhusbands  SteveXTony ตามเคย

ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น