วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

(NC17++Fic)Bittersweet Honey(Dark Steve/Tony)

วันนี้อัพบล็อคด้วยฟิกหื่นเศร้าดาร์คAngst เชือดเฉือนเสียดแทงป๋าให้สาแก่ใจ


ป๋า//ฟิกนั้นแก Cockblockชั้นแล้วฟิกนี้แกยังมาทำร้ายชั้นอีกเรอะ//ยิงเจอริโค่ใส่

ฟิกนี้ได้มาจากการไปตามสโตรคอ่านฟิกอิ๊งในhttp://archiveofourown.orgที่เดิมน่ะแหล่ะแล้วไปเจอความดาร์คของสตีฟในแง่มุมที่ไม่เคยเห็น//มันแซ่บเมิกกก แถมยังได้ไอเดียว่าถ้าหากว่าก่อนหน้าการพบกันที่แสนจะขัดแย้งกันของป๋าปู่ที่ชีลด์ ทั้งสองคนเคยมีซัมติงรองลึกซึ้งกันมาก่อนล่ะ? สิ่งนั้นมันน่าจะไขปริศนาของ Sexual tension ทั้งหลายทั้งปวงได้แบบเคลียร์ๆ รวมไปถึงทำไมว่าทั้งสองต้องปะทะคารมกันด้วยถ้อยคำที่แสนจะเผ็ดร้อนขนาดนั้นด้วยยย


ไหนจะฉากนี้


ดูสายตานั่นซิแล้วบอกมาว่าระหว่างเราไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ฮรากกกกกกก

ปอลอ เตือนไว้ก่อนว่าฟิกนี้ดาร์ค Angst เศร้า และเนื้อหาค่อนข้างหนักไปทางเรต18++++อย่างแรง

///////////////////////////////////////////////////////////////

Title : Bittersweet Honey

Rate : NC17

Genre : Sad/Angst/Dark/Violent/Hate-sex

Pairing: Steve/Tony

Vers: Avengers Movie vers.

I gonna hurt you like you hurt me, Tony

แอบไปวาดแฟนอาร์ตมาอย่างไว วิฮิ้ววว

//////////////////////////////////////////////

สิ่งแรกที่คนอื่นมักเข้าใจในตัวเขาผิด เขาไม่ได้ซื่อใส ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ประสบการณ์อย่างที่ใครๆเอาไปใช้ล้อเล่นอย่างขำขัน

ตรงกันข้ามเขารู้ว่าในตัวเขามีสัตว์ร้ายที่โหดเหี้ยมดุดัน จ้องจะกลืนกินเขาให้จมลงไปในห้วงดำมืดแห่งตัณหา

ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหลังจากค่ำคืนนั้น...ช่วงเวลานั้น กับเจ้าของดวงตาสีน้ำผึ้งหอมหวานเย้ายวน......ผู้ที่เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อ

ในห้องอพาร์ทเมนต์ของเขาที่แสงจันทร์สาดส่องเข้ามากระทบกับเรือนร่างบางที่ทอดกายบนโซฟาเก่าคร่ำคร่า ชายหนุ่มผมสีเข้มหอบหายใจสั่นเมื่อเขาขบเม้มคางที่มีไรเคราเบาบางนั้น

นิ้วมือเรียวที่ปลดเปลื้องเนคไทออกจากปกเสื้อเนื้อดีของตนอย่างช้าๆ เผยให้เห็นผิวสีแทนสวย

ดวงตาสีเข้มที่ชุ่มเยิ้มใต้แพขนตายาวหนา สีน้ำตาลที่คุกครุ่นไปด้วยไฟปรารถนา เมื่อริมฝีปากนุ่มนั้นทาบทับลงมาบนความแข็งแกร่งของเขา

เสียงพร่าที่ครวญครางไม่เป็นศัพท์อยู่ข้างหู ความร้อนรุ่มที่รัดแน่นจนทำให้เขาคลั่ง แรงกดกรีดเล็บบนแผ่นหลังเมื่อร่างเล็กนั้นทนทานต่อไปไม่ไหว

และกลิ่นกายที่หอมหวานลึกล้ำ ร้อนเร่าเหมือนน้ำผึ้งที่เดือดพล่าน เขาลิ้มรสมันราวกับเป็นยาเสพติด

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตามมาหลอกหลอนเขาในความฝันทุกคืน เมื่อเช้าวันนั้น อีกฝ่ายจากไปโดยไม่ได้ร่ำลา

ไม่ได้ทิ้งไว้แม้แต่ชื่อหรือสิ่งใดที่ทำให้เชื่อว่า ความสัมพันธ์ครั้งแรกของเขาในคืนที่ผ่านมาเป็นเรื่องจริง

ภาพเรือนร่างในแสงสลัวนั้นยังคงเย้ายวนให้เขาโหยหา แผดเผาตัวเองด้วยความต้องการ และเฝ้ามองหาคนผู้นั้นแม้จะคิดว่าสิ้นหวังก็ตาม

แต่ในที่สุด เขาก็ได้พบกับเจ้าของภาพฝันนั้นอีกครั้ง.............แต่ไม่ใช่ในแบบที่เขาคิดไว้ จากในไฟล์ประวัติที่นิค ฟิวรี่มอบให้

ชายหนุ่มตาสีน้ำผึ้งผู้มีชื่อว่า แอนโธนี่ เอ็ดวาร์ด สตาร์ค หรือไอรอนแมน

......................................

การพบกันอีกครั้งที่ทำให้เขาต้องตกสู่ความมืดดำของความโกรธแค้นและสิ้นหวัง เมื่อชายผู้นั้นมองเขาอย่างเฉยเมยเย็นชา ภายใต้สีหน้าของอัจฉริยะเพลย์บอยมหาเศรษฐีที่พบเจอกัปตันอเมริกาเป็นครั้งแรกและไม่น่าสนใจนัก

สตีฟ โรเจอร์นิ่งอึ้งกับความจริงว่าอีกฝ่ายนั้นมีความสัมพันธ์ไปทั่วโดยไม่ได้ใส่ใจจะจดจำ สายตาที่สบกันว่างเปล่าราวกับว่าสัมผัสของร่างกายแนบแน่นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ความแสบร้อนในอกทำให้เขาอยากจะเข้าไปฉุดกระชากใบหน้านั่นมาจ้องมองตรงที่ดวงตา อยากจะกอดกดร่างบางนั้นแล้วถามว่าค่ำคืนนั้นไม่มีความหมายอะไรกับเขาเลยใช่ไหม

แต่เขาก็ไม่ทำอะไรลงไป ตรงกันข้าม เขาซ่อนไฟโทสะไว้ภายใต้ภาพลักษณ์สงบนิ่งของกัปตันอเมริกาแล้วตอบโต้กลับไปด้วยความเย็นชา ดวงตาสีฟ้ากร้าวสบตาก่อนกล่าวทัก

"มิสเตอร์ สตาร์ค?...........ในที่สุดก็ได้พบกัน" เสียงนุ่มเรียบแฝงแววเชือดเฉือนเน้นความหมายเหมือนไม่เคยพบเจอกัน

อะไรบางอย่างในแววตาวูบไหวทำให้เขาได้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจดจำเขาได้......เพียงแค่แวบเดียวก่อนจะกลายเป็นความเย็นชาที่ยิ้มเยาะใส่

ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดจนด้านชา สิ้นหวัง หมดค่า และทำให้สตีฟ โรเจอร์ตัดสินใจว่า เขาจะต้องทำให้เจ้าของดวงตานั้นเจ็บปวดเช่นเดียวกันกับที่เขาได้รับ

......................................

แม้เวลาจากนั้นจะผ่านมายาวนาน ผ่านหลายเหตุการณ์ทั้งการรวมตัวสู้ของเอวนเจอร์ในแมนฮัตตั้น ผ่านสิ่งที่ทำให้เขาเกือบจะล้มเลิกแผนการณ์ทั้งหมดลงแล้วโอบกอดร่างนั้นมาไว้ในอ้อมกอด

ไม่ว่าจะเป็นเมื่อนิ้วเรียวนั้นสัมผัสที่ไหล่ระหว่างการโต้เถียงรุนแรงบนเฮลิคาริเออร์นั่นด้วยต้องการจะให้เขาผ่อนความตึงเครียดลง

สตีฟพยายามไม่นึกถึงความอบอุ่นที่โหยหาก่อนที่จะปัดทิ้งแล้วตอบโต้กลับไปด้วยคำพูดเจ็บแสบ

"คุณรุ้ดีว่าทำไม!หลีกไป"

ดวงตาปวดร้าวที่ฉายแววแจ่มชัดเมื่อเขาถามโทนี่ตรงๆต่อหน้าว่า "ถอดชุดนั้นแล้วคุณจะเป็นอะไรได้" ..........ในเมื่อเขารู้จักร่างกายนั้นทั้งหมดแล้วทุกอย่าง

ก่อนที่โทนี่จะหลบตา ปกปิดมันไว้ภายใต้แววตาแข็งกร้าวแล้วตอบกลับด้วยท่าทางอวดดี

"ก็อัจฉริยะเพลย์บอยมหาเศรษฐีผู้ใจบุญไง"

.
.
.
แม้ในเวลาที่หัวใจเขาบีบเค้นจนเจ็บเมื่อมองเห็นร่างของไอรอนแมนร่วงหล่นลงมาจากฟ้า หลังเสร็จสิ้นภารกิจฆ่าตัวตายด้วยการนำขีปนาวุธผ่านเข้าประตูมิติไปถล่มกองทัพชิทอรี่

และมันแทบหยุดเต้นเมื่อร่างในชุดเหล็กกล้านั้นหยุดหายใจ มือของเขาที่ลูบไล่บนปฏิกรณ์อาร์คอย่างสิ้นหวังสัมผัสไม่ได้ถึงจังหวะการเต้นของชีพจร

ทิฐิและความแค้นทั้งหมดของเขาแทบพังทลายลงตรงนั้น วูบหนึ่งของความคิดว่าจะสูญเสียสิ่งที่เขาได้ค้นพบในที่สุด แม้จะขมขื่นด้วยแรงแค้น แต่โทนี่ก็เป็นตัวตนเดียวที่ยึดเหนี่ยวเขาไว้กับโลกที่ไม่คุ้นเคยใบนี้

เขากำลังจะสูญเสียโทนี่ที่เขารักไปอีกครั้ง

แต่มันก็ยังไม่เกิดขึ้น เขายังปกปิดรอยยิ้มอย่างลืมตัวที่เห็นชายผู้นั้นลืมตาฟื้นขึ้นมาไว้ได้ เมื่อจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลนั้นแล้วยังแสบร้อนด้วยเพลิงแค้นภายใน

เขายังยอมแพ้ตัวเองไม่ได้.....จนกว่าเขาจะได้ทำให้โทนี่เจ็บปวดยิ่งกว่า

......................................

วันเวลาผ่านไปรวดเร็ว พร้อมบาดแผลที่ต่างคนต่างทำร้ายกันและกันทางร่างกายและจิตใจ ผ่านวาจา สายตาที่เชือดเฉือนกันอย่างแสบร้อน

ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะได้มาอยู่ที่สตาร์คทาวเวอร์ในฐานะทีมอเวนเจอร์แล้วก็ตาม แต่ความตึงเครียด ความขัดแย้งทุกอย่างก็ยังไม่ต่างไปจากเดิม

ไม่มีวันไหนที่เขากับโทนี่จะไม่โต้เถียง ไม่ต่อสู้กัน และมันยิ่งเลวร้ายขึ้นเมื่อทั้งสองไม่เคยมีเวลาที่อยู่ในที่เดียวกันได้แม้ชั่วนาที นอกจากปฏิบัติการในทีมที่พวกเขาพยายามสะกดกลั้นทำงานร่วมกันให้ผ่านพ้นไปอย่างตึงเครียด

ถ้าโทนี่กลับมา สตีฟก็จะออกไป ถ้าสตีฟอยู่ในห้องนั่งเล่น โทนี่ก็จะหลบไปห้องแล็ป ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตหลบเลี่ยงกันและกันมาตลอด จนกระทั่งวันนี้

ดวงตาที่จ้องมองเบื้องหลังที่ทำให้เขาจิตใจร้อนรุ่มไม่สงบ โทนี่นิ่งเงียบอยู่นานจนเขาทนไม่ไหว สตีฟ โรเจอร์ละสายตาจากกระสอบทรายตรงหน้าแล้วหันไปมองด้วยดวงตาแข็งกร้าว

"มีอะไร" เสียงที่แทบจะเหมือนตะคอกหลุดจากปากเขาไปอย่างไม่รู้ตัว

โทนี่นิ่งไปชั่วครู่ด้วยความเครียดขึ้งในบรรยากาศ

"เราต้องคุยกัน ตามชั้นมาที่เวิร์คชอป"  ร่างเล็กกล่าวเสียงเหมือนออกคำสั่งทำให้สตีฟขมวดคิ้วอย่างขัดเคือง

"ผมไม่มีเรื่องต้องคุยกับคุณ" ร่างสูงตอบพร้อมเก็บของตรียมเดินออกไปเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนไม่ยอมออกจากห้องยิม

"เรื่องงาน" โทนี่จ้องกลับด้วยความเจ็บปวดสะท้อนในดวงตาที่ทำให้สตีฟต้องหลบสายตาก่อนที่หัวใจจะสั่นไหว "ของชีลด์"

เขาได้แต่มองไปทางอื่นเพื่อผ่อนคลายความร้อนรุ่มที่เผาภายใน เปลวเพลิงที่แยกออกได้ยากระหว่างความรักและความแค้น

"โอเค" สตีฟกล่าวเสียงรอดไรฟัน

ร่างเล็กหยุดเงียบชั่วครู่ก่อนหันหลังเดินจากไป แผ่นหลังบอบบางและคอดเอวสวยงามนั้นดึงภาพค่ำคืนเร่าร้อนนั้นมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง

..............คุณต้องทำร้ายผมอีกเท่าไหร่ คุณถึงจะพอ

และผมต้องทำร้ายคุณกลับอีกแค่ไหนถึงจะหยุดความร้อนรุ่มในอกนี้ลงได้................

เสียงก้าวเท้าลงบันไดเหล็กที่ทอดยาวลงสู่ห้องใต้ดินขนาดใหญ่ของสตาร์คทาวเวอร์ สตีฟไม่มีโอกาสได้ลงมาข้างล่างนี้บ่อยนัก เพราะบรรยากาศที่อวลฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายของโทนี่ทำให้เขาอาจอดทนไว้ไม่ได้

ร่างสูงยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้าเวิร์คช็อปที่โทนี่หันหลังพิงโต๊ะเหล็กที่ระเกะระกะด้วยอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ ชายหนุ่มร่างเล็กเงยหน้าขึ้นสบตาเขาด้วยท่าทางไม่มั่นใจ ดวงตาสีน้ำตาลนั้นมองเขาลอดผ่านแพขนตาที่กระพริบไหว

และทำให้หัวใจของเขาบีบตัวอย่างบ้าคลั่ง เสียงแข็งกร้าวของเขาทำลายความเงียบรอบกายด้วยต้องการกลบทับเสียงนั้น

"คุณจะคุยเรื่องอะไร"

"นายรู้ดีอยู่ว่าเรื่องอะไร" โทนี่กล่าวเสียงเบา ก่อนสบตาเขากลับด้วยแววตาวูบไหว

"เราคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ สตีฟ ต้องจบเรื่องนี้ก่อนที่มันจะทำลายทั้งนาย ชั้น อเวนเจอร์และความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคน"

"ความสัมพันธ์งั้นเหรอ?" สตีฟหายใจแรงด้วยความโกรธที่ปะทุภายในอก "ผมกับคุณเคยมีความสัมพันธ์อะไรกันด้วยงั้นเหรอ"

"สตีฟ....เรื่องนั้น" คำพูดของเขายิ่งเหมือนเชื้อเพลิงที่สุมลงในใจ ทั้งๆที่รู้ ทั้งๆที่จำได้แต่โทนี่ยังทำร้ายเขาให้เจ็บขนาดนี้

และแม้ว่าเขาจะพยายามสะกดคำพูดที่ออกมาด้วยความพลุ่งพล่านนั้นไว้แต่มันก็พรั่งพรูออกมาอย่างกลั้นไม่ได้

"เรื่องไหนเหรอ โทนี่สตาร์ค เรื่องที่คุณทำเหมือนผมเป็นไอ้งั่งที่ถูกทิ้งให้บ้าไปเองฝ่ายเดียว เรื่องที่คุณทำให้ผมต้องทรมานทุกครั้งเมื่อคิดถึงคุณในแบบนั้น  เรื่องที่คืนนั้นไม่มีความหมายอะไรกับคุณงั้นเหรอ โทนี่!!!"

"ไม่เคยมีเรื่องนั้น..... ระหว่างผมกับคุณไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น " เขาสิ้นสุดคำพูดด้วยเสียงแหบพร่า ความร้อนในอกที่แผดเผาทำให้เขาหายใจไม่ออก

"ใช่....มันก็แค่วันไนท์แสตนด์" โทนี่กล่าวพร้อมยักไหล่ แต่น้ำเสียงแปร่งปร่านั้นทำให้เขาต้องก้าวเท้าเดินเข้าไปหา

สีน้ำผึ้งหอมหวนที่เคลือบคลอด้วยน้ำตานั้นสบตาเขาด้วยแววตารวดร้าว.............ยิ่งทำให้เขาแค้นเคืองที่อีกฝ่ายทำราวกับว่าโดนทำร้ายทั้งที่โทนี่เองเป็นฝ่ายกระทำ

"ก็แค่คนที่ผ่านมาร่วมเตียงกับนายแค่นั้น "โทนี่แค่นหัวเราะ "ระดับนายคงไม่จดจำชั้นไว้ในสมองได้นานกว่าสองวันหรอก"

"หุบปาก โทนี่ คุณไม่รู้หรอกว่าผมเป็นยังไงตั้งแต่ตอนนั้น ผมไม่ลืม ไม่เคยลืม" สตีฟกล่าวเสียงรอดไรฟัน "ไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงเมื่อเจอหน้าคุณอีกครั้งแล้วกลายเป็นคุณที่ไม่รู้จักผม"

"นายก็ไม่รู้หรอกว่าชั้นรู้สึกยังไง" โทนี่ตวาดเสียงพร่า สาวเท้าเดินเข้ามายึดคอเสื้อร่างสูงไว้ด้วยมือสั่นเทา

"นายคือกัปตันอเมริกา และชั้นคือโทนี่ สตาร์ค แค่ลูกชายของคนที่ยกย่องเทิดทูนนายเป็นพระเจ้า ลูกของพ่อบ้าๆที่เลี้ยงชั้นมาด้วยการกรอกหูว่าชั้นไม่มีทางทำอะไรได้ดีไปกว่านาย"

"ชั้นหลอกนาย รู้มาก่อนแล้วว่านายคือกัปตันอเมริกา ชั้นอยากทำร้ายคนที่พ่อชั้นหลงใหลจนทำลายครอบครัวตัวเอง อยากปั่นหัวนาย ทำให้นายเป็นไอ้โง่" ดวงตาสีเข้มเบิกโพลงด้วยความโกรธเมื่อชายตาสีฟ้าเหวี่ยงตัวเขาเข้าปะทะกับผนังคอนกรีต

"แล้วสมใจคุณมั้ยล่ะ ผมกลายเป็นไอ้งี่เง่าที่ถูกคุณทำให้เป็นบ้า ในสมองมีแต่คุณ เรื่องคุณ กับไอ้ภาพบ้าๆของคุณที่ทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมาทุกคืน" สตีฟดันตัวชายร่างเล็กแนบแน่นด้วยความโกรธแค้น ไอร้อนจากแรงอารมณ์พุ่งพล่านระหว่างทั้งสองร่าง

"ผมกลายเป็นฝ่ายที่โง่หลงรักคุณ โทนี่" สตีฟ โรเจอร์กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด ความสิ้นหวังที่ฉายออกมาทางดวงตาสีฟ้านั้นทำให้โทนี่ทรุดตัวลงด้วยใบหน้าที่เจียนจะร่ำไห้

"ชั้นก็โง่กว่าที่ตกหลุมของตัวเอง............" โทนี่กล่าวเสียงเบา

"ชั้นทำให้นายเจ็บมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ"ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้แค่ลมหายใจ แล้วยืดตัวขึ้นแนบปากบางเข้าประกบเรียวปากหนาที่สั่นไหว

ริมฝีปากนิ่มนวลเจือกลิ่นกาแฟบางเบาที่เขาโหยหา เรียวลิ้นร้อนรุ่มที่แทรกผ่านกลีบปากเข้าพัวพันนั้นคล้ายจะผลักเขาให้ตกสู่ห้วงปรารถนามืดมิดไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานเหมือนน้ำผึ้งที่เย้ายวนให้เสพติด มันคือจูบของโทนี่ที่ทำให้เขาบ้าคลั่งตลอดเวลาผ่านมานี้

แต่เพลิงแค้นที่ร้อนรุ่มทำให้เขาต้องฉุดตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง สตีฟขบฟันลงบนเรียวปากบางรุนแรงจนเลือดออก

"ผมเจ็บมากกว่านั้นหลายเท่า โทนี่..." แล้วไล้ลิ้นชิมรสขมเฝื่อนนั้นจากปากเรื่อเลือดจางนั้นอย่างเชื่องช้า โทนี่ข่มความเจ็บปวดไว้ก่อนกล่าวเสียงสั่นเครือ

"งั้นนายก็ทำให้ชั้นเจ็บจนกว่านายจะพอใจ" ดวงตาสีน้ำตาลมืดมิดด้วยความปรารถนาปรือขึ้นสบตาเขาอย่างเว้าวอน

สตีฟตอบโต้คำร้องขอด้วยการกดแนบร่างบางเข้าด้วยแรงที่มากพอจะทำให้เจ็บปวด โทนี่ร้องครางครวญเมื่อเรียวขาถูกเบียดให้อ้ากว้างด้วยต้นขาแข็งแรง เรียวปากหนาลิ้มรสหอมหวานจากชายร่างเล็กอย่างหิวกระหาย

"ถอดออก โทนี่" เสียงเข้มกร้าวสั่งให้โทนี่ปลดเปลื้องเสื้อเชิ้ตผ้าไหมที่สวมใส่อยู่ มือเรียวค่อยๆปลดกระดุมอย่างเชื่องช้าด้วยปลายนิ้วสั่นเทา

แต่ช้าเกินไปสำหรับเขา เมื่อมันถูกกระชากทิ้งด้วยนิ้วแกร่งที่เร่งร้อนจนรอไม่ไหว เสียงกระดุมราคาแพงร่วงกระทบพื้นกราวก่อนที่จะตามไปด้วยกางเกงแสล็คที่ถูกทึ้งออกอย่างไม่ใยดี

ร่างเปลือยเปล่าปรากฏใต้แสงอ่อนเรื่อสีฟ้า สาดส่องให้เห็นทุกสิ่งของโทนี่ ทุกอย่างที่เขาเฝ้าฝันหา ผิวสีบรอนซ์เย้ายวนให้ลูบไล้ ทั้งยอดอกสีเรื่อน่าลิ้มลองและกล้ามเนื้อที่งดงามราวปฏิมากรรม

โทนี่ที่ถูกเขายกตัวขึ้นมาไว้บนต้นขา ขยับกายบิดส่ายด้วยร้อนรุ่มจากความแข็งเกร็งที่สัมผัสใต้กางเกงเนื้อหนาของอีกฝ่าย สะโพกสวยขยับเคลื่อนไหวครวญครางอย่างลืมตัว

"สตีฟ ได้โปรด....."

ร่างสูงขบเม้มที่ปลายสีเรื่ออย่างเชื่องช้าก่อนเลื่อนไล้จูบรุนแรงมาตามแนวต้นคอ ทิ้งรอยแดงช้ำเรื่อเลือดไว้เป็นทางยาว สตีฟถามเสียงนุ่มเมื่อร่างเล็กครางเสียงแผ่วเมื่อเขาไซ้ซอนซอกคอ "คุณต้องการอะไร โทนี่"

เสียงแหบโหยร้องขออย่างไร้แรงต่อต้าน "สัมผัส...สัมผัสชั้นที"

"ตรงนี้? "นิ้วแกร่งไล้เรื่อยตามผิวเนื้ออย่างยั่วเย้า มือหนาสัมผัสแผ่นอกสั่นไหว ปลายนิ้วไล้ล้อปลายยอดอกจนโทนี่หอบหายใจถี่ ลากผ่านลงมาถึงหน้าท้องเรียบเนียน แล้วโอบอุ้มส่วนแข็งขืนของเขาไว้ด้วยฝ่ามือร้อน

"หรือตรงนี้? "โทนี่ส่งเสียงครวญในลำคอเมื่อสัมผัสมือนั้นกอบกุมรอบก่อนขยับไหว เร่งร้อน รุนแรงจนส่วนปลายนั้นเปียกชุ่ม ร่างเล็กเกร็งตัวเมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุด แต่มือนั้นกลับหยุดแล้วบีบรัดไม่ให้เขาได้ปลดปล่อย

ร่างสูงยิ้มหม่นก่อนกระซิบแผ่วที่ข้างหู "ยังก่อน..... คุณยังไม่เจ็บปวดพอ"

โทนี่ได้แต่ส่งเสียงครางอือในลำคอคล้ายสะอื้นไห้ สะโพกสวยสั่นไหวเมื่อนิ้วแกร่งรุกล้ำเตรียมความพร้อม ความแข็งเกร็งใต้ร่างกายยิ่งเสียดสีจนร้อนรุม สมองพร่าเบลอเจียนคลั่งด้วยความปรารถนา

"ผมจะทำร้ายคุณ โทนี่....."สตีฟเสียงแหบห้าวก่อนจะปลดเปลื้องความแข็งขืนของตนออกมา แล้วผลักดันมันลงสู่ช่องทางร้อนรุ่มในตัวโทนี่

ยังเร็วเกินกว่าที่ร่างบางจะลื่นไหลจนพร้อมรับ ความแสบร้อนจากการสอดแทรกอย่างรุนแรงทำให้โทนี่ต้องหลั่งน้ำตา ริมฝีปากอ้ากว้างส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวด

"ฮึก...อา........เจ็บ............." สีน้ำผึ้งภายใต้แพขนตาเปียกชื้นนั้นคล้ายวิงวอนให้เขากรุณา แต่เบื้องล่างที่ร้อนรุ่มและตอดรัดนั้นฉุดรั้งพาให้เขาตกลงสู่ห้วงตัณหาอันมืดมิด

สตีฟยันกายเร่งเร้าเข้าเสียดสี ความคับแน่นจนอึดอัดนั้นกระตุ้นให้เขาเพิ่มแรงกระทำ เสียงครางครือฟังไม่ได้ศัพท์ยิ่งเร่งเร้าจังหวะให้ยิ่งรุนแรง

"คุณไม่รู้ว่าผมต้องการคุณแค่ไหน ภาพของคุณ เสียงของคุณ แม้แต่กลิ่นอายของคุณมันทำให้ผมแทบบ้า คุณไม่เคยรู้หรอกว่าทุกครั้งที่เจอหน้าคุณผมต้องบังคับตัวเองแค่ไหน" สตีฟกล่าวเสียงพร่าอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อดวงตาสีเข้มนั้นจ้องมองมาที่เขา

"แล้ว นายก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าชั้นรู้สึกยังไงที่ต้องเดินจากนายมาในเช้าวัน นั้น.....และครั้งแรกที่พบกันชั้นต้องทำตัวเหมือนไม่รู้จักนาย"เรียวปากบาง สั่นไหวกล่าวเสียงสั่น ความสิ้นหวังที่สื่อมาในนั้นทำให้หัวใจสตีฟหล่นวูบ

"นายไม่รู้ว่าคนที่ต้องทำร้ายนายเจ็บปวดขนาดไหน"หยดน้ำใสที่เกาะอยู่ปลายขนตายาวเริ่มร่วงหล่นเมื่อโทนี่หรุบตาลงหอบหายใจ

ดวงตาสีฟ้ามองใบหน้ามืดหม่นด้วยไฟปรารถนาของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น มองเรือนร่างบางสั่นไหวสะท้านไปตามแรงกระทั้นที่ส่งผ่านแก่นกลางกาย เรียวขาเพรียวที่โอบรอบเอวเขาแน่นราวกลัวจะแหลกสลายไปจากแรงสั่นสะเทือน

ชายตาสีน้ำผึ้งที่เขาโหยหาได้มาอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง ริมฝีปากนุ่มที่ชวนให้ลิ้มลอง ดวงตาที่ทอประกายใต้แพขนตาหนา เสียงหวานที่หอบพร่าอยู่ข้างหู และความคับแน่นที่โอบรัดเบื้องล่างราวกับว่าเขาคือทุกสิ่งที่โทนี่ต้องการ

เปลี่ยนเปลวเพลิงร้อนที่เผาผลาญใจเขาให้กลายเป็นความหอมหวานที่ร้อนเร่า...............ราวกับน้ำหวานที่เดือดพล่าน

ปลายนิ้วมือขยับเร้าเร่งให้ร่างบางครางโหยผ่านริมฝีปากที่พัวพัน เรียวลิ้นปลุกปั่นให้อารมณ์เร่าร้อน เร่งกระชั้น ทั้งสองต่างรู้ว่าจวนเจียนจะทนได้อีกไม่นานเท่าไหร่

มากเกินไปแต่ไม่เพียงพอ สุดขอบของความกระสันที่ร่างสูงปลุกปั่นให้อีกฝ่ายคลุ้มคลั่ง โทนี่บิดตัวด้วยความทรมานระหว่างความต้องการสิ้นสุดกับความต้องการให้ดำเนินต่อ

"ส..สตีฟ..........ชั้นจะ...อ๊ะ" โทนี่เรียกชื่อเขาก่อนจะปลดปล่อยตัวเองออกมาพร้อมเสียงครวญครางกระเส่า ของเหลวขาวขุ่นที่ออกมาไหลหยดลงสู่ช่องทางที่ร่างทั้งสองสอดเกี่ยวกัน

และนั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาระเบิดความต้องการของตนออกมาเช่นกัน สตีฟกัดฟันส่งเสียงเมื่อแรงกระทั้นสุดท้ายที่ความร้อนเร่านั้นถูกฉีดพล่านเข้าสู่ภายใน

ร่างบางร้องครางเบาเมื่ออีกฝ่ายถอดถอนตัวเองอย่างช้าๆ ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ปรือตามองอย่างเหนื่อยล้า เสียงหายใจแรงของทั้งคู่ยังดังก้องสะท้อนผนังคอนกรีตกว้าง

"ผมยังแค้นคุณอยู่นะ...โทนี่" สตีฟเสียงขาดห้วงเมื่อพยายามหอบหายใจ

โทนี่คล้ายจะพยายามยิ้มยั่วด้วยใบหน้าที่ไร้เรี่ยวแรง "ขอพักก่อนต่ออีกรอบแล้วกันนะ....กัปตัน"

สตีฟฉุดดึงร่างเล็กเข้ามาไว้ในวงแขน  อ้อมกอดกระชับแน่นจนเจ็บก่อนกล่าวเสียงเข้มออกคำสั่ง

"อย่าหนีไปไหนอีกนะ" แต่ร่างสูงนั้นสั่นไหวราวกับเป็นคำขอร้องวิงวอนเสียมากกว่า โทนี่เงยหน้าขึ้นมองตาสีฟ้านั้นเนิ่นนานก่อนกล่าวว่า"ไม่อีกแล้ว.....สตีฟ"

พร้อมเรียวปากนุ่มที่ประกบแนบแน่น ล้ำลึกราวกับย้ำคำสัญญา รสหอมหวานเหมือนน้ำผึ้งเย้ายวนราวยาเสพติดที่ทำให้เขาต้องพ่ายแพ้ลงอีกครั้ง

END.


///////////////////////////////////////////////////////////////

พร้อมเพลงประกอบ.....จริงๆมีเนื้อเพลงที่เข้ากับฟิกมาก แต่เสียงร้องแนวโอเปร่าไปนิดเลยขอเป็นเพลงบรรเลงดีก่า//ผิดส์

I'm givin' up the ghost of love
Endure shadows cast on devotion
She He is the one that I adore
Queen of my silent suffocation

Break this bittersweet spell on me
Lost in the arms of destiny

Bittersweet
I won't give up I'm possessed by her him
I'm bearing a cross
She He's turned into my curse

Break this bittersweet spell on me
Lost in the arms of destiny

Bittersweet, I want you
I won't let you go
And I need you
How I needed you

Don't break this bittersweet spell on me
Lost in the arms of destiny
Break this bittersweet spell on me
Lost in the arms of destiny

Bittersweet



ปอลอ ขอไม่ทอล์คมาก ยกยอดไปไว้ตอนตอบคอมเมนต์ หากมีข้อผิดพลาดอันใดเดี๋ยวกลับมาแก้ทีหลังดึกๆ//แอบอัพที่ทำงาน55+

ปอลอ 2 ลิสต์สั้นลงไปอีกหนึ่ง วิฮิ้ววว 
1.ป๋ากับจาร์วิสและMark01 น่าจะแนวฮาๆ จัดไปแล้ววววว
2.ยักษ์เขียวกะน้องเหยี่ยว//คิดไม่ออกตาลาลา
3.ตอนสั้นของTangled loop กะจะเขียนความสัมพันธ์เศร้าๆของป๋ากับปู่ที่ความจำเสื่อม
4.Civil warตอนสั้นๆซักตอน แต่เอาแบบว่าผ่านมุมมองของลูกชายสไปดี้
5.แคปซิโคล หรือ Tony/Steve/Coulsonดี ฮาาาาา
6.Bucky/Steve กับ Winter Soldier Love Song 555
7.Loki/Steve(?)
8.Steve/Clint(??)
9.JarvisXJarvis
เพิ่ม(ยังจะเพิ่ม)
10.RPS Chris Evans / Robert Downey Jr. (?)
11.ดับเบิ้ลคริส(เฮ้ยยยยย)
และ
12.ป๋าและดาร์คสตีฟ หึงโหดส์//ผิดมากกกก

ทำไมตรูข้าปั่นแต่ฟิกล่าสุดท้ายรายการ อันที่ดองก็ดองทิ้งไว้ ซะเค็มปี๋ ฮาาา
///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands  SteveXTony ตามเคย

ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/

3 ความคิดเห็น:

  1. โฮกกกก... เข้ากะกิฟข้างบนมากมาย..
    เข้าใจละว่าทำไมป๋าถึงทำตาเหมือนจะร้องตลอด(<<ผิด??)
    หวานเศร้ากดดัน.. แต่ชอบมากค่าาาา
    ขอบคุนนะคร้าาาา เอาใจให้มีพลอตไหลมาเทมา ฮ่า..
    ปล อยากอ่านมุมมองของป๋าบ้าง น่าจะทรมานมิต่างกัน อิอิ

    ตอบลบ
  2. มีเพื่อนแนะนำมาคะ โอ้วววว ทั้งเรื่องคือแบบกัดปากคะกัดปากอย่างเดียว มีเอาหมอนฟาดหน้า อ๊ากกกฟินนน คือแบบเข้าใจน้าปู่ คนเคยๆกันแต่พอผ่านไปก็ทำเป็นไม่รู้จักมันโคตรเจ็บปวด

    ตอบลบ
  3. มีเพื่อนแนะนำมาคะ โอ้วววว ทั้งเรื่องคือแบบกัดปากคะกัดปากอย่างเดียว มีเอาหมอนฟาดหน้า อ๊ากกกฟินนน คือแบบเข้าใจน้าปู่ คนเคยๆกันแต่พอผ่านไปก็ทำเป็นไม่รู้จักมันโคตรเจ็บปวด

    ตอบลบ