ตอนต่อมาอย่างไว อั๊ยย่ะ!!! จขบ.ว่าจะแสปมทุกวัน ถ้ายังไม่เบื่อกันนะเบบี๋ย์
ดราม่าสี่เศร้าเคล้าน้ำตา(?) สี่คู่ Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
ปอลอ NC17 เรตนิดนึงนะจ๊ะ เบบี๋ย์
ตอนเก่าๆจ้ะ
Tangled Loops : Prologue
Tangled Loops : 1 : Lust
///////////////////////////////////////////////////////////////
Title :Tangled Loops-2 : Love?
Rate : NC18
Genre : Drama/Romance/sad
Pairing: Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
Vers: Avengers Movie vers.+Comic หน่อยๆ
///////////////////////////////////////
Rate : NC18
Genre : Drama/Romance/sad
Pairing: Tony/Loki,Tony/Steve,Thor/Loki,Thor/Steve
Vers: Avengers Movie vers.+Comic หน่อยๆ
///////////////////////////////////////
ท้องฟ้าเหนือมหานครนิวยอร์คยามเย็นวันนี้ดูมืดสลัว เมฆหมอกสีเทาที่คล้อยต่ำปกคลุมท้องฟ้าใสจนเป็นสีเทาทึบทึม
โทนี่ สตาร์คหยุดมองภาพภายนอกด้วยความหม่นหมอง สีฟ้าใสที่หม่นมัวลงนั้นทำให้เขาสะท้อนใจ
"ราวกับนภากำลังร่ำให้...............หรือเทวดากำลังจะร้องไห้กันนะ"
เสียงเยียบเย็นดังกังวานจากมุมมืดของห้อง ยังความโกรธเกรี้ยวให้ลุกโชนขึ้นภายในใจของบุรุษเกราะเหล็ก
"เดินเข้าออกทางประตูดีๆไม่เป็นหรือ ทำตัวเป็นหนูท่อวิ่งเข้าออกซอกมืดไปได้"
"เดินเข้าออกทางประตูดีๆไม่เป็นหรือ ทำตัวเป็นหนูท่อวิ่งเข้าออกซอกมืดไปได้"
โทนี่เอ่ยเสียงกร้าวก่อนรินสุราดีกรีแรงลงลำคอ
เจ้าของดวงตาสีเขียวสว่างเยื้องกรายเข้าใกล้อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะกล่าวต่อ
"ดูร่างกายและวาจาเจ้าแข็งแรงดีนะ สตาร์คเอ๋ย"
"ไม่บอกไม่รู้เลยว่าจะอยู่ได้อีกไม่ถึงขวบปี.........สำหรับคนป่วยใกล้ตาย" เสียงหวานใสกล่าวพร้อมแย้มยิ้ม
"หุบปาก โลกิ"
เจ้าของดวงตาสีเขียวสว่างเยื้องกรายเข้าใกล้อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะกล่าวต่อ
"ดูร่างกายและวาจาเจ้าแข็งแรงดีนะ สตาร์คเอ๋ย"
"ไม่บอกไม่รู้เลยว่าจะอยู่ได้อีกไม่ถึงขวบปี.........สำหรับคนป่วยใกล้ตาย" เสียงหวานใสกล่าวพร้อมแย้มยิ้ม
"หุบปาก โลกิ"
โทนี่ตะโกนกร้าว ก่อนคว้าแก้วขว้างใส่ด้วยแรงโทสะ แต่แก้วคริสตัลกลับทะลุผ่านร่างสูงเบื้องหน้านั้นไป
"เจ้าไม่มีสิทธิ์สั่งข้า สตาร์ค เจ้าเป็นทาสของข้า"เทพมุสาจ้องตอบกลับด้วยสายตาวับวาม
"เจ้าไม่มีสิทธิ์สั่งข้า สตาร์ค เจ้าเป็นทาสของข้า"เทพมุสาจ้องตอบกลับด้วยสายตาวับวาม
"ในทุกเวลาที่ข้าต้องการ"
ก่อนร่างนั้นจะจางหายไปในอากาศ แท้จริงแล้วนั้นเป็นเพียงร่างโคลนที่โลกิส่งมาเพียงเท่านั้น
ใช่......เขากำลังจะตาย มันคือเรื่องที่ทำให้เขาต้องปิดบังไว้ และเป็นเรื่องที่ทำให้เขาต้องทำร้ายเทพยดาผมทองที่เขาหลงรัก
สตีฟ โรเจอร์ สูญเสียมามากจนเกินไป บุคคลรอบกายตายจาก ไม่เว้นแม้แต่คนรัก เพื่อนรัก เพื่อนร่วมรบ จึงไม่ควรต้องมาเสียใจกับการจากไปของคนไร้ค่าอย่างเขา
แม้ตอนนี้โทนี่ไม่แน่ใจว่าสตีฟจะมีความรู้สึกอะไรเหลือให้เขาหรือไม่ก็ตาม
...........................
ภายใต้ฟ้าสีเทามัวหม่นที่ฝนเริ่มโปรยสาย ไกลออกไปจากสตาร์คทาวเวอร์ ที่โรงยิมเก่าแก่เจียนพัง ชายหนุ่มร่างสูงยืนมองความว่างเปล่าระหว่างตัวเขากับกระสอบทรายเบื้องหน้าอย่างเงียบงัน
"เรื่องระหว่างเราถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น" เสียงเย็นชาบาดใจก็ดังก้องขึ้นในสมอง
เรื่องระหว่างเราที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น...............ก็เลยถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นสินะ ใบหน้าอ่อนใสหัวเราะขื่นให้กับตัวเอง
ทั้งหมดเป็นความรู้สึกของเขาคนเดียว ความรักข้างเดียวที่ถ่ายทอดไปแต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ และตอบกลับมาเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น..................
รวมถึงจูบครั้งนั้นด้วยสินะ.............ที่สตีฟคิดว่าโทนี่ปลอบใจเขาที่เศร้าเสียใจจากการสูญเสียฟิล โคลสัน
ริมฝีปากที่ฝังจูบรอยบางเบาเพื่อซับซาบคราบน้ำตา
สตีฟ โรเจอร์ แตะนิ้วที่ริมฝีปากตนราวจะรื้อฟื้นสัมผัสนั้น ก่อนจะรู้ตัวว่าใบหน้าตนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา..............ผิดกันที่ว่า ครั้งนี้เขาไม่มีคนปลอบใจผู้นั้นแล้ว
แต่เสียงโครมครามเหมือนของหนักๆร่วงหล่นข้างนอกก็ทำให้เขาต้องหลุดออกจากภวังค์ แล้วก็ต้องแปลกใจกับผู้มาเยือน
"ข้าลงพลาดไปหน่อยน่ะ" ธอร์ เทพสายฟ้า บุตรแห่งโอดีน กล่าวทักทาย
"คุณมาทำอะไรที่นี่เนี่ย" สตีฟมองชายร่างใหญ่เดินเก้ๆกังๆเข้ามาในเรือนโรงยิมด้วยความสงสัย
"เพิ่งกลับจากชีลด์แล้วเห็นเจ้ายังไม่กลับน่ะ ฝนก็จะตกเลยบินมารับ"ธอร์พูดพร้อมยิ้มกว้างให้ จนสตีฟต้องหลุดยิ้มตาม
"เป็นเทพนี่ดีจังเลยนะ เหาะไปนู่นมานี่ได้สะดวกดี ผมเห็นฝนตกเลยมาซ้อมฆ่าเวลาในนี้ก่อนน่ะ"
"เจ้าก็มีคนพาเหาะเล่นออกบ่อยไม่ใช่รึ........." ธอร์กล่าวเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะนิ่งชะงัก รู้สึกอยากชกปากตัวเอง "ข้าขอโทษ"
สตีฟยิ้มแย้มฝืดเฝื่อนให้เขา ก่อนจะนิ่งเงียบอีกครั้ง
"วันนี้ผมไม่กลับสตาร์ค..........ไม่กลับไปที่นั่นนะ ขอโทษที่อุตส่าห์มารับด้วย" สตีฟพูดเสียงเบาบาง........แค่การออกเสียงชื่อผู้นั้นก็พาลทำให้เจ็บปวด
เขายังไม่พร้อมจะกลับไป.........ไม่ใช่ตอนนี้ หลังจากพบเรื่องราวมากมายที่ได้รับรู้มา
"ผมคงไม่กลับไปซักพัก" เจ้าของแววตาสีฟ้าใสกล่าวหลบสายตา ก่อนจะเบือนหน้าหนี
แต่คล้ายว่าเทพสายฟ้า ผู้ที่คงจะสมองใหญ่ไม่เพียงพอกับร่างกายจะมิได้สังเกต กลับรบเร้าให้สหายกลับไปด้วยกัน
"แต่เจ้าไม่ได้กลับไปนานแล้วนะ ข้าคิดถึงเจ้า ทุกคนก็คิดถึงเจ้า"
ทุกคน รวมถึงโทนี่ สตาร์คและน้องชายของท่านนั้นหรือ...... เขาผุดคิดน้อยใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
"ไม่ล่ะ ขอบคุณ" สตีฟกล่าวอย่างข่มกลั้นก่อนจะเดินหนีจากมา แต่ถูกคว้ามือไว้
เหมือนธอร์จะเพิ่งสังเกตุความขมขื่นในน้ำเสียง เทพสายฟ้าจ้องมองสหายรักเบื้องหน้าด้วยสายตาห่วงใย แต่ใบหน้าใสไม่ยอมสบตาด้วยขอบตาร้อนผ่าวจวนเจียนร่ำไห้
ด้วยความสงสัย ร่างใหญ่ดึงกายให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ด้วยหมายถามความ แต่ก็ต้องหัวใจหล่นวูบเมื่อได้สบสายตา
ความรวดร้าวที่ฉายผ่านแววตาสีฟ้าใสและคลอไปด้วยน้ำตา ดวงตาสีฟ้าที่มีร่องรอยความเจ็บปวดเหมือนกันกับเขาราวส่องกระจก
"ผมรู้ทุกอย่างแล้ว ธอร์ ผมรู้แล้ว" สตีฟกล่าวด้วยเสียงแปร่งปร่า ก่อนที่จะทรุดตัวสะอื้นไห้
"ทุกอย่างผมมันบ้าไปคนเดียว เราไม่เคยมีอะไรระหว่างกัน เขาไม่ได้รักผม" ร่างเล็กกว่าสั่นไหวกล่าวราวย้ำคำให้ตนเองฟัง แต่ธอร์กลับสั่นไหวจนต้องดึงเข้ามากอดไว้........ด้วยความเจ็บปวดเดียวกัน
"เขาไม่ได้รักผม" สตีฟกล่าวก่อนซุกตัวลงที่แผ่นอกกว้างเบื้องหน้า กอดไว้แน่นหนาเหมือนต้องการที่พึ่ง
ความเจ็บปวดนี้มันมากเกินไป จนเขาต้องการลืมเลือน
หรือทำอะไรก็ได้เพื่อให้ลืมเลือน
"กอดผมที.........ได้โปรด" สตีฟกล่าวเสียงเบาแต่ยังความมึนงงให้เกิดในสมองของธอร์
จริงอยู่ที่เขามีความรู้สึกดีๆเป็นพิเศษกับมนุษย์ผู้นี้มากกว่าผู้อื่น รู้สึกห่วงหาอาทร อยากดูแล อยากอยู่ใกล้ แต่ยังคงไม่แน่ใจในความรู้สึกตัวเอง.......
หากเทียบกับอีกบุคคลหนึ่งที่ยึดครองพื้นที่ในใจ......แต่ไม่ใช่ด้วยความรัก
บุรุษร่างใหญ่ตระกองกอดร่างในอ้อมกอดไว้บางเบา แววตาสีฟ้าเข้มฉายแววหวั่นไหว
"ไม่ใช่ข้าไม่ใช่หรือ สตีฟ โรเจอร์............" ธอร์เอ่ยเสียงสับสน
แต่เมื่อมองสบสายตาบุคคลเบื้องหน้า ความปวดร้าวที่ส่งผ่านมาก็ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่
แม้ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของเขาคืออะไร แต่เขายอมให้ชายผู้นี้ร่ำให้ต่อไปไม่ได้อีกเด็ดขาด
มือใหญ่กร้านปาดไล่คราบน้ำตาบนแพขนตาสีทองสว่าง หยดน้ำใสที่ร่วงหล่นจากนัยน์ตาสีฟ้านั้นยิ่งทำให้เทพสายฟ้าอดรนทนไว้ไม่ได้
ร่างใหญ่กระชับอ้อมกอดอีกร่างที่สั่นไหว ราวกับจะปกป้องไว้จากความเจ็บช้ำทั้งมวล
"ทำให้ผมลืมเขาที ธอร์.........." เสียงนุ่มแฝงแววปวดร้าวจมหายไปในลำคอ
ก่อนจะประกบริมฝีปากเบาบาง สัมผัสอ่อนหวานแต่เจือปนน้ำตาให้รสขมขื่น
สองร่างมอบอ้อมกอดอุ่นร้อนที่ราวจะปลอบประโลมกันและกัน ธอร์ไล้นิ้วไปตามเรือนร่างสั่นไหวไม่คุ้นชินนั้นอย่างเบามือ แล้วจุมพิตซึมซับรอยน้ำตาที่หลั่งไหล จากปลายขนตาเลื่อนไล่มาฝังจูบยาวนานที่เรียวปากนุ่ม
เสียงกระซิบพร่า "ได้โปรด....." เร่งเร้าให้ชายร่างใหญ่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าติดกายจนเปลือยเปล่า มือใหญ่หนาลูบไล้ปลุกเร้าร่างกายชายร่างสูงจนหอบหายใจถี่ ดวงตาสีฟ้าพร่าปรือด้วยแรงปรารถนา ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอนกายเข้าทาบทับ
ช่องทางทีถูกลุกล้ำในคราแรกช่างเจ็บปวดจนอยากกรีดร้อง.........แต่อาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการก็เป็นได้ ความเจ็บปวดแสนหวานที่จะทำให้เขาลืมเลือนความปวดร้าวในจิตใจได้.....แม้เพียงชั่วขณะ
เสียงหอบหายใจสั่นไหวของทั้งคู่สอดประสาน ร่างใหญ่ขยับเคลื่อนอย่างเนิบช้าหนักแน่น เร้าเร่งให้ถึงจุดหมาย ก่อนอ้อมกอดใหญ่อบอุ่นจะกอดรัดร่างเล็กกว่าไว้อย่างอ่อนโยน
แววตาสีฟ้าเข้มสบตาสีฟ้าใสที่คลาคลอด้วยน้ำตาด้วยแววตาปลอบประโลม ทั้งๆที่ก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน
ความอ่อนโยนนั้นทำให้สตีฟต้องหลั่งน้ำตา...................อาจดีกว่าถ้าเขารักชายคนนี้
"ขอบคุณนะ ธอร์" สตีฟกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหูก่อนจะหลับตา.......................และซ่อนน้ำตาแห่งความสับสนให้รินไหลอยู่ภายใน
........................................
เทพสายฟ้าผุดลุกขึ้นจากโซฟาหนังเก่าแก่ที่ทรุดกายอยู่ ไขว่คว้าออกไปไม่พบบุรุษผมทองในอ้อมกอด
ก่อนที่จะสมองจะคิดทำการในสิ่งใด เสียงนุ่มราวร่ายมนตร์ก็ดังขึ้นจากมุมหนึ่งมุมใดในโรงยิมเก่าคร่ำคร่านี้
"เทพยดาควรคู่กับเทพางั้นสินะ" ธอร์ส่ายสายตามองหาแต่ไม่พบตัว ก่อนเสียงเยียบเย็นแฝงแววเย็นชาจะกล่าวต่อว่า
"ข้าชักอยากจะดึงเทวดาให้ตกสวรรค์ดูซะแล้ว"
ก่อนร่างนั้นจะจางหายไปในอากาศ แท้จริงแล้วนั้นเป็นเพียงร่างโคลนที่โลกิส่งมาเพียงเท่านั้น
ใช่......เขากำลังจะตาย มันคือเรื่องที่ทำให้เขาต้องปิดบังไว้ และเป็นเรื่องที่ทำให้เขาต้องทำร้ายเทพยดาผมทองที่เขาหลงรัก
สตีฟ โรเจอร์ สูญเสียมามากจนเกินไป บุคคลรอบกายตายจาก ไม่เว้นแม้แต่คนรัก เพื่อนรัก เพื่อนร่วมรบ จึงไม่ควรต้องมาเสียใจกับการจากไปของคนไร้ค่าอย่างเขา
แม้ตอนนี้โทนี่ไม่แน่ใจว่าสตีฟจะมีความรู้สึกอะไรเหลือให้เขาหรือไม่ก็ตาม
...........................
ภายใต้ฟ้าสีเทามัวหม่นที่ฝนเริ่มโปรยสาย ไกลออกไปจากสตาร์คทาวเวอร์ ที่โรงยิมเก่าแก่เจียนพัง ชายหนุ่มร่างสูงยืนมองความว่างเปล่าระหว่างตัวเขากับกระสอบทรายเบื้องหน้าอย่างเงียบงัน
"เรื่องระหว่างเราถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น" เสียงเย็นชาบาดใจก็ดังก้องขึ้นในสมอง
เรื่องระหว่างเราที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น...............ก็เลยถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นสินะ ใบหน้าอ่อนใสหัวเราะขื่นให้กับตัวเอง
ทั้งหมดเป็นความรู้สึกของเขาคนเดียว ความรักข้างเดียวที่ถ่ายทอดไปแต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ และตอบกลับมาเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น..................
รวมถึงจูบครั้งนั้นด้วยสินะ.............ที่สตีฟคิดว่าโทนี่ปลอบใจเขาที่เศร้าเสียใจจากการสูญเสียฟิล โคลสัน
ริมฝีปากที่ฝังจูบรอยบางเบาเพื่อซับซาบคราบน้ำตา
สตีฟ โรเจอร์ แตะนิ้วที่ริมฝีปากตนราวจะรื้อฟื้นสัมผัสนั้น ก่อนจะรู้ตัวว่าใบหน้าตนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา..............ผิดกันที่ว่า ครั้งนี้เขาไม่มีคนปลอบใจผู้นั้นแล้ว
แต่เสียงโครมครามเหมือนของหนักๆร่วงหล่นข้างนอกก็ทำให้เขาต้องหลุดออกจากภวังค์ แล้วก็ต้องแปลกใจกับผู้มาเยือน
"ข้าลงพลาดไปหน่อยน่ะ" ธอร์ เทพสายฟ้า บุตรแห่งโอดีน กล่าวทักทาย
"คุณมาทำอะไรที่นี่เนี่ย" สตีฟมองชายร่างใหญ่เดินเก้ๆกังๆเข้ามาในเรือนโรงยิมด้วยความสงสัย
"เพิ่งกลับจากชีลด์แล้วเห็นเจ้ายังไม่กลับน่ะ ฝนก็จะตกเลยบินมารับ"ธอร์พูดพร้อมยิ้มกว้างให้ จนสตีฟต้องหลุดยิ้มตาม
"เป็นเทพนี่ดีจังเลยนะ เหาะไปนู่นมานี่ได้สะดวกดี ผมเห็นฝนตกเลยมาซ้อมฆ่าเวลาในนี้ก่อนน่ะ"
"เจ้าก็มีคนพาเหาะเล่นออกบ่อยไม่ใช่รึ........." ธอร์กล่าวเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะนิ่งชะงัก รู้สึกอยากชกปากตัวเอง "ข้าขอโทษ"
สตีฟยิ้มแย้มฝืดเฝื่อนให้เขา ก่อนจะนิ่งเงียบอีกครั้ง
"วันนี้ผมไม่กลับสตาร์ค..........ไม่กลับไปที่นั่นนะ ขอโทษที่อุตส่าห์มารับด้วย" สตีฟพูดเสียงเบาบาง........แค่การออกเสียงชื่อผู้นั้นก็พาลทำให้เจ็บปวด
เขายังไม่พร้อมจะกลับไป.........ไม่ใช่ตอนนี้ หลังจากพบเรื่องราวมากมายที่ได้รับรู้มา
"ผมคงไม่กลับไปซักพัก" เจ้าของแววตาสีฟ้าใสกล่าวหลบสายตา ก่อนจะเบือนหน้าหนี
แต่คล้ายว่าเทพสายฟ้า ผู้ที่คงจะสมองใหญ่ไม่เพียงพอกับร่างกายจะมิได้สังเกต กลับรบเร้าให้สหายกลับไปด้วยกัน
"แต่เจ้าไม่ได้กลับไปนานแล้วนะ ข้าคิดถึงเจ้า ทุกคนก็คิดถึงเจ้า"
ทุกคน รวมถึงโทนี่ สตาร์คและน้องชายของท่านนั้นหรือ...... เขาผุดคิดน้อยใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
"ไม่ล่ะ ขอบคุณ" สตีฟกล่าวอย่างข่มกลั้นก่อนจะเดินหนีจากมา แต่ถูกคว้ามือไว้
เหมือนธอร์จะเพิ่งสังเกตุความขมขื่นในน้ำเสียง เทพสายฟ้าจ้องมองสหายรักเบื้องหน้าด้วยสายตาห่วงใย แต่ใบหน้าใสไม่ยอมสบตาด้วยขอบตาร้อนผ่าวจวนเจียนร่ำไห้
ด้วยความสงสัย ร่างใหญ่ดึงกายให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ด้วยหมายถามความ แต่ก็ต้องหัวใจหล่นวูบเมื่อได้สบสายตา
ความรวดร้าวที่ฉายผ่านแววตาสีฟ้าใสและคลอไปด้วยน้ำตา ดวงตาสีฟ้าที่มีร่องรอยความเจ็บปวดเหมือนกันกับเขาราวส่องกระจก
"ผมรู้ทุกอย่างแล้ว ธอร์ ผมรู้แล้ว" สตีฟกล่าวด้วยเสียงแปร่งปร่า ก่อนที่จะทรุดตัวสะอื้นไห้
"ทุกอย่างผมมันบ้าไปคนเดียว เราไม่เคยมีอะไรระหว่างกัน เขาไม่ได้รักผม" ร่างเล็กกว่าสั่นไหวกล่าวราวย้ำคำให้ตนเองฟัง แต่ธอร์กลับสั่นไหวจนต้องดึงเข้ามากอดไว้........ด้วยความเจ็บปวดเดียวกัน
"เขาไม่ได้รักผม" สตีฟกล่าวก่อนซุกตัวลงที่แผ่นอกกว้างเบื้องหน้า กอดไว้แน่นหนาเหมือนต้องการที่พึ่ง
ความเจ็บปวดนี้มันมากเกินไป จนเขาต้องการลืมเลือน
หรือทำอะไรก็ได้เพื่อให้ลืมเลือน
"กอดผมที.........ได้โปรด" สตีฟกล่าวเสียงเบาแต่ยังความมึนงงให้เกิดในสมองของธอร์
จริงอยู่ที่เขามีความรู้สึกดีๆเป็นพิเศษกับมนุษย์ผู้นี้มากกว่าผู้อื่น รู้สึกห่วงหาอาทร อยากดูแล อยากอยู่ใกล้ แต่ยังคงไม่แน่ใจในความรู้สึกตัวเอง.......
หากเทียบกับอีกบุคคลหนึ่งที่ยึดครองพื้นที่ในใจ......แต่ไม่ใช่ด้วยความรัก
บุรุษร่างใหญ่ตระกองกอดร่างในอ้อมกอดไว้บางเบา แววตาสีฟ้าเข้มฉายแววหวั่นไหว
"ไม่ใช่ข้าไม่ใช่หรือ สตีฟ โรเจอร์............" ธอร์เอ่ยเสียงสับสน
แต่เมื่อมองสบสายตาบุคคลเบื้องหน้า ความปวดร้าวที่ส่งผ่านมาก็ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่
แม้ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของเขาคืออะไร แต่เขายอมให้ชายผู้นี้ร่ำให้ต่อไปไม่ได้อีกเด็ดขาด
มือใหญ่กร้านปาดไล่คราบน้ำตาบนแพขนตาสีทองสว่าง หยดน้ำใสที่ร่วงหล่นจากนัยน์ตาสีฟ้านั้นยิ่งทำให้เทพสายฟ้าอดรนทนไว้ไม่ได้
ร่างใหญ่กระชับอ้อมกอดอีกร่างที่สั่นไหว ราวกับจะปกป้องไว้จากความเจ็บช้ำทั้งมวล
"ทำให้ผมลืมเขาที ธอร์.........." เสียงนุ่มแฝงแววปวดร้าวจมหายไปในลำคอ
ก่อนจะประกบริมฝีปากเบาบาง สัมผัสอ่อนหวานแต่เจือปนน้ำตาให้รสขมขื่น
สองร่างมอบอ้อมกอดอุ่นร้อนที่ราวจะปลอบประโลมกันและกัน ธอร์ไล้นิ้วไปตามเรือนร่างสั่นไหวไม่คุ้นชินนั้นอย่างเบามือ แล้วจุมพิตซึมซับรอยน้ำตาที่หลั่งไหล จากปลายขนตาเลื่อนไล่มาฝังจูบยาวนานที่เรียวปากนุ่ม
เสียงกระซิบพร่า "ได้โปรด....." เร่งเร้าให้ชายร่างใหญ่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าติดกายจนเปลือยเปล่า มือใหญ่หนาลูบไล้ปลุกเร้าร่างกายชายร่างสูงจนหอบหายใจถี่ ดวงตาสีฟ้าพร่าปรือด้วยแรงปรารถนา ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอนกายเข้าทาบทับ
ช่องทางทีถูกลุกล้ำในคราแรกช่างเจ็บปวดจนอยากกรีดร้อง.........แต่อาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการก็เป็นได้ ความเจ็บปวดแสนหวานที่จะทำให้เขาลืมเลือนความปวดร้าวในจิตใจได้.....แม้เพียงชั่วขณะ
เสียงหอบหายใจสั่นไหวของทั้งคู่สอดประสาน ร่างใหญ่ขยับเคลื่อนอย่างเนิบช้าหนักแน่น เร้าเร่งให้ถึงจุดหมาย ก่อนอ้อมกอดใหญ่อบอุ่นจะกอดรัดร่างเล็กกว่าไว้อย่างอ่อนโยน
แววตาสีฟ้าเข้มสบตาสีฟ้าใสที่คลาคลอด้วยน้ำตาด้วยแววตาปลอบประโลม ทั้งๆที่ก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน
ความอ่อนโยนนั้นทำให้สตีฟต้องหลั่งน้ำตา...................อาจดีกว่าถ้าเขารักชายคนนี้
"ขอบคุณนะ ธอร์" สตีฟกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหูก่อนจะหลับตา.......................และซ่อนน้ำตาแห่งความสับสนให้รินไหลอยู่ภายใน
........................................
เทพสายฟ้าผุดลุกขึ้นจากโซฟาหนังเก่าแก่ที่ทรุดกายอยู่ ไขว่คว้าออกไปไม่พบบุรุษผมทองในอ้อมกอด
ก่อนที่จะสมองจะคิดทำการในสิ่งใด เสียงนุ่มราวร่ายมนตร์ก็ดังขึ้นจากมุมหนึ่งมุมใดในโรงยิมเก่าคร่ำคร่านี้
"เทพยดาควรคู่กับเทพางั้นสินะ" ธอร์ส่ายสายตามองหาแต่ไม่พบตัว ก่อนเสียงเยียบเย็นแฝงแววเย็นชาจะกล่าวต่อว่า
"ข้าชักอยากจะดึงเทวดาให้ตกสวรรค์ดูซะแล้ว"
TBC.
///////////////////////////////////////////////////////////////
วาดแฟนอาร์ตมา คาดว่าจะเหมาะกับตอนนี้ อุโฮะ
เราชอบให้สตีฟร้องไห้จ้ะ เพราะเราซาดิสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสต์//โดนแม่ยกตรื้บ
คาดว่าหากป๋าโทนี่ได้รู้เรื่องข้างบนพี่ท้อคงไม่วายโดนแบบนี้
ปอลอ 2 คาดว่าเรื่องนี้คงมีสี่ตอนจบเน้ออออ
ปอลอ 3 ตอนนี้คิดหื่นเฮฮาครอบครัวไม่ออก อาจต้องให้ทิ้งช่วงฟิกเครียดก่อน ฮรื้ออออออ
ฝากเพจSuperhusbands SteveXTony ตามเคย
ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/
อุบส์ ชอบให้สตีฟร้องไห้เหมือนกันเลย เหอๆ ก็เป็นคนแสนดีนี่นา มันน่าหมั่นเขี้ยวนักเชียว
ตอบลบต้องไห้ชีวิตดรราม่าน้ำตาเช็ดหัวเข่า 555+
ไม่คิดว่าจะมีใครจิ้นแบบนี้ นึกว่าีเราคนเดียวว//กอดไรท์ร้องไห้
ตอบลบ