วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

(แปลfic+FanArt)Shortsighted:ป๋าแว่นโมเอร๊(Steve/Tony)

งวดนี้เป็นฟิกแปลนะจ๊ะเบบี๋ย์


ช่วงนี้ชอบไปอ่านฟิกใน http://archiveofourown.org //ก็ของไทยไม่ค่อยมีใครแต่งอร่า แม้ภาษาอังกฤษจขบ.จะโคตรด๋อยแต่ก็พอกล้อมแกล้มอ่านได้

บางฟิกอ่านแล้วมันช่างโฮก เลยทนไม่ไหวขอมาแปลเผยแพร่หน่อยเหอะ =.,=

อย่างเช่นอันที่เอามาแปลนี่ อ่านแล้วโฮรกกกกก เก๊าชวอบบบบ มีทั้งป๋ามีทั้งแว่น แฮร่กๆๆๆๆๆ//รู้กันหมดว่าไอ้นี่บ้าหนุ่มแว่น ฮาาาาาา


ป๋า in แว่น//ฟินตาย

ต้นฉบับนะจ๊ะ

Shortsighted

The first time Steve sees Tony wearing glasses, he walks into a wall.

อันนี้จขบ.แปลอย่างเดียวนะจ๊ะ ไม่ได้เขียนเองแต่อย่างใดและแปลด้วยอากู๋ววว หากศัพท์ใดผิดพลาดประการใดด่าจขบ.ได้แต่เพียงผู้เดียวจ้ะ

ย้ำอีกที อันนี้จขบ.ไม่ได้เป็นผู้แต่งนะจ๊ะ//ของตัวเองยังคิดไม่ออก ฮาาาาาาาาา

แล้วก็พวกเรตอะไรอย่างนี้เอามาจากที่ใช้กันในhttp://archiveofourown.orgเลย

เออ ลืมบอกว่าเรต......นิดๆ

ปูพรมหน่อยๆ

เชิญชม♥

Rating:Mature

Archive Warning:Author Chose Not To Use Archive Warnings

Category:M/M

Fandom:The Avengers (2012)

Relationship:Steve Rogers/Tony Stark

Characters:Steve Rogers,Tony Stark

Additional Tags:Romance,Humor,Wall Sex,First Time

Shortsighted (แต่จขบ.ว่า......อายุป๋าแล้วน่าจะ longsightedมากกว่า//โดนยิง)

Summary: The first time Steve sees Tony wearing glasses, he walks into a wall.


//////////////////////////////////////////////

สองเดือนหลังจากที่ทีมอเวนเจอร์ได้ย้ายเข้ามาพำนักในสตาร์ค ทาวเวอร์ โทนี่เพิ่งได้สังเกตข้อผิดปกติบางอย่าง

หน้าจอโฮโลแกรมเบื้องหน้าฉายภาพโปรเจ็คชุดสูทMark VII เขาจ้องมองจอด้านขวาที่มีภาพร่างแบบชุดใหม่ของกัปตันอเมริกาและเซ็ตอาวุธใหม่ของฮอว์คอายส์ทางจอด้านซ้ายสลับกัน กระพริบตาสองสามทีก่อนจะพบว่า ภาพเบื้องหน้าพร่าเบลอไม่ชัดเจน เขาหยุดและเอามือขยี้ตา

"จาร์วิส ชั้นอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว"

"หกชั่วโมงครับท่าน"

ก็ยังไม่เท่าไหร่ ปกตินานกว่านี้ เขาเคยนั่งจ้องจอทั้งวันในเวิร์คช็อปโดยไม่เห็นภาพเบลอๆ หรือว่าปวดหัวปวดตาอย่างนี้นี่นา โทนี่หลับตาลงอีกครั้ง หายใจลึกๆก่อนจะเปิดตามองภาพเบื้องหน้า แต่ไอ้หน้าจอเวรนี่ก็ยังไม่ได้ชัดขึ้นซักนิด

"จาร์วิส ทดสอบระบบอีกทีซิว่ามีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า"  โทนี่ถอนหายใจ

ชั่วครู่ก่อนที่โทนี่จะได้รับคำตอบที่เขาก็ไม่ได้คาดไว้

"ระบบปฏิบัติการทั้งหมดปกติดีครับท่าน"

โทนี่กระพริบตา จ้องแล้วจ้องอีกที่จอเบื้องหน้า มันก็ยังคงไม่ชัด เขาหรี่ตามอง และเห็นว่าภาพนั้นชัดเจนขึ้น.....

"จาร์วิส ชั้นต้องวัดสายตาแล้ว"

จาร์วิสฉายภาพทดสอบหลายแบบให้โทนี่ที่จ้องมองตรงไปเบื้องหน้าดูอยู่ชั่วครู่ก่อนจะประมวลผลออกมาว่า

"ผลออกมาว่าคุณกำลังมีปัญหาทางด้านสายตาครับท่าน"

อย่างที่คิดไว้ ไม่เร็วก็ช้า หากคิดจากจำนวนเวลาที่เขานั่งจ้องหน้าจอและทำงาน

"เอาไงดีล่ะจาร์วิส"

"ผ่าตัดครับ แต่พิจารณาจากระดับสายตามีผลเพียงเล็กน้อยกับชีวิตประจำวัน และก่อให้เกิดปัญหาเมื่อทำงานกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น  ผมไม่แนะนำให้ทำครับท่าน"

ผ่าตัด............หลังจากที่เขาโดนฝังปฏิกรณ์อาร์คไว้ในอกเนี่ยนะ พอเหอะ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาจำเป็นถึงขั้นใกล้ตายก็ไม่มีทางเลือกทางนั้นเด็ดๆ

และแน่นอน แม้เขาจะไร้สาระไปบ้าง แต่ก็รู้ว่าอายุเขาเกินเลขสี่และไม่ใช่หนุ่มๆแล้ว  มันไม่ใช่ว่าทำครั้งเดียวแล้วหาย และสายตาเขายิ่งแย่ลงเรื่อยๆเมื่อเขายิ่งแก่ลงไป

"ไม่เอาผ่าตัด"  เขาตัดสินใจ "จัดหาแว่นสายตาให้ชั้นแทนแล้วกัน เอาทิ้งไว้ให้ทั่วๆบ้านเลยเพราะชั้นคงทำหายบ่อย รู้ว่าต้องสั่งทั่ไหนและแบบไหนใช่มั้ย จาร์วิส"

แล้วหันกลับไปหางานข้างหน้า "ระหว่างนั้นก็เลื่อนจอเข้ามาใกล้ๆก่อนละกัน"



ครั้งแรกที่สตีฟเห็นโทนี่สวมแว่น เขาเดินชนกำแพง

สตีฟเดินไปห้องครัวเพื่อหาอะไรใส่ท้องหลังจากออกกำลังกาย เนื้อตัวเมื่อยล้าและชุ่มเหงือแต่ก็รู้สึกดี ไม่มีการคุกคามจากเหล่าร้ายในช่วงนี้และเขาสามารถใช้เวลานี้พักผ่อนในสตาร์คทาวเวอร์ ออกกำลังกาย เรียนรู้โลกใหม่อย่างช้าๆ

เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยี ในขณะเดียวกันกับเรียนรู้ที่จะอยู่กับ โทนี่ สตาร์ค

หลังจากการพบกันครั้งแรกอันแสนจะไม่ประทับใจ โทนี่กับสตีฟไม่กินเส้นกันอย่างแรง แต่หลังจากที่เห็นโทนี่เสียสละตัวเองบินพาขีปนาวุธไปถล่มพวกชิทอรี่ตอนนั้น และรับรู้ความจริงในเรื่องที่ว่าโทนี่เคารพสตีฟและยอมรับคำสั่ง แม้ตอนนี้ทั้งสองยังปะทะคารมกันบ้างเพราะโทนี่คงไม่ใช่โทนี่หากไม่ได้ทำตัวงี่เง่าปากร้ายหลงตัวเอง แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ร้ายแรงเท่าในครั้งแรกที่พบกัน

สามเดือนที่ผ่านมาหลังจากทีมอเวนเจอร์ย้ายมาที่สตาร์คทาวเวอร์ สตีฟได้เรียนรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับโลกศตวรรษนี้ เกี่ยวกับเขา เกี่ยวกับโทนี่ สตาร์ค เขาแปลกใจที่ได้รู้ว่าคนสมัยนี้รับรู้ว่าความรักคือความรัก ไม่ว่ามันจะอยู่ในรูปแบบใด เขารู้สึกดีที่พวกเชาไม่ต้องหลบ ซ่อน หรือโกหกเกี่ยวกับมันเพียงเพราะว่ามันไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานปรกติชน แต่เขาก็ยังเศร้าใจที่แม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังมีบางกลุ่มที่เกลียดชังและใช้ศาสนามาเป็นการปลุกปั่นความเกลียดชังนั้น

เขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับปัจจุบัน เพราะทุกสิ่งและทุกคนที่เขารักได้จากไปนานแล้ว และยุคนี้เขาไม่ต้องจำกัดตัวเองขนาดนั้น ซึ่งเขาสามารถมอง.....หรือแม้แต่จูบผู้ชายซักคนโดยไม่โดนโยนเข้าห้องขัง

แล้วก็ โทนี่ สตาร์ค หลงตัวเอง ปากร้ายช่างแดกดัน โทนี่ที่มากด้วยอีโก้และเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ยกเว้นเวลาที่เขาทำตัวเป็นไอรอนแมน ใจกว้างและเสียสละตัวเองอย่างไม่คิด

โทนี่มีความขัดแย้งในตัวเองและทำให้สตีฟหลงใหล เขายอมรับ.......และน่าจะมากกว่าแค่สนใจด้วยซ้ำ

แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากทั้งสองยังคงสานสัมพันธ์ฉันเพื่อนกันดี และโทนี่ยังคงเศร้าซึมเนื่องจากเพิ่งเลิกกับเปปเปอร์ สตีฟจึงยังคงควบคุมตัวเองเอาไว้ได้อยู่

และเขาก็เห็นโทนี่ขดตัวอยู่บนโซฟาตัวหนาในห้องนั่งเล่น จ้องมองS-padในมือ และมีถ้วยกาแฟโปรดอยู่ใกล้ๆ ร่างบางสวมเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงขายาวตัวหลวม แสงสีฟ้าอ่อนจากปฏิกรณ์อาร์คส่องแสงเรืองรองลอดผ่านผิวผ้าสีขาวออกมา

ดวงตาสีน้ำตาลปกคลุมไว้ด้วยแว่นกรอบเหล็กเล็กบางที่เริ่มเลื่อนออกจากดั้งจมูก โทนี่เลื่อนมือไปดันแว่นให้เข้าที่อย่างรำคาญใจแล้วจิบกาแฟต่อโดยไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า นั่นคือแว่นสายตา ไม่ใช่แว่นกันแดดที่โทนี่มักสวมใส่เพื่อหลบสายตาผู้คน

และมันดูดีเมื่ออยู่บนใบหน้านั้นอย่างไม่น่าเชื่อ

สตีฟรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่ปั่นป่วนในช่วงท้อง และจ้องมองไม่วางตา โดยลืมไปว่าเขากะระยะประตูเข้าห้องครัวผิดไปห้านิ้ว

เขาชนผนังเข้าโครมใหญ่ เสียงดังพอจะเรียกให้โทนี่หันมามองด้วยดวงตาประหลาดใจ

สมองอัจฉริยะคิดคำนวณสถานการณ์จากหน้าแดงเรื่อของสตีฟ โรเจอร์ที่นั่งเอามือถูดั้งจมูก ประตูเปิดโล่งที่ยังไม่มีคนเข้าไป แล้วก็ประเมินผลได้ด้วยใบหน้าที่พยายามกลั้นหัวเราะ

"เฮ้ แคป" โทนี่กล่าวเสียงประหลาดด้วยพยายามกลั้นหัวเราะ "นายเพิ่ง......."  พูดได้แค่นั้น เขาก็ทนการสะกดกลั้นไว้ไม่ไหว หัวเราะงอหายออกมาจนแว่นสายตาหลุดไหลจากที่อีกครั้ง

สตีฟคิดว่ามันงี่เง่าทีเขามัวแต่จ้องมองภาพนั้น แต่ก็ไม่สามารถละสายตาจากมันไปได้จริงๆ

"นั่นนายจะเดินเข้าไปในผนั........" โทนี่พยายามพูดต่อ แต่ก็กลั้นหัวเราะไม่ไหวจนต้องล้มเลิกความคิดที่จะพูดให้จบประโยค

สตีฟไม่เคยอับอายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ใบหน้าร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผาแต่ด้วยความขำตัวเองก็ทำให้เขาก็หลุดหัวเราะออกมา "ใช่ ผมเดินเข้าไปในผนัง"

"โอ้" โทนี่จ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา เขาหัวเราะจนน้ำตาคลอเคลือบดวงตาสีน้ำตาลสวย

และสตีฟรู้สึกว่าเขาอยากพุ่งตัวเข้าไปถอดแว่นนั้นออกแล้วลิ้มรสมันด้วยริมฝีปากใจจะขาด

ทางออกที่ดีของเขาตอนนี้คือหลบไปก่อนท่าจะดีกว่า แล้วเสียงหัวเราะฮาลั่นของโทนี่ก็ตามติดเขาเข้าไปในห้องครัว



สิ่งหนึ่งที่โทนี่เริ่มคุ้นเคยหลังจากที่เปปเปอร์รู้ตัวว่าตนควรเป็นเพียง CEOและเพื่อน แต่ไม่ใช่คนรักที่หวาดกลัวของไอรอนแมน คือความจริงที่ว่า คนที่ทำให้เขาได้รับอาหารและน้ำบ้างเวลาลงมาขลุกตัวในเวิร์คชอปตลอดเวลาคือสตีฟ

อย่างที่ว่า บางครั้งเวลาสตีฟถือถาดอาหารและน้ำเปิดประตูเวิร์คชอปเดินเข้ามาในก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นต้นไม้ในบ้านที่ต้องให้สตีฟมาคอยรดน้ำ

โทนี่ครุ่นคิดเรื่องโปรเจ็คต์งานใหม่ที่ต้องทำในตอนนี้ การออกแบบสตาร์คโฟนที่เขาโม้กับเปปเปอร์ว่าน่าจะสู้ได้กับรุ่นใหม่ของซัมซุงและแอปเปิ้ล

สตีฟหยุุดยืนนิ่งที่ประตูราวกับเป็นอัมพาต โทนี่จ้องใบหน้านั้นแล้วนึกถึงเมื่อไม่กี่วันนี้ที่สตีฟพยายามเดินทะลุผนัง(โอเค มันเป็นมุก) ซึ่งทำให้เขายังขำไม่หาย

"เฮ้ ไงพวก"เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม เพราะสตีฟนำอาหารมาให้และท้องของโทนี่ก็กำลังร่ำร้องออกมาว่าเขาหิวโหยขนาดไหน เมื่อสตีฟเดินเข้ามาภายในเวิร์คชอปไม่กี่ก้าวถาดอาหารที่เต็มไปด้วยชีสเบอเกอร์ เฟรนซ์ฟรายด์ ดิปชีสและเบคอนทอดก็ถูกโทนี่ฉกไป

"ชั้นเคยบอกนายรึเปล่าว่านายเป็นคนที่ชั้นชอบที่สุดในจักรวาลนี้เลยนะเนี่ย"

โทนี่สวาปามเฟรนซ์พรายด์ร้อนๆแบบไม่กลัวว่าจะลวกปาก ส่งเสียงครวญครางในคออย่างมีความสุขแล้วคว้าเข้าปากอีกหลายคำ ก่อนตะโกนสั่งขณะมีอาหารเต็มปาก

"จาร์วิส โน้ตไว้ว่าสตีฟเป็นที่สุดของที่สุดในลิสต์ความชอบของชั้นด้วยนะ"

"รับทราบ แต่จะให้จัดวางไว้ก่อนหรือหลังอีก20รายการ"ความชอบ"ที่คุณสตีฟได้ทำและให้ผมบันทึกไว้ดีครับ"

สตีฟหัวเราะให้กับมุกฝืดๆที่จาร์วิสปล่อยออกมาและทำให้เขาขำทุกครั้ง ซึ่งทำให้โทนี่คิดว่าบางทีการสร้างจาร์วิสให้มีบุคลิกแบบนี้ขึ้นมามันก็ไม่ค่อยดีแฮะ

"เอาอันนี้ขึ้นอันแรก เฟรนซ์ฟรายด์นี้ช่างบาปหนานัก ชั้นคิดว่าชั้นจะขอแต่งงาน"

ใบหน้าขาวๆของสตีฟแดงระเรื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่โทนี่ชื่นชอบที่จะได้เห็น ก่อนจะพูดเพิ่มเติมไปด้วยมาดยียวน

"นายคิดว่าเค้าจะให้ชั้นแต่งงานกับคุณเฟรนซ์ฟรายด์มั้ย?" แล้วส่งมันฝรั่งทอดเข้าปาก

"น่าจะ" สตีฟกล่าวด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าสีเลือดบนใบหน้านั้นจะจางหายไปเร็วเกินกว่าที่โทนี่คาดไว้ "และไม่....ผมคิดว่าการแต่งงานกับอาหารคงยังไม่ได้รับการยอมรับ....อย่างน้อยก็ในตอนนี้"

"โอ้ เหรอ" โทนี่ถอดแว่นแล้วเซพข้อมูลการทำงานก่อนหันมาสำราญกับอาหารตรงหน้า

"ถ้าอย่างงั้นชั้นว่าควรไปขอแต่งงานกับคนทำเฟรนซ์ฟรายด์พวกนี้ดีกว่า ชั้นจะได้หม่ำมันทุกเวลาที่ต้องการ....ว่าแต่นายไปซื้อมาจากไหนเนี่ย"

โทนี่หยิบแว่นมาสวมแล้วหันหน้าไปหาสตีฟที่ใบหน้าแดงแจ๋เป็นลูกตำลึง ตอนนี้กัปตันอเมริกาน่ารักจนโทนี่อยากจะพามาขังไว้ในเวิร์คชอปตลอดกาลซะให้รู้แล้วรู้รอด

"ที่จริงแล้ว....ผมทำเอง" สตีฟสารภาพเสียงอ่อยๆก่อนที่โทนี่จะเลื่อนขอบแว่นลงมาเพื่อดูใบหน้านั้นให้ชัดๆ

ปฏิกิริยาที่สตีฟมองกลับมานั้นเกินที่โทนี่คาดไว้ ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างจ้องมองดวงตาและริมฝีปากของเขาอย่างสั่นไหว ใบหน้าแดงร้อนรุ่มที่หากไปจับดูคงจะโดนเผาไหม้ ก่อนที่สตีฟจะกล่าวตะกุกตะกักทิ้งท้ายก่อนเดินจาก

"ม.....แม่ผมสอนให้ทำน่ะ โอเค ผมไปแล้ว เอิ่ม แล้วอย่าลืมที่จะเข้านอนก่อนจะทรุดลงไปนะโทนี่"


โทนี่จ้องมองแผ่นหลังร่างสูงที่เดินออกไปอย่างสงสัย

"หือม์..............มันแปลว่าอะไรนะ"

"ผมก็ไม่ทราบครับท่าน" จาร์วิสตอบกลับ

โทนี่ถอดแว่นแล้วบีบนวดหว่างคิ้วคลายความปวดตาอีกครั้ง ก่อนที่จะแก้ไขสมการได้

สตีฟเดินชนกำแพง สตีฟยืนนิ่งเป็นหินจ้องเขาที่ประตู สตีฟที่จู่ๆก็เขินอายและพูดติดขัด

"โอ้ ว้าว"

โทนี่จ้องแว่นตาในมือและยิ้มเจ้าเล่ห์



เนื่องจากโทนี่ สตาร์ค คือโทนี่ สตาร์ค ที่อยากจะทำอะไรก็ต้องสุดๆ

ในปลายสัปดาห์นี้ทุกๆครั้งที่สตีฟพบเจอโทนี่ เขาจะต้องมีแว่นตาสวมอยู่บนใบหน้า ด้วยแว่นตาไม่ซ้ำแบบกันในแต่ละครั้ง

และการที่สตีฟเพิ่งค้นพบว่าเขาถูกดึงดูดโดยผู้ชายสวมแว่นตา โดยเฉพาะโทนี่ สตาร์คที่สวมแว่นตา ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์นี้ยิ่งน่าอึดอัด

ไม่ ล้อเล่นรึเปล่าเพราะมันทำให้เขาต้องเข้าหาผนังแทนที่จะเป็นประตูห้องครัวบ้าๆนั่น และโดนเล่นมุกขอแต่งงานกับเฟรนซ์ฟรายด์

และที่ยิ่งร้าย คือเวลาที่ดวงตาสีน้ำตาลนั้นส่งสายตามามองเขาลอดแว่น

มันทำให้สมองของเขาทำงานไม่เป็นปกติ

สตีฟเริ่มเหนื่อยกับปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อสายตาของโทนี่ สตาร์ค เขารู้สึกถูกกระตุ้นตลอดเวลาด้วยการที่ว่าโทนี่จะลงมาถามไถ่หรืออะไรๆเกี่ยวกับชุดยูนิฟอร์มใหม่ของกัปตันอเมริกา

ด้วยใบหน้าที่สวมแว่นสีดำกรอบเหลี่ยมหนาที่ดูแล้วแปลกประหลาดจนเขาอยากจะพุ่งเข้าไปดึงมันออกมาจากใบหน้าโทนี่ซะให้ได้

"งั้น.....จะลองมั้ยล่ะ" เสียงโทนี่ที่ดังขึ้นมาปลุกเขาให้ตื่นมาจากภวังค์

"ล...ลองอะไร" สตีฟถามอย่างด้วยใบหน้าแดงเรื่อ เพราะสายตาเขาจับจ้องที่โทนี่จนไม่ทันได้สนใจฟัง

"เกราะใหม่ของชุดนายไง? อันที่ชั้นนั่งทำมันมาเกือบทั้งอาทิตย์ นายไม่ได้ฟังชั้นพูดเลยรึไง สตีฟ ................"

สตีฟปล่อยให้คำพูดยืดยาวของโทนี่สตาร์คดังผ่านหูไป เนื่องจากมีอะไรบางอย่างแปลกไปในการกระทำของโทนี่ ตามปกติด้วยความเป็น"อัจฉริยะหลงตัวเอง"อย่างที่นาตาชาเคยเรียกไว้โทนี่คงไม่มีวันปล่อยให้คนอื่นไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูดและจะทำท่ารำคาญหรือเหวี่ยงใส่

แต่นี่ไม่ใช่ โทนี่ยังคงยิ้มเฮฮา และเล่นกับแว่นตาของเขาตามเคย

ซึ่งยังความเจ็บปวดและขัดเคืองให้ปะทุขึ้นในใจของสตีฟขึ้นมาอย่างกระทันหัน

"หยุดเถอะ โทนี่" สตีฟกล่าวเสียงนุ่มขัดขึ้นมากลางบทสนทนายาวยืดของโทนี่ที่ขมวดคิ้วก่อนปิดปากลง

ทั้งสองฝ่ายจ้องมองกันและกันยาวนานจะเหมือนชั่วนิรันดร์ และสตีฟก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องโกรธขนาดนี้ ไม่ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกล้อเล่นโดยโทนี่ สตาร์ค

แต่ไม่ใช่แบบนี้ สตีฟคิดหวังให้เป็นเพียงการล้อเล่นฮาๆเท่านั้น แต่ความรู้สึกนี่มันโหดร้ายและเสียดแทงเกินไป สตีฟผิดหวังที่มันคล้ายว่าเขาคิดไปคนเดียวว่าเขาและโทนี่เป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่ได้ลบล้างความบาดหมางเมื่อก่อนไปแล้ว

"หยุดอะไร?" โทนี่ถาม ทำลายบรรยากาศความเงียบที่นิ่งค้างในที่สุด

"เกมอะไรซักอย่างที่คุณเล่น" เขาชี้หน้าโทนี่พร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อดวงตาสีน้ำตาลของโทนี่เลิกคิ้วผ่านแว่นตางี่เง่านั่น

"ไม่ใช่เกม" โทนี่ตอบกลับมา

"แล้วอะไร?"

"การทดลอง"

"การทดลอง?" แล้วสตีฟก็รู้สึกว่าความโกรธถึงขีดสุด ร่างสูงเดินหน้าเข้าใกล้พยายามหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อให้จิตใจสงบ

"ใช่ ชั้นอยากรู้ว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกันระหว่างนายกับแว่นตาของชั้น และชั้นกับหน้าแดงๆของนาย"

โทนี่ลังเลเมื่อความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง สตีฟยืนนิ่งก่อนขบคิดค้นหาความหมายอื่นของสิ่งที่โทนี่พูดมาว่ามีอีกไหม

ไม่มี ดังนั้น

"ผม" สตีฟกล่าวออกมาในที่สุดแล้วก้าวแทรกผ่านระยะห่างระหว่างทั้งสองก่อนกดแนบร่างบางเข้ากับฝาผนัง

และอะไรก็ตามที่โทนี่พยายามจะกล่าวก็ถูกกลืนหายไปเมื่อสตีฟประกบปากนุ่มเข้าขัดขวางคำพูดนั้น

สตีฟอาจไม่ใช่นักจูบที่ยอดเยี่ยมที่สุดแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เรื่อง พิสูจ์ได้จากการที่ว่าโทนี่ขยับร่างเข้ามาชิดใกล้และเอื้อมมือมากอดรัดไหล่หนาเอาไว้ ริมฝีปากบางนั้นนุ่มนวลกว่าที่คิด และหนวดเคราสากๆนั่นก็ให้สัมผัสดีกว่าที่เขาเคยจินตนาการ

เขาจุมพิตเน้นหนัก ลิ้มรส โลมเลียริมฝีปากโทนี่แล้วรู้สึกถึงขอบแว่นที่กดทับจนรู้สึกรำคาญใจ

สตีฟถอนจูบ หอบหายใจก่อนถอดแว่นเกะกะนั้นออกไปจากใบหน้า กลืนกินคำโต้แย้งที่โทนี่พูดออกมาไว้ด้วยริมฝีปากหนา อย่างนี้ดีกว่า จูบที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นให้รำคาญใจ รับรู้ถึงร่างกายของอีกฝ่ายที่ร้อนรุ่ม สตีฟบดเบียดต้นขาเข้าสู่ช่องว่างระหว่างขาให้โทนี่เปิดทางรองรับเขาไว้

โทนี่ถอนปากออกครางบางเบาด้วยการกระทำนั้น ซึ่งเป็นโอกาสให้สตีฟได้ซอนไซ้ซอกคอ

ความร้อนรุ่มจากสัมผัสนั้นทำให้เรียวปากบางกล่าวเสียงสั่นไหว

"บ้าเอ๊ย ชั้นไม่ใช่วัยรุ่นนะ เลยวัยมานานแล้วด้วย แล้วนายกำลังจะทำให้ชั้นเสร็จทั้งๆอย่างนี้เหรอ ชั้นเกลียดนาย ไอ้บ้า เตียงก็อยู่แค่ตรงนั้น นายจะหยุดแค่นี้เหรอ นายกล้าหยุดแค่นี้เหรอ อย่านะ นายมัน......" สตีฟจบคำโต้แย้งนั้นด้วยจูบรุ่มร้อน

ระหว่างการพล่ามบ่นทั้งหมด โทนี่ก็ยังคงเสียดสีจุดอ่อนไหวของตนกับต้นขาอีกฝ่ายอย่างไม่หยุดยั้ง นิ้วเพรียวบางเกาะกุมสะโพกร่างสูงให้ขยับเคลื่อนไหว สตีฟก็รู้สึกตัวเองว่าใกล้ถึงจุดเดือดเข้าไปทุกที ด้วยสะโพกสวยของโทนี่ที่บดเบียดอยู่

แต่แค่นี้มันไม่พอ เขาต้องการมากกว่า เขาต้องการโทนี่มากกว่านี้ 

สตีฟปลดเปลื้องเบื้องล่างของโทนี่ออกมา ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำตามความปรารถนาอย่างเดียวกัน เสียงโทนี่ครวญครางดังลอดจากริมฝีปากที่ประกบกัน เรียวลิ้นพัวพันกันอย่างร้อนรุ่มภายใน นิ้วเรียวจิกกดให้สตีพขยับกายกดร่างเข้าเสียดสี

ร่างสูงรู้สึกถึงอีกร่างที่สั่นไหวเมื่อความร้อนรุ่มทั้งสองได้สัมผัสกัน ผิวต่อผิว โทนี่หอบคราง เมื่อสตีฟกางนิ้วโอบรอบส่วนแข็งขืนนั้นเอาไว้ก่อนขยับเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน

เขารู้ว่าอีกไม่นานความพุ่งพล่านนี้จะถึงจุดระเบิด สตีฟเลื่อนมือไล้ขึ้นลงหนักแน่นพร้อมจูบโทนี่จนมันถึงจุดสิ้นสุดที่ทั้งสองทำได้เพียงแค่ตัวสั่นหอบหายใจและเกร็งร่างเกาะกอดอีกฝ่ายไว้ด้วยกัน

ร่างสูงยังกดตัวร่างบางเข้าระหว่างกำแพง กดหน้าผากของตนแตะกันกับอีกฝ่าย โทนี่ยิ้มขำๆให้สตีฟและสตีฟรู้ตัวว่าเขาก็กำลังยิ้มแบบเดียวกัน

"แล้ว" สตีฟกล่าวหลังจากหอบหายใจหนัก

"แล้ว?"

"จะเรียกว่าสำเร็จมั้ย? การทดลองน่ะ"

โทนี่หัวเราะ หลังจากโดนยันตัวติดกำแพงไว้ สตีฟถอยหลังเล็กน้อยแล้วยืนมองโทนี่เดินไปที่เตียงแล้วก้มตัวลงหยิบบางสิ่งบางอย่าง

เมื่อโทนี่หันกลับมาหาสตีฟด้วยใบหน้ายียวนที่แดงซ่านและแว่นอันนั้นที่ดูยิ่งประหลาดบนใบหน้าของโทนี่  แต่มันทำให้เขาดูดีอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และมันทำให้สตีฟแทบจะพุ่งเข้าไปกดร่างนั้นลงบนเตียงและกระทำการอีกซักที

ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองที่เขาอย่างพินิจพิจารณา โทนี่นั่งลงบนเตียงส่งสายตายั่วเย้าแล้วลูบไล้ผ้าปูเตียงหนานุ่มอย่างเบาๆด้วยท่าทางเชื้อเชิญ

"ไม่รู้สิ คิดว่าต้องทำการทดลองซ้ำน่ะ ซักสองสามรอบ" โทนี่หัวเราะอีกครั้งเมื่อสตีฟเดินตามมากดร่างหนาใหญ่ของตนเข้าทาบทับลงร่างบางของเขา

"เพื่อผลการทดลองที่แน่นอนน่ะ"



//////////////////////////////////////////////

แอร่ก//ตายด้วยความโฮก อยากเก่งอังกฤษกว่านี้จะได้อ่านฟิกยาวๆในนั้นได้แบบเข้าถึงรสถึงชาติ(?)

แอบรู้สึกว่าไอ้คำโปรยThe first time Steve sees Tony wearing glasses, he walks into a wall.

ตรง he walks into a wall. มันแฝงความหมายว่า he walks and pressed Tony against the wall ตามแท็ก Wall Sex ใช่มะ//กำเดาไหล

//////////////////////////////////////////////

อันนี้จริงๆอ่านแล้วอยากวาดแฟนอาร์ตป๋าใส่แว่นละ อร๋างงงง


Maybe I’m a glasses kink like Steve LOL
จะบอกว่าปู่นี่สายหนุ่มแว่นเหมือนจขบ.เบยยยย 5555

ปอลอ อยากอ่านฟิกไทยมั่งอร่าาาาา ใครก็ได้เขียนมาให้อ่านมั่งจิ//ทำตาวิงวอน

ปอลอ 2 นั่งลิสต์รายการฟิกที่ต้องเขียนต่อ

1.ป๋ากับจาร์วิสและMark01 น่าจะแนวฮาๆ จัดไปแล้ววววว
2.ยักษ์เขียวกะน้องเหยี่ยว//คิดไม่ออกตาลาลา
3.ตอนสั้นของTangled loop กะจะเขียนความสัมพันธ์เศร้าๆของป๋ากับปู่ที่ความจำเสื่อม
4.Civil warตอนสั้นๆซักตอน แต่เอาแบบว่าผ่านมุมมองของลูกชายสไปดี้
5.แคปซิโคล หรือ Tony/Steve/Coulsonดี ฮาาาาา
6.Bucky/Steve กับ Winter Soldier Love Song 555
7.Loki/Steve(?)
8.Steve/Clint(??)
9.JarvisXJarvis
10.พอเห๊อะ =[]="

ย............เยอะ แถมไอ้สามคู่ล่างนั้นมันอะรั๊ยยยยยย


///////////////////////////////////////////////////////////////

ฝากเพจSuperhusbands  SteveXTony ตามเคย

ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/

1 ความคิดเห็น:

  1. กลับมาอีกครั้ง นึกว่าจะไม่ได้อ่านเรื่องนี้แล้วคะ เคยอ่านเมื่อนานมาแล้วใน exteen แล้วพอจะกลับมาอ่านอีกที อ๊ะ มันหายไปแล้ววว link พังหรืออะไรมิทราบได้ แอบเศร้าอยู่นาน ตอนนี้ย้ายที่มาแล้ว ได้อ่านแล้ว ดีใจมากมายเลยค่ะ (จุดพรุฉลอง) เพราะว่า ชอบป๋าแว่นมากกกกกก (เหมือน จขบ. เลยค่ะ)
    ยิ่งตอนปู่เดินเข้าไปในกำแพงยิ่งฮาาาา เข้าใจเลยว่าทำไม หลงหนุ่มแว่นเหมือนกันละสิ ยิ่งเจอป๋าแว่นยิ่งอยากจะจับกดตรงนั้นเลย มิน่าล่ะ ทำไมถึงได้ จบที่กำแพง สุดยอดจริงๆทั้งผู้แต่งและผู้แปล เล่นเอาฟินไปหลายวันเลยค่ะ
    อยากให้แต่ง คู่ป๋า-ปู่ หรือจะแปลก็ได้ ยังอยากอ่านคู่นี้อยู่นะคะ
    เป็นกำลังใจให้นะคะ

    ตอบลบ