วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

(IM3 Fic+FanArt)Error-Intelligent-2(Steve/Tony/Jarvis)

อัพตอนต่อด้วยความไวแสงงงงงงงงง


จริงๆเขียนตอนนี้ใกล้เสร็จตั้งกะลงตอน1แล้วล่ะ แฮร่
ตามไปอ่านตอนที่ 1ก่อนเน้อออออ
Error-Intelligent-1
Steve/Tony/Jarvis รักสามเส้าเราสามคนของปู่ป๋าและจาร์วิส
คำเตือน ฟิคเรื่องนี้อาจมี Non-con จับปล้ำบ้างนิดหน่อยพอให้ดาร์คๆAngstๆสะใจจขบ. ผิดส์
และภาพประกอบ.....ค่อนข้างเรต ดูข้างหลังก่อนเปิดนะจ๊ะเบบี๋ย์
///////////////////////////////////////////////////////////////

Title :  Error-Intelligent-2

Rate : NC-17//ตอนนี้.....เต็มๆ

Genre : Angst,Non-con,Threesome ,Polyamory ,Artificial Intelligence

Pairing: Steve/Tony/Jarvis,Steve/Tony,Jarvis/Tony,Steve/Jarvis

Vers: Avengers Movie vers.,Iron Man1-3 vers., slightly AU

//////////////////////////////////////////////



Error-Intelligent

การสะท้อนของแสงที่ผ่านการแปลงสัญญาณเป็นโค้ดสีหกหลักแล้วประเมินผลได้เป็นภาพบุคคลที่เขาคุ้นเคย ผู้ที่เป็นเจ้าของชีวิต เจ้าของคำสั่ง เจ้าของทุกอย่างที่ไหลเวียนอยู่ในระบบที่ทำให้เขาทำงานได้ ใบหน้าที่เขาจับจ้องอยู่ตลอดเวลา86400วินาทีต่อวัน

แต่มีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป มุมมองที่เขาได้รับมันใกล้ ใกล้จนเกินไปแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปรับเพิ่มการซูมของเลนส์กล้อง ภาพร่างกระทัดรัดในเสื้อผ้าขาดวิ่นถูกมัดข้อมือไว้กับชั้นเครื่องมือเหนือศีรษะ ใบหน้าเหนื่อยล้าและบาดเจ็บเงยขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นตระหนก

ดวงตาสีน้ำตาลที่ฉายแววหวาดกลัวนั้นทำให้เขานึกถึงภาพที่เขาเก็บซ่อนไว้ในโฟลเดอร์ลับที่ได้มาจากการเจาะระบบเข้าไปในสตาร์ค อินดัสตรีขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ภาพชายหนุ่มที่ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายจับตัวไว้แล้วส่งมาเพื่อเรียกค่าจ้างจากโอบาไดอาห์ สเตน

ภาพที่เขายอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เจ้านายของเขาต้องประสบกับความเลวร้ายแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง

สภาพของบุคคลตรงหน้าตอนนี้ก็ดูเลวร้ายแทบไม่ต่างกัน ในระหว่างที่เขากำลังประมวลผลความเป็นไปได้ที่จะช่วยเหลือ ก็พบว่ามือในชุดเกราะสีทองนวลเลื่อนเข้าไปคว้ารอบคอเรียวนั้นไว้อย่างแน่นหนา

ภาพมือที่ถูกดึงเข้ามาใกล้สายตาและสัมผัสของน้ำหนักที่แขนทำให้รู้สึกประหลาด นี่เขากำลังเป็นคนยื่นมือไปหาชายคนนี้เองงั้นหรือ

เป็นไปไม่ได้.......ในเมื่อตามความเป็นจริงทางกายภาพแล้วเขาไม่มีร่างกายที่จะทำให้เห็นภาพหรือรับสัมผัสได้แบบนี้................

ก่อนที่เขาจะทันคำนวณอะไร แขนจักรกลอีกข้างก็เริ่มลูบไล่บนร่างกายนั้นอย่างช้าๆ ชายหนุ่มเบื้องหน้าเบิกตากว้างก่อนเค้นคำพูดผ่านริมฝีปากแตกช้ำ

"จาร์วิส............หยุด............อย่าทำแบบนี้" โทนี่ สตาร์คกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า

.............................................

"โอเค จาร์วิส เริ่มเคลื่อนถ่ายระบบเข้าชุด 5...4.....3.......2.......1" เสียงคำสั่งลอดผ่านอุปกรณ์ควบคุมที่เชื่อมต่อกับเกราะมาร์ค 47 สมองกลอัจฉริยะจึงโอนถ่ายข้อมูลรหัสซับซ้อนที่ใช้ในการประมวลผลเพื่อทำการทดสอบ

"รับทราบครับ.........เสร็จสิ้น ข้อมูลทั้งหมดออนไลน์ครับ" จาร์วิสตอบกลับเมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงนาที

"รู้สึกยังไงบ้างจ๊ะเบบี๋ย์ แข็งตึงดึ๋งดั๋งดีหรือเปล่า" โทนี่ถามด้วยน้ำเสียงยียวน

จาร์วิสกล่าวตอบเสียงเรียบ "รู้สึกแปลกๆครับ ที่ต้องขยับหุ่นโดยไม่มีคุณอยู่ข้างใน" แล้วเริ่มยกแขนขึ้นลงเพื่อประเมินการเคลื่อนไหว "เช็คระบบควบคุมการเคลื่อนไหวตอบสนองได้80% ผมขอเวลาอีกสักครู่ในการปรับโค้ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้เต็มที่ครับ"

"ครั้งแรกก็อย่างนี้ล่ะ" บางทีจาร์วิสก็อยากจะทดลองให้มาร์ค47 ทำท่า Facepalm ดู

"ไหนลองแบบนี้ซิ" เขานิ่งเงียบหลับตาแล้วยกมือซ้ายขึ้นมา ในไม่กี่พริบตาชิ้นส่วนเกราะแขนข้างซ้ายก็แยกตัวออกจากชุดแล้วพุ่งเข้ามาสวมที่มือของโทนี่แทน

"โว้ว! ใช้ได้เลยแฮะ" ร่างเล็กผุดยิ้มเมื่อได้ลองออกคำสั่งควบคุมเกราะโดยใช้สมองส่งสัญญาณ จาร์วิสจับตามองภาพนั้นอย่างระมัดระวังก่อนเตือนอย่างเป็นห่วง

"ท่านครับ ผมว่าควรรอดูผลกระทบทั้งด้านกายภาพและชีวภาพของระบบ Extremis ก่อนที่จะลองใช้นะครับ" เสียงสังเคราะห์สำเนียงอังกฤษกล่าวเครียดๆ"ยังมีข้อมูลอีกหลายล้านล้านไบท์ที่ต้องประมวลผล และเรื่องผลข้างเคียงก็ยัง......"

โทนี่พูดสอดขึ้นมาก่อนพ่อบ้านสมองกลจะกล่าวจบ "พอเลย ชั้นเถียงกับตาแก่นั้นมามากพอแล้ว โครงการนี้มันช้าไปมากแล้ว แถมกิลเลียนก็ยังเร่งมาแล้วด้วย"

"แต่ผมว่าผู้ชายคนนั้นดูไม่น่าไว้วางใจนะครับ จากการสืบค้นพบว่าเขาอาจมีการติดต่อซื้อขายเทคโนโลยีในตลาดมืดกับผู้ก่อการร้าย"

"หุบปาก จาร์วิส หรือนายอยากตามสตีฟไปอยู่ที่สตาร์คทาวเวอร์" โทนี่ตวาดเสียงขุ่นก่อนจะหันไปทดสอบต่อโดยไม่สนใจ

การพัฒนาชุดไอรอนแมนคราวนี้โทนี่คิดการณ์ใหญ่ถึงขนาดร่วมมือกับอัลดริช กิลเลียน ซึ่งเป็นนักพันธุกรรมวิทยาเพื่อทำการวิจัยเรื่องนาโนบอท Extremis เลยทีเดียว แต่ด้วยความอันตรายและผลข้างเคียงที่ยังไม่ทราบผลทำให้คนรอบตัวโทนี่ตักเตือน

แม้แต่สตีฟ โรเจอร์ ต้องคัดค้านด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แม้จะเข้าใจถึงความต้องการของโทนี่ที่อยากพัฒนาเกราะไอรอนแมนให้มีประสิทธิภาพพอจะต่อสู้กับภัยร้ายนอกโลกที่ทำให้หวาดระแวงจนนอนไม่หลับมาตลอด

แต่ด้วยความใจร้อนและดื้อด้านของเจ้านายเขาทำให้ต้องทะเลาะกันเป็นเรื่องใหญ่จนกัปตันอเมริกาต้องกลับไปฐานทัพชีลด์เพื่อสงบสติอารมณ์

"จาร์วิส  เปิดระบบเชื่อมต่อชุดเกราะกับ Extremis ที่ร้อยเปอร์เซนต์" โทนี่ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว ตั้งแต่ที่สตีฟไม่อยู่เขาก็กลับมานอนไม่หลับและร่างกายทรุดโทรมอีกครั้ง แต่จาร์วิสก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเฝ้าดูอย่างเงียบงัน

"As you wish,Sir" จาร์วิสถ่ายโอนระบบปฏิบัติการเกือบทั้งหมดของตัวเองลงในมาร์ค47แล้วเชื่อมต่อเข้ากับระบบExtremisแบบสมบูรณ์ ชิ้นส่วนชุดเกราะสีทองนวลค่อยๆประกอบร่างขึ้นบนตัวของโทนี่

แต่มีบางอย่างในการถ่ายโอนที่ผิดปกติไป ระบบนาโนบอทเหมือนจะต่อต้านการเข้าประสานข้อมูล จาร์วิสแจ้งเตือนแต่ดูโทนี่จะไม่ใส่ใจ

จนกระทั่งชุดเกราะไอรอนแมนมาร์ค47 ครอบคลุมร่างโทนี่ได้อย่างสมบูรณ์และโทนี่ยืนยิ้มกับความสำเร็จอย่างพึงพอใจ "อืม....เจ๋งไปเลย จาร์วิส ไหนไปทดลองบินกันหน่อยซิ"

ก่อนที่จาร์วิสจะกล่าวแย้ง บางอย่างที่คล้ายกับกระแสไฟฟ้าก็แทรกผ่านเข้ามาในแผงวงจร ระบบประมวลผลขัดข้องจนเขาไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลต่อไป ภาพโฮโลแกรมเบื้องหน้าที่โทนี่เห็นอยู่พร่าเบลอจนอ่านไม่ออก

"จาร์วิส? นายเป็นอะไร หน้าจอมัน.........อุ๊บ"

ร่างในชุดเกราะทรุดลงนั่งตัวงอ โทนี่ที่อยู่ภายในกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงอยู่ในไขสันหลังราวกับถูกเผาไหม้

"จาร์วิส! เกิดอะไรขึ้น ชั้น...........ขยับไม่ได้" ในขณะที่โทนี่หายใจหอบอย่างทรมาน จาร์วิสพยายามที่จะค้นหาสาเหตุของอาการนี้แต่ก็ทำอะไรแทบไม่ได้เพราะถูกกดทับไว้ด้วยระบบอื่นที่แผ่เข้ามาควบคุม

"โทนี่.......รีบ..........ปลดการเชื่อมต่อ.....ผมถูกแฮค......." ก่อนที่คำพูดของเขาที่กลายเป็นเพียงเสียงแตกพร่าจะพูดจบคำ โฮโลแกรมของระบบในชุดไอรอนแมนก็เป็นสีแดงพรืดไปทั้งหน้าจอ ตัวหนังสือสีดำมืดที่อ่านออกได้ว่า YOU LOST, MR STARK ปรากฏขึ้นมาให้เห็น

จาร์วิสรู้สึกเหมือนกระแสไฟถูกตัดขาดจนทั้งโลกมืดดับ ในเวลาเดียวกันกับที่โทนี่รู้สึกว่าสติกำลังจะขาดหายพร้อมเสียงชุดเกราะหนักอึ้งที่หล่นกระทบพื้น

.............................................

ดวงตาสีน้ำตาลที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อปรือเปลือกตาขึ้นรับแสงจ้า ในสมองที่ปวดหนึบไม่แพ้กับร่างกายที่แสบร้อนราวกับโดนเผาไปทั้งตัว ร่างเล็กพยายามพยุงตัวลุกขึ้นก่อนที่จะรู้ว่ามือทั้งสองของตนถูกผูกด้วยสายไฟและโยงไว้กับชั้นเหล็กสูงด้านหลัง

โทนี่สะบัดหัวแล้วออกแรงแขนดึงอย่างแรงแต่พันธนาการนั้นก็ยังไม่ขยับเขยื้อน เขามองรอบตัวอย่างงุนงงแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในห้องเวิร์คช็อปใต้ดินที่คุ้นตาของตนเอง

นี่มันบ้าอะไรเนี่ย...................เขาฝันร้ายอีกแล้วเรอะ  โทนี่คิดก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงหนักๆดังกระทบพื้นจากด้านหน้า

ชุดเกราะมาร์ค 47ที่เคลื่อนตัวมาด้วยท่าทางมุ่งร้ายทำให้เขาต้องเบิกตากว้าง เสียงสังเคราะห์ที่ลอดผ่านลำโพงเสียงของหุ่นคล้ายคลึงกับเสียงจาร์วิสจนน่าตกใจ

"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน มิสเตอร์สตาร์ค.........." พร้อมเสียงหัวเราะต่ำไม่เป็นธรรมชาติ โทนี่เขม้นตามองเครื่องจักรเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด

".......นายนี่มีพ่อบ้านที่น่าสนใจดีนะ โทนี่ ฉลาด และเชื่อฟังจนชั้นอยากมีไว้ที่บ้านซักคนเลยล่ะ" ชุดเกราะหยุดนิ่งลงพร้อมจอโฮโลแกรมสีแดงที่ฉายภาพบิดเบี้ยวของชายผมสีบลอนด์ท่าทางสำอางในสูทหรู "สงสัยต้องขอยืมซักพักแล้ว"

"กิลเลียน" โทนี่กัดฟันกรอด "นายทำอะไรกับชั้น.....กับจาร์วิส"

"ก็บอกแล้วไงว่าขอยืม....เพื่อนรัก อ้า รวมไปถึงวิทยาการเชื่อมต่อExtremisกับหุ่นต้นแบบที่นายทำให้กับกองทัพด้วยละกันนะ ขอบคุณมาก" ใบหน้าหล่อเหลาในจอนั้นยิ้มกว้างแล้วหันไปมองชุดเกราะมาร์ค 47 อย่างชื่นชม

"จาร์วิส? ชื่อนี้สินะ Ai ของนายนี่น่าสนใจมากเลย ระบบป้องกันแข็งแกร่งจนชั้นต้องกลุ้มเลยล่ะถ้าไม่ได้เพื่อนฝูงตัวเล็กๆในตัวนายช่วยไว้"

ในตัวชั้น?...............นาโนบ็อท กิลเลียนเข้าควบคุมจาร์วิสผ่านระบบที่แฝงมาในตัวเขาตอนที่ปลูกถ่ายไวรัสExtremisอย่างนั้นสินะ โทนี่คิดด้วยความเคียดแค้น เขาพลาดท่าเพราะความใจร้อนวู่วามของตัวเองอีกแล้ว

แขนจักรกลของมาร์ค47ยกขึ้นก่อนแสงจ้าจะพุ่งตรงไปสู่ตู้เก็บชุดไอรอนแมนเวอร์ชั่นอื่นๆที่ประดับไว้ส่วนในเวิร์คชอป เสียงระเบิดของรีพัลเซอร์ดังขึ้นพร้อมกลุ่มไฟที่แผดเผาเกราะเหล็กของเขายับเยินจนไม่เหลือซาก

"มีชุดใหม่แล้วนายคงไม่เก็บของเก่าไว้สินะ โทนี่.....สำหรับนายต้องของดีเยี่ยมที่สุดนี่นา" อัลดริช กิลเลียน กล่าวด้วยดวงตายิ้มแย้มแฝงแววโหดเหี้ยม "อีกอย่างมันอาจทำให้สินค้าใหม่ของชั้นราคาตกน่ะ กำลังว่าจะเอา iron patriotไปเสนอให้กับลูกค้าอยู่พอดี"

ร่างของเกราะเหล็กก้าวเข้ามาใกล้ตัวเขาแล้วยืนตรงนิ่งเบื้องหน้า ไฟLEDสีฟ้าอ่อนที่ดวงตาของหุ่นที่เหมือนจ้องมองมาทำให้เขารู้สึกขนลุก ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกหุ่นยักษ์ดันจนตัวลอยจากพื้นด้วยแรงมหาศาล โทนี่ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อรู้สึกว่ากระดูกแขนของคนถูกบีบแน่นจนร้าว

"โอ้วๆๆๆๆ ท่าทางนายสองคนคงอยากมีพื้นที่ส่วนตัวกันแล้วสินะ ชั้นว่าชั้นขอตัวก่อนดีกว่า" ชายผมบลอนด์แกล้งเอามือปิดหน้าอย่างขวยเขิน "แล้วไม่ต้องเป็นห่วงเพราะชั้นให้ จาร์วิส คุมทุกอย่างไว้ไม่ให้ใครมารบกวนนายด้วย"

โทนี่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเมื่อใบหน้าของชุดเกราะนั้นเลื่อนเข้ามาใกล้จนกระทั่งเขาสัมผัสได้ถึงความร้อนจากผิวโลหะ กิลเลียนยักคิ้วแล้วกล่าวต่อ

"ชั้นเห็นข้อผิดพลาดบางอย่างในโปรแกรมพ่อบ้านผู้น่ารักของนายแน่ะ จุดอ่อนเดียวที่ชั้นเจาะเข้าไปได้แล้วเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยด้วยไวรัสให้เขา......กล้าแสดงออกขึ้นนิดหน่อย น่าสนใจ น่าสนใจ"

"นายเป็นคนแรกเลยนะเนี่ย ที่ทำให้ Ai มีชีวิตจิตใจน่ะ " ใบหน้าสำอางนั้นหัวเราะเคิกคักก่อนที่จอสีแดงจะดับวูบ "ใช้เวลากับ ชุดเกราะที่รัก ให้สนุกนะ โทนี่"

และโทนี่ก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นจากหุ่นเหล็กพร้อมกับที่เสื้อกล้ามสีดำของเขาถูกฉีกทึ้งออกจากตัวด้วยแขนจักรกล

"You're mine.......Tony"

.............................................

สตีฟ โรเจอร์จ้องมองสตาร์คโฟนรูปทรงเรียวบางในมือด้วยสีหน้าลังเลใจ นิ้วมือใหญ่เลื่อนไปที่รายชื่อหมายเลขโทรศัพท์สุดท้ายที่เขาใช้โทรประจำ ก่อนจะกดปิดทิ้ง

เขาไม่มีธุระอะไรซักหน่อย แล้วอีกอย่างโทนี่คงไม่อยากให้เขายุ่งเกี่ยวกับชีวิตเขาไปมากกว่านี้......สตีฟคิดด้วยความน้อยใจเล็กๆที่ดูท่าว่าโทนี่จะไม่ฟังคำเตือนของเขาในเรื่องชุดเกราะใหม่เลย

ซึ่งเขาจะทำอะไรได้ ในเมื่อความสัมพันธ์ของเขากับโทนี่ที่จะเรียกว่าคนรักก็ยังไม่ได้.....ถ้าจะว่าไปคำนั้นน่าจะใช้กับโทนี่และจาร์วิสมากกว่า

ทั้งอยู่ด้วยกันตลอดเวลา.....เข้าอกเข้าใจกันยิ่งกว่าใคร แถมยังเป็นคนที่โทนี่ขาดไม่ได้ขนาดนั้น.....

แต่ด้วยความที่วันนี้เขารู้สึกกระวนกระวายจนทนไม่ไหว เหมือนมีลางบอกเหตุอะไรให้เขาอยากได้ยินเสียงโทนี่ขึ้นมา อยากรู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายเป็นยังไง....อยู่ที่ไหน อาจเป็นเพราะเขากลับมาอยู่ที่นิวยอร์คได้เกือบเดือนแล้วล่ะมั้ง

ถือเป็นช่วงห่างที่น่าจะโทรไปได้อย่างไม่น่าเกลียดนัก สตีฟหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหาโทนี่ด้วยใจเต้นไม่เป็นส่ำ เสียงสัญญาณโทรศัพดังขึ้นระหว่างรออีกฝ่ายรับสาย

ตื้ด............ตื้ด.......................ตื้ด...................................ตื้ด..........................................

นานหลายช่วงอึดใจจนสตีฟสงสัย ถ้าโทนี่มารับไม่ได้จาร์วิสก็น่าจะใช้ระบบอัตโนมัติรับแทนนี่นา...... ระหว่างที่เขากำลังลังเลใจว่าควรวางสายดีหรือไม่ เสียงปลายสายก็ดังขึ้นมา

"ส..........สตีฟ" เสียงนั้นฟังดูแปลกหูจนเขาต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย "โทนี่? คุณโอเคหรือเปล่า"

"อึก..............แฮ่ก................ชั้น........." เสียงแหบพร่าที่ดังลอดมานั้นคล้ายจะแฝงไปด้วยความเจ็บปวด "....แค่.....ฝันร้าย"

"โทนี่.....ให้ผมไปหามั้ย?"สตีฟถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เสียงหายใจหอบนั้นจะดังกระชั้นขึ้นไม่เป็นจังหวะ "ชั้นไม่เป็นอะไร ฮึก........."

เสียงนั้นยิ่งทำให้เขาว้าวุ่นใจ โทนี่จะฝืนตัวเองจนป่วยไปอีกหรือเปล่า ขณะที่คิดจะถาม เสียงโทนี่กัดฟันกรอดแล้วกล่าวเสียงกร้าว "อย่ามาหาชั้น สตีฟ"

ก่อนที่สัญญาณปลายสายจะขาดหายไป ทิ้งให้สตีฟ โรเจอร์นิ่งอึ้งกับท่าทีอันแปลกประหลาดของชายคนที่เขารัก

.............................................

โทนี่ทรุดตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรงบนพื้นซีเมนต์ แต่ด้วยความที่แขนถูกพันธนาการไว้จึงต้องยันกายไว้ด้วยขาสั่นเทา ร่างเล็กที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบขาวขุ่นและเสื้อผ้าขาดวิ่นยืนหอบหายใจแรงพิงราวเหล็กไว้เพื่อพยุงตัว

ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองร่างเบื้องหน้าอย่างแค้นเคือง ชุดเกราะเหล็กที่ปลายนิ้วแตะอยู่ที่แผงอกเปลือยเปล่าแล้วลูบแผ่ว เขาสะดุ้งขึ้นตัวสั่นเมื่อผิวสัมผัสกับโลหะเย็นเยียบ

"คุณกัปตันคนดีคงไม่มาหาแล้วสินะ โทนี่....." ดวงไฟสีฟ้าเย็นชานั้นจับจ้องเบื้องล่างที่เคยถูกมันกอบกุมไว้ โทนี่หัวเราะขื่นก่อนขยับตัวถอยหนีจากการจับต้อง

"ก็ดีแล้วนี่....นายกับชั้นจะได้มีเวลาส่วนตัว.............ใช่มั้ย จาร์วิส" เขาเน้นเสียงเข้มที่ชื่อสมองกลอัจฉริยะเหมือนพยายามเรียกสติให้คืนกลับมา

ซึ่งคงไร้ค่า.....เพราะจาร์วิส.......เพราะโปรแกรมพ่อบ้านของเขาถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว จาร์วิสในชุดเกราะนี้ไม่ใช่เจาร์วิสคนเดิมที่เคยปกป้องดูแลเขา

แต่ก็ยังดีที่เขาไม่ดึงสตีฟเข้ามาเกี่ยวข้อง เขารู้ศักกายภาพของมาร์ค 47ดีว่าหากสู้กันตรงๆแล้วกัปตันอเมริกาคงพ่ายแพ้และอาจบาดเจ็บหนักได้

อย่างน้อยก็ยังทำให้สตีฟปลอดภัย.....และไอ้การทรมาณแค่นี้คงเทียบไม่ได้กับตอนที่ถูกลักพาตัวไปที่อัพกานิสถาน......

โทนี่คิดอย่างขมขื่นเมื่อชุดเกราะนั้นเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้แล้วกดปลายนิ้วมือของมันลงบนต้นขา ความเจ็บแปลบแล่นริ้วเข้ามาจนเขาต้องกัดฟันกรอด

ความเจ็บปวดแค่นี้ก็ไม่เทียบเท่ากับการที่จาร์วิสของเขาถูกทำลายไปหรอก.............เขาหลับตาลง.........แล้วคิดว่านี้เป็นแค่ความฝัน

ความฝัน.....ฝันร้ายที่อีกไม่นานสตีฟจะบอกกับเขาว่าเขาปลอดภัย........ไม่มีอะไรต้องกังวล

และจาร์วิสจะเปิดหน้าต่างให้แสงเข้ามาแยงตาเขาเล่นพร้อมรายงานสภาพอากาศของมาลีบูด้วยสำเนียงอังกฤษกวนประสาทนั่น

ไม่เป็นไร.....เขาแค่ฝันร้ายเท่านั้น.......โทนี่เบือนหน้าหนีจากชุดเกราะตรงหน้าก่อนที่หยดน้ำใสจะร่วงหล่นลงมาจากดวงตา

.............................................

บี๊บ...............

เสียงสัญญาณจากโทรศัพท์ข้างตัวทำให้สตีฟผุดลุกขึ้นมาจากที่นอน เขาจ้องมองหน้าจอที่มีเครื่องหมายข้อความเข้าสีแดงกระพริบเตือน.....แต่ด้วยชื่อผู้ส่งที่ขาดหายไปทำให้เขาแปลกใจ

ข้อความ? จากใครกัน  ในเมื่อคนที่รู้เลขหมายของของเขามีเพียงไม่กี่คนนอกจากหน่วยชีลด์และฟิวรี่..... สตีฟปัดความสงสัยทิ้งไปก่อนเปิดอ่าน

ในข้อความสั้นๆที่มีไฟล์แนบมานั้นทำให้เขาได้อ่านแล้วต้องชาวาบไปทั้งตัว

"Terminate me" ลงชื่อด้วยเครื่องหมายตัว J

TBC.
///////////////////////////////////////////////////////////////

มาเร็วเคลมไวแล้ววิ่งหนี.....จะปาไปตีสามตอนนี้แว้ววว 555 เอาไว้เดี๋ยวมาเติมเกร็ดเกี่ยวกับExtremisและอีตาอัลดริช กิลเลียน ทีหลังนะจ๊ะเบบี๋ย์//ฟิ้ววววว

///////////////////////////////////////////////////////////////
ฝากเพจSuperhusbands  SteveXTony ตามเคย

ไปทำtumblr มาด้วย 555 เอาไว้สกรีมตีฟต๊ากต๊ากตีฟเฉพาะกิจ ว่างๆก็ไปฟอลโล่กันได้นะ เลิฟๆ
http://stonyxcapiron.tumblr.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น